การท่าเรือ เอฟซี” ขยับเดินเครื่องเสริมทัพแบบไม่มีพักในตลาดนักเตะรอบใหม่ ล่าสุดบรรลุข้อตกลงคว้าตัว “มาเธอุส ปาโต” ศูนย์หน้าตัวเก่งชาวบราซิลวัย 30 ปี จาก “บอร์เนียว เอฟซี” ทีมแกร่งในศึกลีกา 1 อินโดนีเซีย เข้ามาร่วมล่าตาข่ายในถิ่นแพท สเตเดียม สำหรับฤดูกาล 2025/26 โดยจะกลายเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญภายใต้การนำทีมของกุนซือเลือดแซมบ้าอย่าง อเล็กซานเดร กาม่า ที่กำลังปั้นโฉมใหม่ให้ท่าเรือชุดนี้เต็มพิกัด

สำหรับ ปาโต ถือเป็นกองหน้าประสบการณ์สูงที่โชกโชนมาแล้วทั่วเอเชีย เจ้าตัวสูงถึง 185 เซนติเมตร สไตล์การเล่นเต็มไปด้วยพลัง ความแข็งแกร่ง และจังหวะจบสกอร์เฉียบขาด โดยย้ายมาอยู่กับ บอร์เนียว เอฟซี เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แม้จะเพิ่งร่วมทีมไม่นาน แต่เขาก็ฝากผลงานไว้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการยิงไป 6 ประตู พร้อมอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 17 นัดในลีก ช่วยต้นสังกัดจบอันดับ 5 ของตารางในฤดูกาล 2024/25 ได้อย่างน่าพอใจ

การมาของเขาถือเป็นดีลที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะนอกจากประสบการณ์ในเวทีลีกอินโดนีเซียแล้ว ปาโต ยังเคยผ่านการฝึกฝนในระบบเยาวชนของ Fluminense ยอดทีมในบ้านเกิด รวมถึง Benfica สโมสรใหญ่แห่งโปรตุเกส ก่อนจะเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในยุโรปกับ STK 1914 Samorin ในลีกสโลวาเกีย ซึ่งที่นั่นเขาได้สร้างชื่อจากฟอร์มอันโดดเด่น ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งกับ Daejeon Hana Citizen ทีมในลีกเกาหลีใต้ และสร้างผลงานโดดเด่นพอให้ได้ไปต่อกับ Shandong Taishan สโมสรบิ๊กเนมในลีกจีน และปิดท้ายก่อนถึงไทยกับ บอร์เนียว เอฟซี ที่เขายิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง

การย้ายมาไทยในครั้งนี้ของ มาเธอุส ปาโต จึงไม่ใช่แค่การเติมเกมรุกให้ทีมเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการเสริมประสบการณ์และมิติเกมบุกให้ท่าเรืออย่างแท้จริง โดยเฉพาะในยุคของ อเล็กซานเดร กาม่า ที่มีแนวทางการเล่นชัดเจน มุ่งเน้นเกมบุกดุดัน และต้องการกองหน้าที่มีทั้งความคมและการเข้ากับระบบทีมได้อย่างกลมกลืน ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ ปาโต มีครบ

ดีลนี้จึงเป็นสัญญาณชัดว่า “สิงห์เจ้าท่า” ภายใต้การนำของกาม่า เอาจริงกับฤดูกาลใหม่ และมีเป้าหมายสูงในการลุ้นพื้นที่หัวตาราง รวมถึงการกลับมาเป็นทีมลุ้นแชมป์ไทยลีกอย่างเต็มตัวอีกครั้ง โดยการดึงตัวศูนย์หน้าที่ผ่านลีกใหญ่ในเอเชียมาอย่างโชกโชนเช่นนี้ บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นของทีมบริหารอย่างชัดเจน

ติดตามความเคลื่อนไหวของทีมระดับหัวตารางไทยลีก รวมถึงข่าวตลาดนักเตะแบบครบทุกมุมก่อนใครได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM