วงการฟุตบอลไทยต้องเสียหนึ่งในแนวรับต่างชาติที่น่าจับตามองไปอีกหนึ่งราย หลังจากที่ “จูลิโอ เซซาร์” ปราการหลังชาวบราซิล วัย 30 ปี ตัดสินใจโบกมือลา สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าเปิดตัวกับสโมสร เปอร์ซิบ บันดุง ทีมแชมป์จากลีกอินโดนีเซีย เพื่อเตรียมลุยศึกฤดูกาล 2025/26
เซซาร์กลายเป็นนักเตะใหม่ของเปอร์ซิบในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะหน้าร้อนนี้ โดยการย้ายไปร่วมทัพของเจ้าตัวถือเป็นหนึ่งในดีลสำคัญที่สโมสรจากแดนอิเหนาเร่งเครื่องปิดให้ทันก่อนเปิดซีซั่น ด้วยเป้าหมายเดียวคือ การป้องกันแชมป์ลีก ที่พวกเขาเพิ่งคว้ามาได้แบบยิ่งใหญ่เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
สำหรับผลงานของ จูลิโอ เซซาร์ กับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2024/25 ถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมากในแนวรับของทีม โดยเขาลงสนามให้กับกว่างโซ้งมหาภัยไปทั้งสิ้น 18 นัดในทุกรายการ พร้อมจัดไป 2 ประตูและอีก 1 แอสซิสต์ แม้จะเล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก แต่เจ้าตัวก็มีจังหวะเติมเกมบุกอย่างอันตราย สร้างโอกาสได้ทั้งจากลูกกลางอากาศและการเติมขึ้นมาเล่นลูกเซ็ตพีซ
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีส่วนร่วมกับทีมตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา แต่สุดท้าย สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ก็ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับเซซาร์ในฤดูกาลใหม่ ท่ามกลางความเสียดายของแฟนบอลที่ต่างยกให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่มีวินัยและความทุ่มเทสูง

การย้ายไปสู่ เปอร์ซิบ บันดุง จึงถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ของเซซาร์ในระดับอาเซียน ซึ่งเขาจะได้ลงสนามในลีกที่มีการแข่งขันสูงไม่แพ้ไทยลีก และจะต้องเจอกับความท้าทายในการรับมือกับแนวรุกที่รวดเร็ว ดุดัน และแฟนบอลที่ขึ้นชื่อว่าเชียร์กันแบบเดือดสุดในภูมิภาค
เปอร์ซิบ บันดุง ถือเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ของลีกอินโดนีเซีย ที่มีฐานแฟนบอลหนาแน่นและบรรยากาศสนามเหย้าที่ร้อนแรง การได้แนวรับประสบการณ์สูงอย่างจูลิโอ เซซาร์ไปร่วมทัพ จะช่วยยกระดับแผงหลังของทีมทั้งในแง่ของความแข็งแกร่ง และภาวะผู้นำในสนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาแสดงให้เห็นตลอดช่วงเวลาที่ค้าแข้งในเมืองไทย
ไม่เพียงแค่เรื่องของเกมรับเท่านั้น เซซาร์ยังมีทักษะในการวางบอลยาว เปิดเกมจากแดนหลัง และการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมที่โดดเด่น ซึ่งจะเป็นอาวุธลับที่เปอร์ซิบสามารถนำไปต่อยอดได้ในการล่าแชมป์ต่อเนื่องทั้งในประเทศและรายการระดับทวีป
แฟนบอลไทยอาจต้องบอกลา แต่ชื่อของ จูลิโอ เซซาร์ ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของแฟนกว่างโซ้ง ในฐานะผู้เล่นที่เล่นเพื่อทีมทุกนาที สู้ทุกจังหวะ และแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง แม้เวลาจะหมุนเปลี่ยนไป แต่ความทรงจำระหว่างเขากับไทยลีกยังคงชัดเจน
เราขออวยพรให้นักเตะสายเลือดแซมบ้ารายนี้ประสบความสำเร็จในเวทีใหม่ และสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดใหม่ในแดนอิเหนา
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของตลาดซื้อขายนักเตะไทยและอาเซียนก่อนใครได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM