ลีซอเปิดใจหลังได้คุยกับชนาธิป

“ธีรเทพ วิโนทัย” หรือที่แฟนบอลรู้จักกันดีในชื่อ ลีซอ อดีตกองหน้าทีมชาติไทย ได้ออกมาเผยถึงบทสนทนากับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ หลังเหตุการณ์ดราม่าในศึก คิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 ที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่ง “เจ” ถูก โมฮานัด อาลี ดาวยิงทีมชาติอิรักเข้าสกัดใส่อย่างรุนแรงจนเล่นต่อไม่ไหว และต้องถูกเปลี่ยนตัวออกทันที

โมฮานัดพยายามขอโทษผ่านคนกลาง

ลีซอเล่าผ่านรายการข่าวกีฬา T Sports 7 ว่า โมฮานัด อาลี พยายามส่งสารขอโทษผ่านเพื่อนนักเตะ โดยใช้เส้นทางจาก เรบิน ซูลาก้า และ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี แข้งการท่าเรือ เอฟซี เพื่อฝากคลิปวิดีโอไปให้เจดู แต่สิ่งนี้กลับไม่ได้รับการตอบรับจากกัปตันทีมชาติไทย เพราะเจ้าตัวมองว่าไม่ใช่การสกัดตามเกมฟุตบอล แต่เป็นการกระทำที่มีเจตนาทำร้ายร่างกาย

ชนาธิปยืนยัน “ไม่ใช่เกมกีฬา”

ลีซอเผยคำพูดของเจว่า “เขาควรออกมาขอโทษต่อสาธารณะ ไม่ใช่พยายามติดต่อผ่านคนกลางหลายขั้นตอน เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่การปะทะในสนาม แต่เป็นสิ่งที่เกินขอบเขตของกีฬา” ซึ่งสะท้อนถึงความผิดหวังและความเสียใจของชนาธิปที่รู้สึกถูกละเมิดมากกว่าการเล่นบอลปกติ

บทสรุปของเหตุการณ์

แม้โมฮานัดจะถูกใบแดงไล่ออกจากสนามทันทีในเกมดังกล่าว แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับแฟนบอลไทยและชนาธิปยังคงชัดเจนว่านี่คือการกระทำที่ “ไร้น้ำใจนักกีฬา” และเป็นรอยด่างในเกมนัดชิงที่ควรจะเป็นการแข่งขันอย่างแฟร์เพลย์


เกร็ดหน้ารู้เกี่ยวกับ : จรรยาบรรณในเกมฟุตบอล

  • ฟีฟ่าและเอเอฟซีมีข้อบังคับชัดเจนเกี่ยวกับการเล่นที่รุนแรงเกินเหตุ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นเจตนาทำร้าย อาจมีโทษแบนยาวเพิ่มเติม
  • หลายกรณีในอดีต นักเตะที่ก่อเหตุรุนแรงจะต้องออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการเพื่อรักษาภาพลักษณ์และลดแรงกดดัน
  • คำว่า “สปิริตนักกีฬา” คือพื้นฐานของฟุตบอล ที่ต้องมาก่อนชัยชนะ เพราะแฟร์เพลย์คือหัวใจสำคัญของการแข่งขัน

ติดตามทุกความเคลื่อนไหววงการลูกหนัง ทั้งไทยและต่างประเทศ ได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM

Categorized in:

ฟุตบอลไทย,