ศึกไทยลีก 2 ระอุเมื่อ นครศรี ยูไนเต็ด ต้องถูก คณะกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาท สั่งปรับเงินรวมกว่า 60,000 บาท หลังเกิดเหตุความไม่สงบจากฝีมือของกลุ่มแฟนบอลในเกมเปิดบ้านพ่าย หนองบัว พิชญ เอฟซี เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2568


จุดเริ่มต้นเหตุวุ่นวายเกม “นครศรี” พบ “หนองบัว”

เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจบเกมที่สนามเหย้าของ นครศรี ยูไนเต็ด ซึ่งพ่ายต่อ หนองบัว พิชญ เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 1-2 ทำให้บรรยากาศในสนามเริ่มตึงเครียด โดยกลุ่มกองเชียร์เจ้าถิ่นไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน โดยเฉพาะจังหวะการให้จุดโทษของทีมเยือนในช่วงท้ายเกม

เมื่อทีมงานผู้ตัดสินทั้ง 4 คนเดินทางถึงปากทางเข้าอุโมงค์ กลุ่มแฟนบอลนครศรีที่ยืนอยู่บริเวณอัฒจันทร์ได้ ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย และ ขว้างขวดน้ำจำนวน 2 ขวด ลงมาอย่างแรง โชคดีที่ไม่ถูกตัวผู้ตัดสิน ขวดน้ำตกกระแทกพื้นเสียงดังสนั่นก่อนเจ้าหน้าที่จะรีบพาทีมผู้ตัดสินเข้าห้องพัก

จากการสอบสวนเบื้องต้น คาดว่าต้นตอของความไม่พอใจมาจากความเห็นต่างในจังหวะที่แฟนบอลเจ้าถิ่นมองว่า ผู้เล่นหนองบัวทำฟาวล์ก่อนที่ทีมจะเสียจุดโทษ


บทลงโทษจากคณะกรรมการวินัย

หลังพิจารณาจากรายงานของผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน คณะกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาทมีมติปรับเงิน นครศรี ยูไนเต็ด รวมทั้งสิ้น 60,000 บาท แบ่งเป็น 3 ข้อหาชัดเจน ดังนี้

  1. กองเชียร์ด่าผู้ตัดสินด้วยคำหยาบคาย
    เข้าข่ายความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ ข้อ 4.1 เดิมต้องปรับ 30,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันในไทยลีก 2 จึงลดเหลือ 20,000 บาท
  2. ขว้างปาขวดน้ำใส่ทีมงานผู้ตัดสิน
    ผิดตามข้อ 4.4 เดิมปรับ 30,000 บาท ลดเหลือ 20,000 บาทตามเกณฑ์ไทยลีก 2
  3. บกพร่องในการควบคุมความปลอดภัยในสนาม
    ไม่สามารถตรวจเช็กได้ว่าแฟนนำขวดน้ำเข้ามาในพื้นที่การแข่งขัน เข้าข่ายความผิดข้อ 5.3.18 (1) เดิมปรับ 30,000 บาท ลดเหลือ 20,000 บาท

รวมยอดค่าปรับทั้งหมดเป็น 60,000 บาท


ข้อกฎหมายและบทลงโทษที่เกี่ยวข้อง

เพื่อความชัดเจน คณะกรรมการได้อ้างอิงระเบียบว่าด้วยการลงโทษ ดังนี้

  • ข้อ 4.1: ด่าบุคคลใดด้วยถ้อยคำหยาบคาย เหยียดหยาม หรือข่มขู่ มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 30,000 บาท
  • ข้อ 4.4: ขว้างปาสิ่งของใส่นักกีฬา เจ้าหน้าที่ หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่ง มีโทษปรับตั้งแต่ 30,000 – 60,000 บาท
  • ข้อ 5.3.18 (1): ความบกพร่องในการรักษาความปลอดภัย ปล่อยให้มีการนำของต้องห้าม เช่น ขวดน้ำ พลุ หรือวัสดุอันตราย เข้ามาในสนาม ปรับตั้งแต่ 30,000 – 50,000 บาท

บทลงโทษเหล่านี้ถือเป็นมาตรการสำคัญของสมาคมฟุตบอลฯ ในการป้องปรามความรุนแรงและพฤติกรรมไม่เหมาะสมของกองเชียร์ เพื่อรักษาบรรยากาศการแข่งขันที่ปลอดภัย


ความสำคัญของมาตรการความปลอดภัยในสนามฟุตบอล

กรณีของ นครศรี ยูไนเต็ด สะท้อนให้เห็นว่า ความปลอดภัยในสนามเป็นเรื่องที่ทุกสโมสรต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่เพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษทางการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาพลักษณ์ของสโมสรและความเชื่อมั่นของแฟนบอลในระยะยาว

การตรวจเข้มบริเวณทางเข้าสนาม ควบคุมของต้องห้าม และการฝึกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้พร้อมรับสถานการณ์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทุกทีมในไทยลีกต้องเร่งปรับปรุง เพื่อยกระดับมาตรฐานฟุตบอลไทยให้ทัดเทียมเวทีสากล


เกร็ดหน้ารู้เกี่ยวกับ : มาตรการด้านความปลอดภัยในไทยลีก

  • สโมสรเจ้าบ้านมีหน้าที่ตรวจเช็กอุปกรณ์ทุกชนิดของแฟนบอลก่อนเข้าสนาม
  • การขว้างปาสิ่งของลงสนามถือเป็นความผิดร้ายแรงและอาจมีบทลงโทษเพิ่มขึ้นหากเกิดความเสียหายต่อบุคคล
  • หากเกิดเหตุซ้ำซาก สโมสรมีสิทธิ์ถูกลงโทษหนักขึ้น เช่น ปิดสนามแข่งขันหรือเพิ่มค่าปรับ
  • สมาคมฟุตบอลไทยใช้มาตรฐานความปลอดภัยตามแนวทาง AFC เพื่อให้สอดคล้องกับฟุตบอลระดับเอเชีย

ขอบคุณรูปภาพจาก Nakhonsi United

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ ไทยลีก 2, ข่าวสโมสร, และบทลงโทษวินัยการแข่งขัน ได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM

Categorized in:

ฟุตบอลไทย,