เอล กลาซิโก้ แห่งประวัติศาสตร์
ศึก เอล กลาซิโก้ ยกแรกของฤดูกาล 2025/26 กลายเป็นแมตช์ที่จารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เมื่อ เรอัล มาดริด เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 ที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เกมนี้ไม่ใช่เพียงการดวลของสองยักษ์จากสเปนเท่านั้น แต่ยังเป็นครั้งแรกที่มีนักเตะอังกฤษสองคนเผชิญหน้ากันในศึกกลาซิโก้อันยิ่งใหญ่ นั่นคือ จู๊ด เบลลิ่งแฮม กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด
ศึกสายเลือดผู้ดี ปะทะกลางกรุงมาดริด
ชาบี อลอนโซ่ กุนซือราชันชุดขาว ตัดสินใจส่งเบลลิ่งแฮมลงบัญชาเกมแดนกลาง ส่วนฝั่งอาซูลกรานาใช้งานแรชฟอร์ด กองหน้าทีมชาติอังกฤษที่ย้ายจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเล่นให้บาร์ซ่าด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งเจ้าตัวระเบิดฟอร์มซัดไปแล้ว 5 ประตูจาก 12 เกมในทุกรายการก่อนเกมนี้
นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เอล กลาซิโก้ ที่นักเตะเลือดผู้ดีลงสนามพร้อมกันในฝั่งตรงข้าม และความพิเศษยังเพิ่มขึ้นเมื่อมีชื่อของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อยู่บนม้านั่งสำรองฝั่งเรอัล มาดริด แม้สุดท้ายเจ้าตัวจะไม่ได้ถูกส่งลงสนาม แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เกมนี้จะมีนักเตะอังกฤษในสนามพร้อมกันถึง 3 รายทันที

รอยต่อความสำเร็จของแข้งผู้ดีในเอล กลาซิโก้
เรอัล มาดริด เคยมีนักเตะอังกฤษระดับตำนานสวมชุดขาวมาแล้วหลายราย ไม่ว่าจะเป็น เดวิด เบ็คแฮม, สตีฟ แม็คมานามาน และ โจนาธาน วู้ดเกต ที่เคยฝากผลงานไว้อย่างโดดเด่น ขณะที่ฝั่งบาร์เซโลน่า การมาของแรชฟอร์ดถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคของ แกรี่ ลินิเกอร์ เมื่อปี 1986 ที่สโมสรดังแห่งแคว้นกาตาลันคว้าผู้เล่นอังกฤษมาเสริมทัพอีกครั้ง นับเป็นสัญญาณสำคัญของการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของผู้เล่นจากเกาะอังกฤษในศึกใหญ่ของสเปน
เบลลิ่งแฮมโชว์ของ – แรชฟอร์ดมีแอสซิสต์แต่ไม่พอ
เกมนี้เปิดฉากมาอย่างเข้มข้นและเร้าใจ นาทีที่ 22 เบลลิ่งแฮมจ่ายบอลสุดคมให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ยิงเบิกร่องให้ราชันชุดขาวขึ้นนำ 1-0 ท่ามกลางเสียงเฮสนั่นทั่วเบร์นาเบว ก่อนที่นาที 38 แรชฟอร์ดจะแสดงฝีเท้าด้วยการจ่ายให้ เฟร์มิน โลเปซ ยิงตีเสมอ 1-1 ให้บาร์เซโลน่ากลับมามีความหวัง
แต่ความเฉียบคมของเบลลิ่งแฮมยังไม่จบ นาที 43 ดาวเตะทีมชาติอังกฤษคนนี้พาบอลทะลุเข้าพื้นที่อันตรายก่อนกดเต็มข้อส่งบอลตุงตาข่าย เป็นประตูชัยให้ เรอัล มาดริด ปิดครึ่งแรกด้วยความได้เปรียบ และสุดท้ายก็เป็นสกอร์ที่ทำให้ทีมเจ้าบ้านคว้าชัยไปในที่สุด
เกมเดือด ปิดท้ายด้วยใบแดงของเปดรี้
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เกมยิ่งเดือดขึ้นไปอีก เมื่อ เปดรี้ กองกลางตัวความหวังของบาร์เซโลน่า โดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้ทีมเยือนเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ส่งผลให้พวกเขาไม่สามารถกดดันเจ้าบ้านได้มากพอ จบเกมเป็นราชันชุดขาวที่คว้า 3 คะแนนสำคัญ เก็บเพิ่มเป็น 28 คะแนนจาก 10 นัด นำโด่งเหนือบาร์ซ่า 5 แต้ม

เกร็ดหน้ารู้เกี่ยวกับ : เอล กลาซิโก้
- “เอล กลาซิโก้” คือศึกดาร์บี้ระหว่าง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 120 ปี
- สองทีมนี้พบกันมากกว่า 250 ครั้งในทุกรายการ โดยราชันชุดขาวเป็นฝ่ายชนะมากกว่าเล็กน้อย
- การดวลของนักเตะอังกฤษในเกมนี้นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเอล กลาซิโก้
ติดตามความเคลื่อนไหวของศึก ลา ลีกา สเปน และศึกดาร์บี้แมตช์ระดับโลก ได้ที่ ฟุตบอลต่างประเทศ GOALSIAM