โธมัส แฟร้งค์ พา “ไก่เดือยทอง” ทะยานสู่หัวตาราง
ผลงานของ โธมัส แฟร้งค์ กุนซือชาวเดนมาร์กวัย 52 ปี กลายเป็นที่จับตามองในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2025/26 หลังจากเข้ามากุมบังเหียน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และพาทีมโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งเกินคาด แม้สไตล์การเล่นของเขาจะถูกวิจารณ์ว่า “ไม่หวือหวาเหมือนยุคก่อนหน้า” แต่ตัวเลขและผลงานบนตารางคะแนนกลับตอบแทนทุกอย่างได้ชัดเจน
ภายใต้การวางหมากของแฟร้งค์ “ไก่เดือยทอง” กลับมามีโครงสร้างเกมรับที่เหนียวแน่นและการเข้าทำที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทีมกำลังรั้ง อันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีก โดยมีสถิติที่ยอดเยี่ยมทั้งเกมรุกและเกมรับ
🔸 อันดับในตารางคะแนน: อันดับ 3
🔸 ประตูที่ทำได้: 17 ลูก (เท่ากับ แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี – รั้งอันดับ 1 ร่วม)
🔸 ประตูที่เสีย: 7 ลูก (รั้งอันดับ 2 ร่วมกับ แมนฯ ซิตี้ และ ซันเดอร์แลนด์)
แม้ต้องเจอปัญหาอาการบาดเจ็บของสองตัวรุกคนสำคัญอย่าง เดยัน คูลูเซฟสกี้ และ เจมส์ แมดดิสัน แต่สเปอร์สยังคงเดินหน้าเก็บแต้มได้อย่างต่อเนื่อง นั่นสะท้อนให้เห็นถึง “วินัยทางแท็กติก” และ “ความยืดหยุ่น” ในแนวทางการทำทีมของแฟร้งค์ที่เริ่มเข้ากับระบบได้อย่างลงตัว

โปรแกรม 3 นัดข้างหน้า – บททดสอบของจริง
สิ่งที่รออยู่ตรงหน้าคือ สามเกมสุดโหด ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญว่ากุนซือเลือดโคนมรายนี้ มีดีพอที่จะพา “ไก่เดือยทอง” ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้จริงหรือไม่ เพราะทุกแมตช์คือศึกชี้ชะตากับทีมระดับบิ๊ก 6 ทั้งสิ้น
📅 โปรแกรม 3 นัดถัดไปของ สเปอร์ส
- วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2568: พบ เชลซี (เหย้า) 🏠
- วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568: พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า) 🏠
- วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568: พบ อาร์เซน่อล (เยือน) ✈️
เกมทั้งสามนัดนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแย่งแต้มธรรมดา แต่คือ “บทพิสูจน์ศักยภาพ” ของทีมที่ถูกมองว่ายังขาดความนิ่งในจังหวะสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อเจอกับทีมระดับท็อปที่มีเกมรุกดุดันและประสบการณ์สูงกว่า
หาก สเปอร์ส สามารถเก็บได้อย่างน้อย 6–7 คะแนนจากสามนัดนี้ ก็อาจถือว่าเป็นสัญญาณชัดเจนว่าพวกเขาพร้อมจะขึ้นมาแย่งแชมป์กับ แมนฯ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล ได้อย่างเต็มตัว
สไตล์ “แฟร้งค์บอล” – ฟุตบอลเน้นระบบแต่มีความเฉียบคม
สิ่งที่แตกต่างจากยุคก่อนหน้าคือ แฟร้งค์เลือกใช้แนวทางที่ “สมดุล” มากกว่า ไม่ใช่ฟุตบอลเกมรุกเต็มตัวแบบเปิดหน้าแลก เขาเน้นการยืนตำแหน่งที่รัดกุม และให้ผู้เล่นเคลื่อนบอลด้วยจังหวะที่แม่นยำ เพื่อป้องกันการเสียบอลกลางสนามซึ่งเป็นจุดอ่อนของสเปอร์สในอดีต
อีกหนึ่งจุดแข็งของกุนซือรายนี้คือการปรับระบบให้เข้ากับขุมกำลังที่มี เช่น การใช้แบ็กสองข้างเติมเกมสูง และให้กองกลางตัวต่ำช่วยซ้อนแนวรับได้ดีขึ้น รวมถึงการดันกองหน้าตัวเป้าไปเล่นในพื้นที่ครึ่งช่องเพื่อเปิดพื้นที่ให้ตัวรุกด้านข้างสร้างโอกาสได้มากขึ้น
สถิติการยิงประตูของสเปอร์สภายใต้การคุมทีมของแฟร้งค์ยังคงอยู่ในระดับสูง และมีค่าเฉลี่ยการยิงตรงกรอบมากกว่าทุกฤดูกาลในรอบ 5 ปีหลังสุด ถือเป็นสัญญาณว่า “ความแม่นยำในการจบสกอร์” ของทีมเริ่มกลับมาแล้ว
แฟนบอลสเปอร์สรอพิสูจน์ – ทีมนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน
แม้หลายฝ่ายยังมองว่าสเปอร์สอาจขาดความลึกของขุมกำลังเมื่อเทียบกับทีมยักษ์ใหญ่ แต่หาก โธมัส แฟร้งค์ สามารถพาทีมผ่านสามนัดนี้ไปได้โดยไม่แพ้เลย ความเชื่อมั่นของแฟนบอลและบอร์ดบริหารจะเพิ่มขึ้นมหาศาล และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการลุ้นแชมป์ปีนี้
แฟนบอลหลายคนเริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง หลังเห็นถึงพัฒนาการของทีมที่มีทั้งความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่น ซึ่งแตกต่างจากยุคก่อนที่มักจะสะดุดในเกมใหญ่

เกร็ดหน้ารู้เกี่ยวกับ : โธมัส แฟร้งค์
- ปัจจุบันอายุ 52 ปี เป็นชาวเดนมาร์ก เคยสร้างชื่อกับ เบรนท์ฟอร์ด ก่อนก้าวสู่สเปอร์ส
- เป็นหนึ่งในโค้ชยุคใหม่ที่เน้น “ระบบแท็กติกอิงสถิติ” และการวิเคราะห์เกมเชิงลึก
- ได้รับรางวัล “ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี” ของเบรนท์ฟอร์ดในปี 2022
- มีชื่อเสียงในเรื่องการพัฒนาเยาวชนและดึงศักยภาพผู้เล่นที่ถูกมองข้ามให้กลายเป็นแข้งระดับแถวหน้า
- ได้รับคำชื่นชมจากสื่ออังกฤษว่าเป็น “มันสมองเงียบ” ของพรีเมียร์ลีก ที่เน้นกลยุทธ์มากกว่าการโชว์ออฟ
แล้วคุณล่ะ คิดว่า “ไก่เดือยทอง” ของโธมัส แฟร้งค์ จะเก็บได้กี่แต้มจาก 3 นัดมหาโหดนี้? มารอลุ้นไปพร้อมกันกับ พรีเมียร์ลีก GOALSIAM