อีกหนึ่งแมตช์เดือดจากศึก บีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีก วัน ฤดูกาล 2025/26 เมื่อคืนที่ผ่านมา “ม้านิลมังกร” ระยอง เอฟซี ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชโบ้” จักรพันธ์ ปั่นปี บุกไปเสมอกับ “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ถึงสนาม ทรู บีจี สเตเดียม 1-1 แบบสุดมันส์ พร้อมสร้างความภูมิใจให้แฟนบอลทั้งจังหวัด หลังสู้กับทีมใหญ่ได้อย่างสูสีและไม่ยอมแพ้แม้ต้องเจอกับแรงกดดันมหาศาล
ม้านิลมังกรไร้พ่าย 2 นัดติด – ฟอร์มกระเตื้องชัดเจน
ผลจากเกมนี้ทำให้ ระยอง เอฟซี ยืดสถิติไร้พ่ายในลีกเป็น 2 นัดติดต่อกัน (ชนะ 1 เสมอ 1) โดยจาก 11 นัดที่ผ่านมา ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 3 มีอยู่ 16 คะแนน รั้งอันดับ 8 ของตาราง ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมเกินคาดสำหรับทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาจากลีกล่างในฤดูกาลก่อน และยังคงรักษามาตรฐานการเล่นได้ดีในทุกนัด
หลังจบเกม “โค้ชโบ้” กล่าวเปิดใจอย่างตรงไปตรงมาว่า
“ในครึ่งแรกก็เป็นเกมที่อึดอัดครับ เกมนี้เรามาเพื่อจะเก็บแต้มอยู่แล้ว แต่ต้องชื่นชม บีจี ที่กดดันเราในช่วงครึ่งแรก เราไม่สามารถที่จะต่อบอลหรือขึ้นเกมได้เลย”
คำพูดนี้สะท้อนถึงความเป็นจริงของเกมที่ “ระยอง” ต้องรับมือกับการครองบอลและการบุกต่อเนื่องของเจ้าบ้านที่เหนือกว่าทั้งศักยภาพและประสบการณ์ แต่สิ่งที่น่าชื่นชมคือแท็กติกและการปรับตัวที่รวดเร็วในครึ่งหลัง

ปรับเกมครึ่งหลัง – พลิกสถานการณ์ด้วยแท็กติกที่เฉียบคม
“โค้ชโบ้” เปิดเผยถึงการแก้เกมในช่วงพักครึ่งที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแมตช์นี้ โดยทีมสามารถตั้งเกมรับได้ดีขึ้น และมีโอกาสสวนกลับที่อันตรายมากขึ้น
“แต่พอครึ่งหลังเราได้มีการปรับวิธีการเล่น น้องๆ ก็สามารถตอบโจทย์แทคติกตรงนี้ได้ สามารถเข้าใจแทคติกและแก้เกมในครึ่งหลังได้ทัน เราได้บอกกับน้องๆ ให้ลดการเสียบอลในแดน เพราะถ้าเราเสียบอลคู่ต่อสู้ก็จะกดดันเราอยู่ตลอดเวลา ซึ่งน้องๆ ก็ทำได้ดีครับ”
จากการปรับจังหวะเกมของโค้ชโบ้ ทำให้ระยองไม่เพียงแค่ยันเสมอได้เท่านั้น แต่ยังมีช่วงหนึ่งที่ครองเกมได้ดีกว่าเจ้าถิ่น และเกือบพลิกแซงขึ้นนำในช่วงท้ายเกมด้วยซ้ำ
โค้ชโบ้ชื่นชมลูกทีม – “เราไม่มาหวังแต้มเดียว แต่เรามาเพื่อสู้”
แม้จะเป็นทีมเล็กแต่ “โค้ชโบ้” ยืนยันว่าจิตใจของนักเตะระยองไม่เคยยอมแพ้ และพร้อมต่อสู้กับทุกทีมในลีก
“เกมนี้เราดีใจที่เก็บ 1 แต้มได้ เราเป็นทีมเล็ก แต่ก็ไม่ได้จะมาหวังแค่ 1 แต้มจากทีมใหญ่ ฟุตบอลเราหวังผลแพ้ชนะอยู่แล้ว เราภูมิใจในตัวน้องๆ ที่เก็บแต้มในเกมนี้ได้”
คำกล่าวของเขาสะท้อนชัดถึงแนวทางของ “ม้านิลมังกร” ภายใต้การคุมทีมของโค้ชโบ้ ที่เน้นหัวจิตหัวใจและความมุ่งมั่นเป็นหลัก แม้ศักยภาพทีมจะยังไม่เทียบเท่ายักษ์ใหญ่ในลีก แต่จิตวิญญาณนักสู้คือสิ่งที่ทำให้ระยองกลายเป็นทีมที่ใครก็ประมาทไม่ได้ในตอนนี้
โปรแกรมนัดต่อไป – ระยองบุกเยือน “พลังกาญจน์ เอฟซี”
โปรแกรมถัดไปของ ระยอง เอฟซี ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน เมื่อพวกเขาจะต้องออกไปเยือน พลังกาญจน์ เอฟซี ในศึก บีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีก วัน 2025/26 นัดที่ 12 วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568 เวลา 18.30 น. ณ สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) ซึ่งเป็นเกมที่ “โค้ชโบ้” ต้องการใช้ต่อยอดความมั่นใจจากแต้มใหญ่ในถิ่นบีจี เพื่อเก็บชัยชนะให้ได้
เกมดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของระยอง เอฟซี ว่าพวกเขาจะสามารถรักษามาตรฐานและพัฒนาเกมรุกให้เฉียบคมขึ้นได้มากแค่ไหน หากสามารถคว้าชัยได้อีกครั้ง โอกาสทะยานขึ้นไปอยู่ครึ่งบนของตารางย่อมเปิดกว้าง
วิเคราะห์ฟอร์ม “ระยอง เอฟซี” – ทีมเล็กแต่ใจใหญ่
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของระยองในซีซั่นนี้คือ “วินัยเกมรับ” และ “จิตใจนักสู้” ลูกทีมของโค้ชโบ้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในแท็กติกอย่างลึกซึ้ง การเคลื่อนที่ของแนวรับและมิดฟิลด์มีการช่วยซ้อนที่ดี ทำให้ยากที่คู่แข่งจะเจาะเข้าทำ ขณะที่เกมรุกแม้จะยังไม่หวือหวา แต่มีความเร็วและความแม่นยำมากขึ้นในจังหวะสวนกลับ
หากทีมสามารถเพิ่มความเฉียบคมในจังหวะสุดท้ายและลดความผิดพลาดในแดนกลางได้อีกนิด “ม้านิลมังกร” มีสิทธิ์ไต่ขึ้นเป็นทีมม้ามืดของฤดูกาลนี้แน่นอน

เกร็ดหน้ารู้เกี่ยวกับ : จักรพันธ์ ปั่นปี
- เป็นอดีตกองกลางชื่อดังของชลบุรี เอฟซี และทีมชาติไทย ช่วงยุคทองของไทยพรีเมียร์ลีก
- เคยทำหน้าที่ผู้ช่วยโค้ชในหลายทีม ก่อนขึ้นมาคุมระยอง เอฟซี อย่างเต็มตัวในปี 2024
- มีสไตล์การคุมทีมเน้นวินัยเกมรับ การเล่นเป็นทีม และการพัฒนาเยาวชน
- ได้รับคำชมว่าเป็นหนึ่งในกุนซือรุ่นใหม่ที่มีแนวทางฟุตบอลสมัยใหม่และมีความเป็นผู้นำสูง
ขอบคุณรูปภาพจาก RYFC – ระยองเอฟซี
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของฟุตบอลไทยลีก บทสัมภาษณ์โค้ช และวิเคราะห์หลังเกมสุดเข้มข้นได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM เว็บไซต์ของแฟนบอลตัวจริง!