มุมเดือดโค้ชหมอนทอง ย้ำชัดไม่เสียใจที่เคยวิจารณ์ อิชิอิ

อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ กุนซือทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยา ออกมายืนยันย้ำชัดว่าเขายังคง ยืนหยัดในความเห็นเดิมทุกถ้อยคำ หลังจากเคยวิพากษ์วิจารณ์ มาซาทาดะ อิชิอิ ว่าไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับ “ทีมชาติไทย” ด้วยเหตุผลว่าฟุตบอลสไตล์ญี่ปุ่นเป็นระบบที่ไม่เข้ากับรากเหง้าของบอลไทย พร้อมเชื่อมั่นว่า สมาคมฟุตบอลฯ ตัดสินใจถูกต้องแล้ว ที่แยกทางกับกุนซือชาวญี่ปุ่นรายนี้

อ.สกล เปิดใจผ่าน MGR SPORT ถึงกระแสคอมเมนต์ในโลกออนไลน์ที่เล่นงานเขาอย่างหนักหลังออกมาวิพากษ์อิชิอิว่า

“ฝากถึงบรรดาแฟนคลับ หรือนักเลงคีย์บอร์ดทั้งหลาย ที่ออกมาวิจารณ์ผม ถามว่าผมโกรธไหม ไอตรงนี้ไม่เคยทำให้ผมท้อแท้ เพราะผมมองว่าความจริงก็คือความจริง…”

@thairath_sport เปิดวิวาทะ "อ.สกล" พาดพิง โค้ชอิชิอิ บอลไทย วิถีไทย ไปบอลโลกได้ #ทีมชาติไทย #tiktokการกีฬา #บอล7สี #อาจารย์สกล #มาดามแป้ง #อิชิอิ #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #ทีมชาติไทย #ช้างศึก #ไทยรัฐสปอร์ต #thairathsport #ไทยรัฐออนไลน์ #ไทยรัฐฟุตบอล #ไทยรัฐบอลไทย ♬ original sound – thairath_sport

อ.สกล อธิบายเหตุผลทำไม “อิชิอิ” ไม่เหมาะกับทีมชาติไทยยุคนี้

จากคำพูดทั้งหมดของอ.สกล เขายืนยันว่าบอลไทยต้องเป็น “ฟุตบอลเกมรุก” เล่นดุดัน เดินหน้าลุย คือสไตล์ดั้งเดิมที่แฟนไทยรัก ไม่ใช่ระบบ คอนโทรลบอลช้า ส่งคืนหลัง แบบญี่ปุ่นที่อิชิอินำมาใช้ ซึ่งแฟนบอลจำนวนมากรู้สึก “ไม่ใช่บอลไทยที่คุ้นเคย”

อ.สกลเสริมว่า หากอิชิอิยังคุมต่อไปแล้วผลงานไม่ดีขึ้น ใครจะรับผิดชอบ? และคำถามสำคัญคือ
อิชิอิสามารถตอบได้หรือไม่ว่าบอลไทยจะไปฟุตบอลโลกได้จริง?

คำตอบคือ “ไม่มี” และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขามองว่าผู้ใหญ่ในสมาคมฯ ตัดสินใจบนหลักการและความเหมาะสม ไม่ใช่อารมณ์

ยกตัวอย่างจาก “หมอนทองกระแสล้นสนาม” ฟ้องว่าคนไทยต้องการบอลสไตล์ไหน

อ.สกลยังชี้ให้เห็นถึงกระแสของทีมโรงเรียนหมอนทองวิทยา ที่เล่นเกมรุกแบบหนักแน่น ลุยแหลก จนแฟนบอลแห่มาเชียร์จนสนามแตกทุกนัด พร้อมย้ำว่า
บอลไทยต้อง “เร็ว ดุดัน และมีจิตวิญญาณไฟท์เตอร์

เขาย้อนภาพอดีตยุคทองของวงการลูกหนังไทย ไม่ว่าจะเป็น

  • มาด๊าด ทองท้วม
  • ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน
  • ประทีป ปานขาว

ทั้งหมดล้วนเป็น ผู้เล่นเกมรุกธรรมชาติ ที่สร้างเสน่ห์ให้แฟนบอลจนสนามแน่นทุกนัด แตกต่างจากปัจจุบันที่บรรยากาศในสนามเบาบางอย่างเห็นได้ชัด

การแยกทางที่ไม่ใช่การตัดขาด และยังเปิดประตูไว้เสมอ

แม้จะมีการปลดอิชิอิ แต่ อ.สกลย้ำว่าไม่ได้ปลดด้วยอารมณ์หรือความสิ้นเยื่อใย พร้อมชี้ว่ากุนซือชาวญี่ปุ่นยังทำงานในไทยต่อได้ และถ้าผลงานดีในอนาคตอาจมีโอกาสหวนคืนสู่ทีมชาติอีกครั้ง

เขายังฝากถึงแฟนบอลและนักเลงคีย์บอร์ดอีกครั้งว่า
การตัดสินใจครั้งนี้เป็นเรื่องของระบบและทิศทาง ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และสุดท้ายเวลาเท่านั้นจะพิสูจน์ว่าการเลือกของสมาคมฯ ถูกต้องหรือไม่

ข้อสรุปทิ้งท้ายจากมุมมอง อ.สกล

อ.สกลปิดท้ายว่า

“ผมเชื่อว่าทางสมาคมฯ ก็คิดดีแล้วว่า อิชิอิ ไม่เหมาะกับฟุตบอลสไตล์แบบไทยๆ การเล่นบอลคอนโทรลส่งกลับคืนหลัง ซึ่งคนไทยไม่ชอบบอลสไตล์นี้ครับ”

เกร็ดหน้ารู้เกี่ยวกับ : สไตล์บอลไทย

  • ฟุตบอลไทยในยุคทองเติบโตจากระบบ เกมรุกเร็ว เน้นความคล่องตัวและความกล้าได้กล้าเสีย
  • ทีมเยาวชนไทยหลายรุ่นประสบความสำเร็จเพราะระบบเพรสซิ่งและบุกเต็มรูปแบบ
  • แฟนบอลไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบฟุตบอลที่เดินหน้าไล่ยิง ไม่เน้นครองบอลช้า
  • การเปลี่ยนโค้ชทีมชาติไทยมักสะท้อนทิศทางใหม่ของสมาคมฯ ในแต่ละยุค

ขอขอบคุณคลิปจาก thairath_sport

ติดตามข่าวฟุตบอลไทยแบบเจาะลึกทุกช็อต ทุกดราม่า ได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM

Categorized in:

ฟุตบอลไทย,