ศึกลอนดอนเดือดที่สแตมฟอร์ด บริดจ์กำลังจะระเบิด
ค่ำคืนวันอาทิตย์นี้ สายแฟนบอล พรีเมียร์ลีก ห้ามกะพริบตา เพราะจะได้ชมดาร์บี้แมตช์แห่งลอนดอนระหว่าง เชลซี เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์รับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล ไม่ใช่แค่เกมวัดแต้มบนตาราง แต่ยังเป็นศึกศักดิ์ศรีของสองทีมเงินหนา และศึก “กลางสนาม” ระหว่างสองมิดฟิลด์ที่ถูกจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้
ชื่อที่ทุกคนพูดถึงหนีไม่พ้น เดแคลน ไรซ์ ห้องเครื่องตัวเก่งของอาร์เซน่อล และ มอยเซส ไกเซโด้ มิดฟิลด์พลังถังของเชลซี ที่สื่ออังกฤษจับมาชนกันแทบทุกสัปดาห์ ยิ่งทั้งคู่กำลังจะเผชิญหน้ากันโดยตรงในเกมใหญ่แบบนี้ ยิ่งทำให้ดีกรีความเดือดของดาร์บี้แมตช์พุ่งขึ้นไปอีกขั้น
ฟอร์มร้อนก่อนดาร์บี้: ปืนใหญ่-สิงห์บลูส์จัดหนักในยุโรป
ก่อนมาปะทะกันในลีก สองทีมเพิ่งโชว์ฟอร์มดุในเวที แชมเปียนส์ ลีก แบบไม่มีใครยอมใคร
- อาร์เซน่อลภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เปิดเอมิเรตส์อัด บาเยิร์น มิวนิค 3-1 พร้อมเสียงชื่นชมไปที่ ไรซ์ ที่คุมกลางสนามเหมือนเจ้าพิภพ
- ส่วนเชลซีของ เอนโซ่ มาเรสก้า เพิ่งโชว์ฟอร์มหรูถล่ม บาร์เซโลน่า 3-0 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยมี ไกเซโด้ เป็นหนึ่งในคนที่ทำงานหนักเงียบ ๆ ในแดนกลาง
ด้วยฟอร์มระดับท็อปของทั้งสองทีม ทำให้เกมนี้ไม่ใช่แค่ “ดาร์บี้กรุงลอนดอน” ทั่วไป แต่มันคือบททดสอบสำคัญของสองทีมที่หวังยืนระยะบนหัวตาราง และเป็นเวทีให้สองกองกลางคนสำคัญวัดกันแบบเต็ม ๆ
@cbssportsgolazo Declan Rice praises Moisés Caicedo ahead of Arsenal’s match against Chelsea 🤝 #UCLToday #UCL #championsleague #premierleague #soccer ♬ original sound – CBS Sports Golazo
ไรซ์ยกย่องไกเซโด้ – แต่ขอชัด ต่างคนต่างสไตล์
แม้สื่อจะพยายามปั่นกระแสเปรียบเทียบ แต่ตัวนักเตะกลับมองกันด้วยความเคารพ ไรซ์ออกมาพูดชัดว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการเอาทั้งคู่มาเทียบกันแบบตัวต่อตัว เพราะ “เล่นคนละบทบาท”
ไรซ์เผยว่า เขาให้ความเคารพ ไกเซโด้ มาตั้งแต่สมัยยังเล่นให้ ไบรท์ตัน โดยเคยดวลกันในตอนที่ตัวเองยังอยู่ เวสต์แฮม และถึงขั้นยอมรับว่าเคยโหวตให้ไกเซโด้ติดทีมยอดเยี่ยม PFA ในใจของเขามาแล้ว
คำพูดของไรซ์ไม่ได้มีอารมณ์ท้าทายเลย แต่เต็มไปด้วยความนับถือในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ พร้อมย้ำว่าเกมนี้จะเป็น “การดวลที่น่าตื่นเต้น” มากกว่าจะเป็นสงครามส่วนตัว
ศึกตำแหน่งหมายเลข 6 vs หมายเลข 8 กลางสนาม
หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ ไรซ์ ย้ำคือ เรื่อง “ตำแหน่ง” ที่ทำให้สองคนนี้ถูกเข้าใจผิดบ่อยครั้ง
- ไกเซโด้ เล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับเต็มตัวหรือ “หมายเลข 6” คนที่คอยปัดกวาดหน้าเกมรับ อ่านจังหวะดักบอล ตัดเกม และเป็นเกราะด่านแรกก่อนถึงแนวรับสิงห์บลูส์
- ส่วนไรซ์ในระบบของอาร์เซน่อลมักเล่นเป็น “หมายเลข 8” มากขึ้น มีอิสระในการขึ้นลงทั้งรุกและรับ วิ่งเชื่อมเกมไลน์กลางกับแนวรุก อีกทั้งยังรับผิดชอบเรื่องวางบอลยาวและสร้างสรรค์เกมในหลายจังหวะ
ตรงนี้ทำให้การเอาสองคนมาเปรียบเทียบกันตรง ๆ เรื่องสไตล์ อาจไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ เพราะหน้าที่ในสนามไม่เหมือนกัน แม้ทั้งคู่จะเป็นมิดฟิลด์ที่มีอิมแพ็คสูงเหมือนกันก็ตาม
ความหมายของเกมนี้ต่อทั้งสองทีม
เกมวันอาทิตย์นี้ไม่ได้มีแค่เรื่องศักดิ์ศรี ยังมีผลโดยตรงต่อรูปแบบฤดูกาลของทั้งสองสโมสร
- ถ้าอาร์เซน่อลเก็บชัยชนะได้ในฐานะจ่าฝูง พวกเขาจะฉีกหนีเชลซีออกไปเป็น 9 คะแนน ทำให้เส้นทางลุ้นแชมป์ยิ่งมั่นคงขึ้น
- หากเชลซีสามารถล้มปืนใหญ่ได้ที่บ้านของตัวเอง นอกจากจะตัดแต้มคู่แข่งโดยตรงแล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณชัด ๆ ว่า “สิงห์บลูส์กลับมาแล้ว” พร้อมลุยลุ้นพื้นที่ยุโรปแบบจริงจัง
ด้วยเงื่อนไขแบบนี้ ทำให้จุดเล็ก ๆ อย่าง “การดวลกลางสนาม” ระหว่าง ไรซ์ กับ ไกเซโด้ ยิ่งทวีความสำคัญ เพราะฝ่ายที่คุมโทนแดนกลางได้มากกว่า มีโอกาสสูงที่จะคุมเกมทั้งแมตช์
คำพูดของไรซ์ก่อนเกม: ย้ำอีกครั้งเรื่องความเคารพ
ไรซ์ทิ้งท้ายแบบชัด ๆ ว่า สำหรับเขาแล้วสิ่งสำคัญไม่ใช่การพิสูจน์ว่าใครเก่งกว่าใคร แต่คือการพาอาร์เซน่อลคว้าชัยในเกมใหญ่ให้ได้
เขาย้ำว่า
- เคารพในฝีเท้าและความทุ่มเทของไกเซโด้
- รับรู้ดีถึงคุณภาพของกองกลางเอกวาดอร์รายนี้ตั้งแต่สมัยเล่นในทีมเล็กอย่างไบรท์ตัน
- พร้อมเผชิญหน้ากันแบบแฟร์ ๆ ในสนาม และเชื่อว่าจะเป็น “การต่อสู้ที่น่าตื่นเต้น” ของสองคนที่ต่างก็เล่นเพื่อทีมอย่างสุดตัว
นี่คือโทนเสียงของกัปตันในอนาคต – แข็งกร้าวในสนาม แต่ให้เกียรติคู่แข่งนอกเกม
เกล็ดความรู้ก่อนเกมดาร์บี้แมตช์ เชลซี vs อาร์เซน่อล
- ดาร์บี้ลอนดอนระหว่างเชลซีกับอาร์เซน่อล มักมีผลต่อโมเมนตัมของทั้งสองทีมในช่วงสำคัญของฤดูกาล แพ้ทีรูปเกมและบรรยากาศในห้องแต่งตัวเปลี่ยนทันที
- ตำแหน่งหมายเลข 6 และหมายเลข 8 ในฟุตบอลสมัยใหม่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นจุดเชื่อมระหว่างเกมรับกับเกมรุก ทีมที่มีมิดฟิลด์สองบทบาทนี้ครบ มักทำให้ระบบทั้งทีมไหลลื่น
- ไรซ์และไกเซโด้เคยถูกเชื่อมโยงกับทั้งเชลซีและอาร์เซน่อลมาก่อนทั้งคู่ ก่อนที่ดีลจะลงเอยแบบคนละทิศคนละทางในตลาดนักเตะ
- การออกมาให้สัมภาษณ์เชิงยกย่องกันแบบนี้ มีส่วนช่วยลดความตึงเครียด และสะท้อนภาพของฟุตบอลอาชีพยุคใหม่ ที่แข่งกันดุในสนามแต่ให้เกียรติกันนอกสนาม
- ดาร์บี้แมตช์แบบนี้มักถูกใช้วัด “มาตรฐานแท็กติก” ของทั้งสองกุนซือ ว่าใครแก้เกมในสถานการณ์กดดันได้เฉียบคมกว่ากัน
บทสรุปก่อนระเบิดศึกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
คำพูดของ เดแคลน ไรซ์ ก่อนเกมว่า “ผมเคารพ มอยเซส มาก” ทำให้ดาร์บี้แมตช์นี้ดูมีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่การวัดกันด้วยสกอร์บนสกอร์บอร์ด แต่คือการดวลกันด้วยแนวคิดฟุตบอลและความเป็นมืออาชีพของสองมิดฟิลด์ระดับท็อป
วันอาทิตย์นี้ แฟนบอลจะได้เห็นชัด ๆ ว่า ใครจะคุมจังหวะเกมได้เหนือกว่า ใครจะเป็นคนพาทีมของตัวเองยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้คู่แข่งร่วมเมือง และผลการแข่งขันจะส่งแรงสะเทือนต่อเส้นทางลุ้นแชมป์และพื้นที่ยุโรปมากแค่ไหน
แฟนบอลที่ไม่อยากพลาดทุกมุมมองเข้ม ๆ แบบนี้ ทั้งก่อนเกม หลังเกม และทุกประเด็นร้อนในโลกลูกหนัง แวะมาติดตามได้ที่ พรีเมียร์ลีก GOALSIAM เราจะพาคุณเกาะทุกจังหวะใหญ่ของฟุตบอลอังกฤษแบบไม่มีตกข่าว
