ม้าลายเก็บชัยได้แต่ฟอร์มยังไม่นิ่งในเวทีใหญ่

แม้ผลลัพธ์จะออกมาสวยด้วยการคว้า 3 แต้มสำคัญในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่คำให้สัมภาษณ์ของ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ หลังเกมที่ ยูเวนตุส เฉือนชนะ พาฟอส จากไซปรัส กลับสะท้อนอีกด้านหนึ่งของค่ำคืนนี้อย่างชัดเจน กุนซืออิตาเลียนยอมรับเต็มปากว่าฟอร์มในครึ่งแรก “น่าอาย” ในหลายจังหวะ ทั้งการตัดสินใจ การยืนตำแหน่ง ไปจนถึงความดุดันเวลาเสียบอล

อย่างไรก็ดี ม้าลายยังคว้าชัยเป็นนัดที่สองติดต่อกันในรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้เก็บได้ 9 คะแนนจาก 6 นัด ยังมีลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟต่อไป และที่สำคัญ สปัลเล็ตติเริ่มส่งสัญญาณชัดว่าอยากปักหมุดสไตล์ทีมไปที่ระบบ 4-2-3-1 ในระยะยาว

ครึ่งแรกโดนโห่ – พาฟอสขู่ยิงแซงตลอดเวลา

บรรยากาศในอัลลิอันซ์ สเตเดี้ยมช่วงพักครึ่งเต็มไปด้วยเสียงโห่จากแฟนบอลเจ้าถิ่น เพราะรูปเกมเหนือความคาดหมาย หลายคนคิดว่า พาฟอส จะมาเน้นรับลึก แต่กลายเป็นว่าทีมเยือนเล่นเกมสวนกลับได้มีชีวิตชีวา มีโอกาสลุ้นออกนำหลายครั้ง

แนวรุกไซปรัสได้ส่องทั้งชนเสา บังคับให้ มิเคเล่ ดิ เกรกอริโอ ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟหลายจังหวะ ขณะที่ฝั่งม้าลายเอง เจาะแนวรับคู่แข่งแทบไม่เข้า การเคลื่อนที่ไม่มีจังหวะซัพพอร์ตกัน ทำให้ครึ่งแรกจบลงแบบน่าอึดอัดทั้งในสนามและบนอัฒจันทร์

สปัลเล็ตติยอมรับ “บางจังหวะน่าอายจริง ๆ”

หลังเกมกุนซือวัยเก๋าพูดตรงไม่อ้อมค้อมว่า ทีมทำได้แค่ “ขั้นต่ำสุด” ใน 45 นาทีแรก

“เราต้องทำได้ดีกว่านี้เยอะ เด็ก ๆ เองก็รู้สึกไม่พอใจกับตัวเอง บางจังหวะในครึ่งแรกมันน่าอายจริง ๆ”

คำพูดนี้สะท้อนชัดว่ามาตรฐานที่สปัลเล็ตติต้องการจาก ยูเวนตุส ยังห่างจากสิ่งที่เห็นในสนามพอสมควร

ปรับหมากครึ่งหลัง เปลี่ยนตัวถูกที่ ชนะเกมถูกเวลา

เข้าสู่ครึ่งหลัง สปัลเล็ตติเริ่มขยับเปลี่ยนแท็กติกและบุคลากร เกมของม้าลายดูมีชีวิตขึ้นทันที เมื่อเขาส่ง ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา ลงมาแทน เอดอน เชโกรว่า เพิ่มมิติการเลี้ยงกินตัวและสปีดริมเส้น

ในที่สุดประตูปลดล็อกก็มาถึงนาที 67 จากจังหวะประสานงานสวย ๆ ที่ อันเดรีย คัมเบียโซ่ เติมสูงทางริมเส้นก่อนเปิดให้ เวสตัน แม็คเคนนี่ สอดขึ้นมากดไม่เหลือ เป็นการปลดล็อกความกดดันทั้งสนาม

เพียง 6 นาทีถัดมา ในจังหวะที่ทีมเตรียมเปลี่ยนตัวเขาออก โจนาธาน เดวิด ดันหลุดขึ้นมาจบสกอร์ลูกที่สองสุดเฉียบขาด ปิดเกมด้วยสกอร์ 2-0 จากรูปแบบการเข้าทำที่ไหลลื่น เป็นทีมเวิร์กที่สปัลเล็ตติยกให้เป็นตัวอย่างของ “ฟุตบอลแบบที่อยากเห็นจากยูเวนตุส”

จุดอ่อนแนวรับ – ปัญหาที่โค้ชม้าลายต้องรีบแก้

แม้จะชนะ แต่สปัลเล็ตติไม่ปิดบังเลยว่า ทีมยังมีปัญหาใหญ่ในเกมรับ โดยเฉพาะเรื่องตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กฝั่งขวา

เขาย้ำว่าต้องการเซ็นเตอร์ถนัดเท้าขวาที่เล่นได้ตามธรรมชาติ เพราะตอนนี้ต้องจับ ปิแอร์ คาลูลู ที่เหมาะจะเป็นแบ็กขวามายืนเซ็นเตอร์ชั่วคราว ขณะที่ แม็คเคนนี่ ก็ถูกโยกไปช่วยเกมรับบ่อยครั้ง เช่นเดียวกับ คัมเบียโซ่ ที่เดิมทีเป็นฟูลแบ็กสายเติมเกมรุก แต่เมื่อเจอคู่แข่งสายพละกำลัง ก็เริ่มมีปัญหาเวลาโดนดวลตัวต่อตัว

ทั้งหมดนี้ทำให้ม้าลายเปิดพื้นที่ให้ พาฟอส ได้ลุ้นแบบเกินความจำเป็นในครึ่งแรก และเป็นสัญญาณชัดว่า หากอยากไปไกลใน แชมเปี้ยนส์ลีก ต้องยกระดับคุณภาพแนวรับโดยเร็ว

วิสัยทัศน์ 4-2-3-1 ของสปัลเล็ตติ

จุดที่น่าสนใจที่สุดในคำให้สัมภาษณ์คือ สปัลเล็ตติระบุชัดว่า “เป้าหมายระยะกลาง–ยาว” คือการปั้นยูเวนตุสให้เล่นในระบบ 4-2-3-1 อย่างเต็มรูปแบบ

ระบบนี้ต้องการเซ็นเตอร์แบ็กคู่ที่คุมพื้นที่ได้ดี มีฟูลแบ็กเติมเกมสูงได้ รวมถึงมีมิดฟิลด์สองตัวคุมจังหวะตรงกลาง สนับสนุนสามตัวรุกด้านหน้าและกองหน้าแกนหลักอีกหนึ่งคน ซึ่งกุนซืออิตาเลียนเชื่อว่า ถ้ามีตัวนักเตะตรงตามสเป็ก โดยเฉพาะเซ็นเตอร์ถนัดขวากลับมาพร้อมใช้งาน การขึ้นเกมจากด้านหลังจะลื่นไหลและหลากหลายกว่าปัจจุบันมาก

เขายอมรับว่าตอนนี้ยังต้องปรับเปลี่ยนแท็กติกตามคู่แข่ง และยังไม่สามารถยึดระบบเดียวได้ตายตัว เพราะสภาพทีมบีบให้ต้องประคองทุกนัด แต่ยืนยันว่าภาพในหัวคือ 4-2-3-1 แบบชัดเจน

ตารางโหด–เวลาซ้อมน้อย ตัวแปรสำคัญของฟอร์มทีม

อีกประเด็นที่สปัลเล็ตติบ่นแบบตรง ๆ คือเรื่องตารางแข่งขันสุดโหด เขายกตัวอย่างว่า ทีมเพิ่งกลับจากเกมเยือนเนเปิลส์ตอนตี 5 วันถัดมาก็ต้องเข้าแคมป์เก็บตัวต่อทันที ระยะเวลาซ้อมจริง ๆ บนสนามมีน้อยมาก

“วันนี้เรายังพอมีเวลาแค่ซ้อมตำแหน่งตอนเตะลูกฟรีคิก แต่ไม่มีทางใส่ความเข้มข้นหรือสปีดเกมแบบจริงจังได้เลย”

นั่นเป็นเหตุผลที่เขามักหมุนเวียนผู้เล่นอย่าง เคนาน ยิลดิซ หรือ ฟาบิโอ มีเร็ตติ เพราะอยากให้บางคนได้พักกล้ามเนื้อในช่วง 20 นาทีท้าย ขณะเดียวกันก็ต้องให้พวกสำรองมีเวลาลงสนามปรับตัวกับจังหวะเกมระดับสูง

สปัลเล็ตติยอมรับว่า “พัฒนาการของทีมยังช้าเกินไป” เมื่อเทียบกับมาตรฐานที่เขาคาดหวัง แต่ก็ขอเวลาสร้างสมดุลให้ทุกคนพร้อมทั้งเรื่องสภาพร่างกายและความเข้าใจแท็กติก

เกล็ดความรู้หลังเกม ยูเวนตุส – พาฟอส

  • ชัยชนะเหนือพาฟอสคือการคว้าชัย 2 นัดติดต่อกันในรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของยูเวนตุส ทำให้มี 9 แต้มจาก 6 เกม ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นเพลย์ออฟ
  • เสียงโห่ในช่วงพักครึ่งไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะสะท้อนความคาดหวังอันสูงลิบของสาวกม้าลายต่อทีมในยุคสปัลเล็ตติ – และเป็นแรงกดดันที่โค้ชต้องใช้ให้เป็นพลังบวก
  • การใช้งานแม็คเคนนี่ในตำแหน่งที่หลากหลาย แสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวคือหนึ่งในแข้ง “ยูทิลิตี้แมน” สำคัญของทีม สามารถเล่นได้ทั้งกลางรับ กลางขวา และวิงแบ็ก
  • ระบบ 4-2-3-1 ที่สปัลเล็ตติอยากใช้ เป็นระบบที่กุนซือถนัดมาตั้งแต่สมัยคุมโรม่าและนาโปลี เน้นเกมรุกที่ต่อบอลบนพื้นและการสอดเติมจากแนวสองอย่างต่อเนื่อง

แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งข่าวด่วนขอบสนาม มุมแท็กติก และเรื่องเล่าหลังเกมแบบจัดเต็ม อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ฟุตบอลต่างประเทศ GOALSIAM