บรรยากาศการซ้อมโค้งสุดท้ายก่อนชิงทองซีเกมส์

วันที่ 17 ธันวาคม 2568 เวลา 16.30 น. ณ สนามเอสทีบี อคาเดมี ทัพ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ลงซ้อมอย่างเข้มข้นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเกมใหญ่รอบชิงชนะเลิศ ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ต้องดวลเดือดกับ เวียดนาม ในวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการซ้อมเต็มไปด้วยสมาธิและความมุ่งมั่น ทุกจังหวะการเคลื่อนที่ ทั้งเกมรุกและเกมรับ ถูกขัดเกลาละเอียดเหมือนซ้อมเกมชิงแชมป์จริง

ที่น่าสนใจคือการปรากฏตัวของ แอนโธนี ฮัดสัน เฮดโค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งลงมาดูการซ้อมด้วยตัวเอง ทำให้บรรยากาศในสนามจริงจังมากกว่าปกติ เหมือนเป็นการส่งสารชัดๆ ว่า ทีมซีเกมส์ชุดนี้ไม่ได้เล่นแค่เพื่อเหรียญทอง แต่เล่นเพื่ออนาคตของทีมชาติชุดใหญ่ในระยะยาวด้วย

ซ้อมเน้นแท็กติกครบเครื่อง ทั้งรุก–รับ–ลูกตั้งเตะ

การซ้อมครั้งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อล็อกเป้าไปที่เวียดนามโดยเฉพาะ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชเน้นใส่รายละเอียดในทุกเฟสดเกม ตั้งแต่การเซ็ตบอลจากแนวรับ การเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุกเร็ว การเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย ไปจนถึงจังหวะจบสกอร์

หนึ่งในจุดโฟกัสสำคัญคือ “ลูกตั้งเตะ” ไม่ว่าจะเป็นฟรีคิก มุม หรือทุ่มระยะไกล ซึ่งมักเป็นหมัดหนักในฟุตบอลระดับทัวร์นาเมนต์ การซ้อมเน้นรูปแบบการยืนตำแหน่ง การวิ่งหลอก การโฉบเข้าหาบอล รวมถึงการป้องกันลูกเซตพีซของเวียดนาม ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุดันในลูกกลางอากาศ

การที่ทีมชาติไทยฝึกซ้อมอย่างละเอียดแบบนี้ สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า เกมวันพรุ่งนี้ไม่ได้มีพื้นที่ให้ “พลาดง่ายๆ” แม้แต่วินาทีเดียว

คคนะ คำยก เปิดใจ: ฟิตเต็มร้อย เกมสุดท้ายต้องทิ้งทุกอย่างไว้ในสนาม

ก่อนเริ่มซ้อม คคนะ คำยก มิดฟิลด์จากสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ออกมาอัปเดตสภาพร่างกายและสภาพจิตใจแบบตรงๆ

เขายืนยันว่าตอนนี้ความฟิต “เต็มร้อย” พร้อมลงสู้ในเกมชิงชนะเลิศแบบไม่มีกั๊ก แม้จะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่เต็มไปด้วยโปรแกรมถี่ก็ตาม ที่สำคัญ คคนะยังยอมรับว่า สำหรับใครบางคนในทีม — รวมถึงตัวเขาเอง — นี่อาจเป็น “ทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในระดับซีเกมส์” จึงต้องการเก็บทุกโมเมนต์ในสนามให้มีความหมายที่สุด

คคนะกล่าวชัดว่า การเจอเวียดนามไม่ใช่แรงกดดัน แต่เป็นแรงผลักดัน ทุกคนจะลงสนามด้วยแนวคิดว่า “นี่คือเกมชี้ชะตา” ต้องเล่นแบบไม่เหลืออะไรให้เสียใจทีหลัง

มองเวียดนามตรงๆ: แข็งแกร่ง แต่ไทยเชื่อว่าดีกว่า – แต่อย่าประมาท

คคนะยอมรับตามตรงว่า เวียดนามเป็นทีมที่แข็งแกร่ง มีระเบียบวินัยในเกมแข่งขันสูง แต่เขาเชื่อว่า “ทีมชาติไทยก็มีคุณภาพมากพอจะชนะได้” หากเล่นตามแท็กติก และรักษามาตรฐานตัวเองให้ดีที่สุด

ประโยคที่สะท้อนสไตล์ฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ได้อย่างดีคือ ความเห็นของคคนะที่ว่า

“เกมนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน ใครวิ่งเยอะกว่า พลาดน้อยกว่า ทีมนั้นก็ชนะไป”

นั่นแปลว่า ทีมไม่ได้มองแค่แท็กติกบนกระดาน แต่ให้ความสำคัญกับ “ทัศนคติและแรงวิ่ง” ไม่แพ้กัน

เขาย้ำด้วยว่า ทั้งเรื่องความฟิต แท็กติก และความเข้าใจกันในทีม ทุกอย่าง “พร้อมแล้ว” สำหรับการดวลเดือดในวันตัดสินแชมป์

ชิงดำที่ราชมังฯ: เกมเดียวตัดสินศักดิ์ศรีอาเซียน

แมตช์นี้ไม่ใช่แค่เกมรอบชิงเหรียญทองธรรมดา แต่คือศึกแห่งศักดิ์ศรีของสองชาติยักษ์ใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน ทั้งไทยและเวียดนามต่างต้องการยืนในจุด “เบอร์หนึ่ง” ของฟุตบอลชายระดับซีเกมส์

โปรแกรมการแข่งขันถูกวางไว้ชัดเจน ทัพไทยจะพบกับเวียดนาม ในศึกฟุตบอลชายซีเกมส์ ครั้งที่ 33 รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 18 ธันวาคม 2568 เวลา 19.30 น. ที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งถือเป็น “สังเวียนประวัติศาสตร์” ของฟุตบอลไทย และครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่แฟนบอลทั้งประเทศจับตา

เกมนี้จะถ่ายทอดสดให้แฟนบอลได้ลุ้นกันเต็มอิ่มทาง PPTV HD 36 และแอปพลิเคชัน True Vision NOW ใครพลาดนัดนี้ ถือว่าพลาดเกมชี้ชะตาครั้งสำคัญของทัพช้างศึกซีเกมส์อย่างแท้จริง

สรุป

ภาพรวมทั้งหมดบอกได้คำเดียวว่า ทัพ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย พร้อมแล้วทั้งสภาพร่างกาย แท็กติก และสภาพจิตใจในการฟัดเดือดกับ เวียดนาม ในนัดชิงชนะเลิศ ซีเกมส์ ครั้งที่ 33

การซ้อมโค้งสุดท้ายที่เน้นทั้งเกมรุก–รับ ลูกตั้งเตะ และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บวกกับความมุ่งมั่นของนักเตะอย่าง คคนะ คำยก ที่ประกาศชัดว่า “พร้อมวิ่งจนหยดสุดท้าย” ทำให้แฟนบอลมีเหตุผลทุกอย่างที่จะเชื่อว่า ทีมชาติไทยมีโอกาสดีในการคว้าเหรียญทองกลับบ้าน

นี่ไม่ใช่แค่แมตช์ฟุตบอลธรรมดา แต่คือเกมที่อาจถูกจดจำว่าเป็นค่ำคืนแห่งการปิดตำนานซีเกมส์ของใครหลายคนในทีมชุดนี้ และอาจเป็นก้าวแรกของความสำเร็จชุดใหม่ในอนาคต

เกล็ดความรู้

  • การซ้อม “ลูกตั้งเตะ” มักเป็นอาวุธลับของทีมชาติในทัวร์นาเมนต์สั้นๆ เพราะสามารถเปลี่ยนเกมที่อึดอัดให้กลายเป็นประตูได้ในพริบตา
  • สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถือเป็นหนึ่งในสนามที่ทัพช้างศึกมักทำผลงานได้ดี เมื่อได้รับแรงเชียร์จากแฟนบอลจำนวนมากในเกมสำคัญ
  • ฟุตบอลทัวร์นาเมนต์อย่างซีเกมส์ นอกจากแท็กติกแล้ว “ความฟิตและการวิ่งไล่เพรสซิ่ง” คือปัจจัยชี้ขาด เมื่อเกมถูกตัดสินจากรายละเอียดเล็กๆ ของความผิดพลาดเพียงไม่กี่ครั้ง

ขอบคุณรูปภาพจาก FA Thailand

แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งทีมชาติไทย ซีเกมส์ และเกมเดือดจากลีกดังทั่วโลก อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM

Categorized in:

ฟุตบอลไทย,