ขุนพลนเรศวรขยับก่อนใคร เสริมเขี้ยวเล็บครบสามตำแหน่ง

ทัพ พิษณุโลก เอฟซี ยืนยันเดินหน้าเสริมทัพแบบไม่แผ่ว ด้วยการปิดดีลคว้านักเตะใหม่รวดเดียว 3 ราย เตรียมยกระดับคุณภาพทีมสู้ศึก BYD DOLPHIN LEAGUE 3 ฤดูกาล 2025/26 ในช่วง เลกสอง แบบเน้น ๆ ทั้งแนวรุก แนวรับ และตัวจบสกอร์ เพื่อเป้าหมายสำคัญเดียวคือการพาทีมเดินหน้าไล่ล่าตั๋วเลื่อนชั้น

สามแข้งใหม่ที่เข้ามาเป็นสมาชิก “ขุนพลนเรศวร” ประกอบด้วย อังเดร ฮูม่า, พลวัฒน์ ปิ่นกอง และ ภัสกร ฟักแฟง ซึ่งแต่ละคนต่างมีประสบการณ์และเส้นทางลูกหนังที่น่าสนใจ พร้อมเข้ามาเพิ่มมิติให้ทีมทั้งเชิงแท็คติกและการแข่งขันในทุกตำแหน่งสำคัญ

อังเดร ฮูม่า แนวรุกต่างชาติประสบการณ์สูง ตัวทีเด็ดเกมรุกพิษณุโลก

รายแรกคือ อังเดร ฮูม่า แข้งวัย 34 ปี ชาวโตโก ผู้เล่นแนวรุกที่ยืนได้หลายตำแหน่งทั้งตัวรุกกึ่งปีก หน้าต่ำ หรือกองหน้าตัวหลอก เคยเดินทางเข้ามาเล่นในเมืองไทยครั้งแรกกับ ตรัง เอฟซี ก่อนจะเก็บประสบการณ์กับหลายสโมสรในลีกล่างและลีกรองของไทยอย่างต่อเนื่อง

ฤดูกาลล่าสุด ฮูม่า ลงเล่นให้กับ นอร์ทเทิร์น นครแม่สอด ยูไนเต็ด เป็นอีกหนึ่งคีย์แมนในเกมบุกด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน ดึงจังหวะเก่ง และมีลูกยิงไกลเป็นอาวุธ จุดเด่นของเขาคือความแข็งแกร่ง, เล่นบอลหนึ่งต่อหนึ่งได้ดี และกล้าเล่นในพื้นที่แคบ ซึ่งน่าจะเข้ามาเติมความจัดจ้านให้แนวรุกของพิษณุโลกได้ทันที

การได้แนวรุกโปรไฟล์ครบเครื่องอย่างฮูม่า เข้ามาในช่วงเลกสอง ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่า พิษณุโลกต้องการเพิ่มคุณภาพในจังหวะสุดท้าย ทั้งการสร้างโอกาสและการปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งในเกมสำคัญ

พลวัฒน์ ปิ่นกอง ลูกหลานพิษณุโลกคืนถิ่น ยืนหลังบ้านเพิ่มความแน่น

รายที่สองคือ พลวัฒน์ ปิ่นกอง กองหลังมากประสบการณ์ชาวพิษณุโลกโดยกำเนิด ผู้เคยผ่านเวทีไทยลีกและลีกรองมาแล้วแทบนับไม่ถ้วน เส้นทางอาชีพของเจ้าตัวเคยค้าแข้งกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด, ซุปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ, การท่าเรือ เอฟซี, หนองบัว พิชญ เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี, เอสทีเค เมืองนนท์, อุตรดิตถ์ ศักดิ์สยาม เอฟซี, พิษณุโลก ยูนิตี้ และล่าสุดกับ ชาติตระการ ซิตี้

การกลับมาสวมเสื้อทีมบ้านเกิดอีกครั้งของพลวัฒน์ ไม่ใช่แค่เรื่องความรู้สึก แต่ยังหมายถึงการได้กองหลังที่อ่านเกมดี เล่นลูกกลางอากาศแข็งแกร่ง และสามารถสั่งการแนวรับได้ในตัว เพราะประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายสโมสรทำให้เขามองเกมได้เฉียบคมขึ้น และเป็นเหมือนผู้นำในแนวรับที่คอยประคองรุ่นน้องในทีม

แฟนบอลขุนพลนเรศวรจึงมีสิทธิ์คาดหวังว่า การเข้ามาของพลวัฒน์จะช่วยเพิ่มความนิ่ง ความมั่นใจ และลดความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเกมรับที่อาจเคยเป็นปัญหาในช่วงเลกแรก

ภัสกร ฟักแฟง เพชรเม็ดงามจากนนทบุรี ตัวจบสกอร์วัย 25 ที่พร้อมแจ้งเกิด

รายที่สามคือ ภัสกร ฟักแฟง กองหน้าวัย 25 ปี จากจังหวัดนนทบุรี ที่เส้นทางอาชีพไม่ได้มาแบบโรยกลีบกุหลาบ แต่เต็มไปด้วยการพิสูจน์ตัวเองมาตั้งแต่ระดับเยาวชน เขาเริ่มจากการฝึกฟุตบอลกับ Academy PSW ก่อนพัฒนาฟอร์มจนก้าวไปติดทีมชาติไทยชุดเยาวชนถึง 3 รุ่น ได้แก่ U12, U13 และ U14 พร้อมคว้าแชมป์ระดับอาเซียนได้ถึง 2 รายการ

ในระดับทัวร์นาเมนต์ภายในประเทศ ภัสกรผ่านทั้งการเป็นตัวแทนสมาคมกีฬาจังหวัดนนทบุรีลงเล่นยูลีก รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี (เข้ารอบระดับประเทศ), ลงแข่งขันรายการกรมพลศึกษา รุ่นอายุ 18 ปี ประเภท ค. (จบอันดับ 3 ร่วม) รวมถึงการเป็นส่วนหนึ่งของทีมมหาวิทยาลัยกรุงเทพในศึกช้างยูแชมเปี้ยนคัพ ที่พาทีมทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย

จากนั้นเจ้าตัวเริ่มเดินหน้าสู่เส้นทางลูกหนังอาชีพกับ ภูเก็ต อันดามัน เอฟซี, พิจิตร ยูไนเต็ด และล่าสุดกับ ฟูเทร่า ยูไนเต็ด ในเลกแรก ก่อนจะตัดสินใจย้ายมาสวมเสื้อพิษณุโลก เอฟซี ในเลกสอง ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่เขาจะได้แสดงให้เห็นว่าตัวเองพร้อมขึ้นมาเป็นกองหน้าที่ไว้ใจได้ในเวทีลีกอาชีพระยะยาว

พิษณุโลกวางหมากลุยเลกสอง เติมสมดุลทั้งรุก–รับ

สามดีลนี้สะท้อนชัดเจนว่าทีมงานบริหารและสตาฟฟ์โค้ชของพิษณุโลกวางแผนมาอย่างรอบคอบในการลุยเลกสอง ไม่ได้เสริมแบบสุ่ม แต่เน้น “สมดุล” เป็นหลัก

  • ได้ฮูม่าเพิ่มความจัดในเกมรุกและลูกเล่นในพื้นที่สุดท้าย
  • ได้พลวัฒน์มาช่วยคุมแนวรับให้เหนียวแน่นขึ้นทั้งประสบการณ์และการสั่งการ
  • ได้ภัสกรมาเพิ่มตัวเลือกในแดนหน้า ทั้งเรื่องการหาพื้นที่และสกิลจบสกอร์

เมื่อประกอบเข้ากับแกนหลักที่มีอยู่เดิมในทีม ภาพรวมขุนพลนเรศวรในเลกสองจึงดูน่าเกรงขามขึ้นทันตา พร้อมชนทุกทีมในเส้นทางลุ้นเป้าหมายบนหัวตารางของลีก

สรุป

การปิดดีล 3 แข้งใหม่ของพิษณุโลก เอฟซี ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการเติมจำนวนในทีม แต่คือการเสริม “คุณภาพ” ในทุกมิติของเกม ทั้งการสร้างสรรค์โอกาส การป้องกันแนวรับ และการจบสกอร์ ซึ่งล้วนเป็นจุดสำคัญในการลุ้นเป้าหมายใหญ่ในฤดูกาลนี้

หากทั้ง อังเดร ฮูม่า, พลวัฒน์ ปิ่นกอง และ ภัสกร ฟักแฟง สามารถจูนฟอร์มเข้ากับระบบของทีมได้อย่างรวดเร็ว เลกสองของศึก BYD DOLPHIN LEAGUE 3 มีสิทธิ์เดือดกว่าเดิม และชื่อของ “ขุนพลนเรศวร” จะกลายเป็นทีมที่ไม่มีใครกล้ามองข้ามแน่นอน

เกล็ดความรู้

  • ทีมในลีกล่างอย่าง BYD DOLPHIN LEAGUE 3 มักใช้เลกสองเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการรีเซ็ตทีม เสริมจุดอ่อน และเร่งเครื่องล่าคะแนน เพราะแต้มช่วงท้ายฤดูกาลมักมีคุณค่ามหาศาลกว่าที่คิด
  • การเสริมตัวทั้งนักเตะท้องถิ่น (อย่างพลวัฒน์) และนักเตะต่างชาติ (อย่างฮูม่า) ผสมกับดาวรุ่งที่ผ่านระบบเยาวชนจริงจัง (อย่างภัสกร) คือสูตรที่หลายสโมสรใช้เพื่อบาลานซ์ทั้งประสบการณ์, ความสด และค่าใช้จ่ายในระยะยาว
  • ดีลจากลีกล่างที่ดูเงียบ ๆ แต่เลือกคนถูก มักกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “แจ็คพ็อตลูกหนัง” เพราะนักเตะบางคนเพิ่งมาฟอร์มระเบิดในทีมที่ให้โอกาสและระบบที่เหมาะกับสไตล์ของตัวเองจริง ๆ

ขอบคุณรูปภาพจาก Phitsanulok Football Club

แฟนบอลที่อยากตามทุกดีลเดือด ข่าวเสริมทัพทุกทีม และทุกจังหวะสำคัญบนโลกฟุตบอลไทยและต่างประเทศ อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ ๆ ได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM

Categorized in:

ฟุตบอลไทย,