มังกรโล่เงินเดินเกมใหญ่: เปิดตัว “ปกรณ์ เปรมภักดิ์” เสริมแนวรุกเลกสอง
“โปลิศ เทโร เอฟซี” ขยับตัวแบบมีนัยยะทันทีในตลาดเลกสอง ฤดูกาล 2025/26 ด้วยการเปิดตัวคว้า “เจ้าบาส” ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ปีกจอมเก๋าจาก “การท่าเรือ เอฟซี” เข้ามาเสริมทัพอย่างเป็นทางการ เป้าหมายชัด—เพิ่มคุณภาพเกมรุก และช่วยทีมลุ้นทำภารกิจใหญ่ในการ “คัมแบ็ค” สู่ลีกสูงสุดให้ได้ในฤดูกาลหน้า
ดีลนี้ไม่ใช่แค่การเพิ่มตัวเลือกในทีม แต่เป็นการเติม “ผู้นำในสนาม” ที่ผ่านเกมใหญ่ ผ่านความกดดัน และรู้วิธีพาทีมเอาตัวรอดในเกมที่ตึงที่สุดของฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงเลกสองที่คะแนนทุกแต้มมันหนักกว่าที่คิด
ปิดฉาก 10 ปีที่การท่าเรือ: สถิติแน่น 249 นัด 32 ประตู 70 แอสซิสต์
ปกรณ์ เปรมภักดิ์ วัย 32 ปี แยกทางกับทัพ “สิงห์เจ้าท่า” หลังค้าแข้งร่วมกันยาวนานถึง 10 ปี และทิ้งสถิติไว้แบบหนักแน่น—ลงเล่นรวมทุกรายการ 249 นัด ยิง 32 ประตู และทำ 70 แอสซิสต์ ตัวเลขแบบนี้ไม่ได้มาจากการยืนอยู่เฉยๆ แต่มาจากการเป็นแกนหลักในเกมรุกที่ทำงานต่อเนื่องยาวนาน
ที่สำคัญ เขายังมีส่วนร่วมในการพาทีมคว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 ซึ่งเป็นโทรฟี่ที่ยืนยันว่าเจ้าตัวมีประสบการณ์ในเกมน็อกเอาต์และเกมใหญ่จริง ไม่ใช่แค่นักเตะชื่อดังในกระดาษ

ทำไมเทโรถึงต้องการ “เจ้าบาส”: ประสบการณ์+ความนิ่งคือของหายากในเลกสอง
เลกสองของฤดูกาลคือช่วงเวลาที่ทีมลุ้นพื้นที่บนตารางต้องเจอกับ “ความจริง” มากขึ้น ทั้งอาการล้า เจ็บสะสม เกมที่ต้องชนะ และความกดดันจากแฟนบอล ดังนั้นการดึงนักเตะระดับประสบการณ์สูงเข้ามา คือการลดความเสี่ยงและเพิ่มความแน่นอนในช่วงชี้เป็นชี้ตาย
ปกรณ์คือประเภทนักเตะที่ช่วยได้ทั้งการ “คุมจังหวะริมเส้น” การยืนตำแหน่ง การตัดสินใจจังหวะสุดท้าย และการพาเพื่อนร่วมทีมเล่นง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทีมต้องเจอคู่แข่งที่มาเน้นรับลึก เกมรุกจะต้องมีคนที่กล้าเล่น กล้าทำ และกล้ารับผิดชอบ
จุดเด่นที่พกมาด้วย: ลูกนิ่ง-ฟรีคิก และครอสจากริมเส้นที่แม่นยำ
สำหรับ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ จุดเด่นที่แฟนบอลรู้กันดีคือการเล่นบอลลูกนิ่งที่ “อันตรายทุกครั้ง” ไม่ว่าจะเป็น ฟรีคิก การเปิดจากด้านข้าง หรือการครอสบอลเข้าพื้นที่อันตรายด้วยความแม่นยำสูง
ในฟุตบอลไทย เกมที่อึดอัดหลายแมตช์ถูกตัดสินด้วยลูกตั้งเตะเพียงครั้งเดียว ดังนั้นการมีผู้เล่นที่สร้างโอกาสจากลูกนิ่งได้เป็นประจำ ถือเป็นอาวุธที่ประเมินค่าไม่ได้ โดยเฉพาะกับทีมที่กำลังลุ้นเป้าหมายใหญ่ เพราะรายละเอียดเล็กๆ แบบนี้แหละที่ทำให้แต้มเพิ่มขึ้นจริง
เพิ่มมิติให้เกมรุก: ไม่ใช่แค่เปิดบอล แต่ช่วย “ปลดล็อก” เกมได้
ปกรณ์ไม่ได้เป็นแค่ปีกที่เน้นสปีด แต่เป็นปีกที่มีไอเดีย มีคุณภาพการจ่าย และรู้จังหวะการยืนคุมพื้นที่ริมเส้น เมื่อเกมตัน เขาสามารถสร้างความแตกต่างด้วยการเปิดแบบมีเป้าหมาย หรือโยนบอลเข้าจุดตายได้เลย ซึ่งช่วยให้เกมรุกของโปลิศ เทโร เอฟซี มีความหลากหลายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
โปลิศ เทโร กับเป้าหมายลุ้นขึ้น T1: ดีลนี้คือสัญญาณชัดว่า “เอาจริง”
การที่ “เจ้าบาส” เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของทัพ “มังกรโล่เงิน” ที่มีลุ้นขึ้น T1 ในฤดูกาลหน้า มันเป็นเหมือนการส่งสารไปถึงคู่แข่งว่า เทโรไม่ได้แค่หวังลุ้น แต่พร้อมทุ่มเพื่อให้เป้าหมายเกิดขึ้นจริง
เพราะเมื่อทีมต้องการเลื่อนชั้น คุณต้องมีทั้งขุมกำลัง คุณภาพ และตัวที่ทำให้ทีม “เด็ดขาด” ในเกมสำคัญ ซึ่งปกรณ์เป็นนักเตะที่มีประสบการณ์แบบนั้น และนั่นคือสิ่งที่โปลิศ เทโรต้องการในจังหวะนี้พอดี

สรุป
โปลิศ เทโร เอฟซี เปิดตัวคว้า ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ปีกจอมเก๋าวัย 32 ปีจากการท่าเรือ เอฟซี เข้ามาเสริมทัพเลกสอง ฤดูกาล 2025/26 หลังเจ้าตัวปิดฉาก 10 ปีกับสิงห์เจ้าท่า ลงเล่นรวม 249 นัด ยิง 32 ประตู ทำ 70 แอสซิสต์ และมีส่วนช่วยคว้าแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 การมาของปกรณ์ถูกคาดหวังว่าจะเพิ่มมิติและความอันตรายในเกมรุกให้มังกรโล่เงิน ด้วยทีเด็ดลูกนิ่ง ฟรีคิก และการเปิดบอลครอสจากริมเส้นที่แม่นยำ เพื่อช่วยทีมลุ้นคัมแบ็คขึ้นลีกสูงสุดในฤดูกาลหน้า
เกล็ดความรู้
- นักเตะริมเส้นที่มีคุณภาพในการเปิดบอลและลูกนิ่ง ช่วยเพิ่ม “แต้มจากจังหวะเดียว” ได้มาก โดยเฉพาะเกมที่อึดอัด
- เลกสองมักเป็นช่วงที่ทีมลุ้นพื้นที่สำคัญต้องมีความนิ่งและประสบการณ์ เพราะความกดดันสูงกว่าเลกแรก
- ลูกตั้งเตะเป็นอาวุธสำคัญในฟุตบอลไทย หลายเกมชี้ชะตาด้วยฟรีคิกหรือการเปิดจากด้านข้างเพียงครั้งเดียว
- ผู้เล่นที่ผ่านเกมใหญ่และได้แชมป์มาแล้ว มักช่วยทีมเรื่องความมั่นใจและการตัดสินใจในช่วงสำคัญของแมตช์
ขอบคุณรูปภาพจาก Police Tero FC
แฟนบอลที่อยากตามทุกความเคลื่อนไหวของตลาดนักเตะไทย และข่าวฟุตบอลแบบเข้มๆ อย่าลืมติดตามความมันส์ทั้งหมดได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM ด้วยค่ะ