อโมริมเปลี่ยนแผนแบบช็อกแฟนบอล แต่ได้ผลจริง

รูเบน อโมริม เฮดโค้ช แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจแบบไม่อ้อมค้อมถึงเหตุผลที่ตัดสินใจปรับมาใช้ระบบกองหลัง 4 คน ในเกม พรีเมียร์ลีก โปรแกรมบ็อกซิ่งเดย์ที่ “ปีศาจแดง” เฉือนชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-0 โดยยืนยันว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะกับสถานการณ์ในเกมนี้มากกว่าแผนเดิม และสำคัญที่สุดคือ “มันทำให้ทีมสร้างอันตรายได้จริง”

ก่อนหน้านี้ อโมริมเคยยืนกรานหนักแน่นว่าไม่คิดจะเปลี่ยนจากระบบหลังสาม ถึงขั้นเปรียบเทียบว่าแม้ “พระสันตะปาปา” มาพูดก็ไม่เปลี่ยน แต่เกมนี้เขากลับตัดสินใจหักดิบ—และผลลัพธ์คือ 3 แต้มที่แมนยูต้องการอย่างยิ่งในช่วงปลายปี

จัดทัพชัดเจน: หลัง 4 วางตัวแบบมีเป้าหมาย

ในเกมนี้แนวรับของแมนยูประกอบด้วย ลิซานโดร มาร์ตีเนซ และ อายเด็น เฮฟเว่น ยืนเป็นเซนเตอร์แบ็ก ขนาบด้วย ลุค ชอว์ ทางซ้าย และ ดีโอโก้ ดาโลต์ ทางขวา ซึ่งการจัดแบบนี้ช่วยให้ทีมยืนทรงเกมรับแน่นขึ้น และทำให้การปะทะริมเส้นไม่เปราะเหมือนเกมก่อน ๆ

แดนกลาง อโมริมส่ง แพทริค ดอร์กู เป็นตัวจริงในบทบาทปีกขวา ขณะที่ มาเตอุส คุนญ่า ยืนทางซ้าย คู่มิดฟิลด์ตัวกลางใช้ กาเซมีโร่ กับ มานูเอล อูการ์เต้ และให้ เมสัน เมาท์ ทำหน้าที่กองกลางตัวรุก โดยมี เบนยามิน เชชโก้ ยืนหน้าเป้า ซึ่งรูปแบบนี้ทำให้แมนยูมี “คนอยู่ข้างใน” มากขึ้นในจังหวะครองบอลและต่อเกมขึ้นหน้า

และจุดตัดสินเกมก็มาถึงตั้งแต่นาที 24 เมื่อดอร์กูซัดประตูชัยสุดสวยให้ทีมขึ้นนำ ก่อนที่ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย อโมริมจะเหมือนปรับให้ทีมกลับไปใช้ระบบกองหลัง 3 คนเพื่อคุมสถานการณ์และปิดเกม

“วิธีเดียวที่ทำให้เราอันตรายกว่าเดิม” คำตอบของอโมริม

เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงเลือกใช้แผงหลัง 4 คน อโมริมอธิบายว่าเขามองว่าการวางผู้เล่นหลายคนไว้ด้านใน ช่วยให้ทีมสร้างโอกาสและครองบอลได้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่แมนยูเล่นได้ตามแผนมากที่สุด

เขายังพูดถึง “บทเรียน” จากช่วงเวลาที่ไม่ดีในอดีต ว่ามันทำให้ทีมได้สิ่งดี ๆ กลับมาเช่นกัน เพราะนักเตะประสบการณ์สูงสามารถช่วยประคองดาวรุ่งได้ และเมื่อทีมเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น การเปลี่ยนแผนจึงไม่ใช่เรื่องเสี่ยงแบบไร้ทิศทาง แต่เป็นการปรับเพื่อทำให้ทุกคนเล่นง่ายขึ้น

แก้ปัญหาเกมริมเส้น และปลดล็อกดอร์กูให้เด่นขึ้น

อโมริมย้อนถึงเกมปีก่อนที่แมนยูแพ้การดวลตัวต่อตัวริมเส้นหลายครั้งในเกมที่แพ้นิวคาสเซิ่ล 0-2 และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเกมนี้เขาจึงต้องวางโครงสร้างให้ช่วยผู้เล่นริมเส้นมากขึ้น เพื่อไม่ให้ถูกบีบจนเสียรูปเกมง่าย ๆ

อีกจุดสำคัญคือการขยับบทบาทของดอร์กูให้มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากกว่าเดิม และเพิ่ม “พื้นที่ให้พลาด” แบบไม่ทำให้ทีมพังทันที อโมริมชี้ว่าบทบาทใหม่ทำให้ดอร์กูเล่นมั่นใจขึ้น กล้าพาบอล กล้าจบสกอร์ และท้ายที่สุดก็กลายเป็นคนยิงประตูชัย

อูการ์เต้โดดเด่นในเกมใหญ่ อโมริมชมไม่มีกั๊ก

นอกจากดอร์กูแล้ว อโมริมยังออกปากชมว่า อูการ์เต้ เล่นได้ดีมากในเกมนี้ โดยเฉพาะบทบาทการคุมจังหวะ ตัดเกม และช่วยรักษาความสมดุลให้ทีมในช่วงที่นิวคาสเซิ่ลพยายามเร่งเครื่องไล่ตีเสมอ

การมีมิดฟิลด์ที่ยืนระยะได้ในเกมเข้ม ๆ แบบนี้ คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้แมนยูไม่เสียทรงง่าย และช่วยให้ทีมรักษาสกอร์ 1-0 ไว้ได้จนจบเกม

เกล็ดความรู้

  • ระบบหลัง 4 มักช่วยให้ทีมคุมพื้นที่ริมเส้นดีขึ้น เพราะแบ็กสามารถประกบปีกได้โดยไม่ต้องดึงเซ็นเตอร์ออกจากตำแหน่ง
  • การ “มีผู้เล่นอยู่ข้างใน” มากขึ้น ช่วยให้ต่อบอลหนีเพรสซิ่งง่ายขึ้น และทำให้การครองบอลมีทางเลือกหลากหลาย
  • โค้ชบางคนอาจยึดระบบหลักเป็นแกน แต่การปรับแผนตามคู่แข่งคือสิ่งที่แยกระหว่าง “ทีมเล่นสวย” กับ “ทีมที่ชนะได้จริง”

แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของ ข่าวแมนยูวันนี้, เกมบ็อกซิ่งเดย์ และบทวิเคราะห์เข้ม ๆ แบบคนดูบอลตัวจริง อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ ๆ ได้ที่ พรีเมียร์ลีก GOALSIAM ด้วยค่ะ