อตาลันต้าหนีคำสาปไม่พ้น แพ้อินเตอร์ต่อเนื่องจนแฟนเริ่มใจหาย
อตาลันต้าของ ราฟฟาเอเล่ พัลลาดิโน่ ยังแก้ปมใหญ่ไม่ตก เมื่อเจอกับ อินเตอร์ มิลาน ก็เหมือนต้องสู้กับ “คำสาป” ไปพร้อมกัน เพราะพวกเขาแพ้ให้คู่แข่งรายนี้ติดต่อกันเป็นนัดที่ 9 ในทุกรายการ แม้รูปเกมจะสูสีและมีช่วงที่เหมือนโชคเริ่มเข้าข้าง หลังประตูของมาร์คุส ตูราม ถูกจับล้ำหน้าไปแล้วก็ตาม
แต่ฟุตบอลระดับนี้ ถ้าพลาดเพียงเสี้ยววินาที…มันคือหายนะ และอตาลันต้าก็โดนลงโทษแบบเจ็บแสบจริงๆ
จุดเปลี่ยนเกม: พาสพลาดของ “ฌิมซิตี้” เปิดทางให้อินเตอร์เชือดสามแต้ม
เกมที่เหมือนจะตึงๆ อยู่กลางสนาม กลับพลิกทันทีจากความผิดพลาดของ เบรัต ฌิมซิตี้ ที่จ่ายบอลพลาดกลายเป็นของขวัญให้ ฟรานเชสโก้ ปิโอ เอสโปซิโต้ ก่อนจะไหลต่อให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ซัดประตูชัยให้ทีมเยือนแบบคมกริบ
พัลลาดิโน่ยอมรับหลังเกมว่า นี่คือเกมที่ “ต้องเป๊ะ” เท่านั้นถึงจะมีแต้มกับทีมระดับอินเตอร์ได้ และความผิดพลาดครั้งเดียวก็เปลี่ยนทุกอย่างในพริบตา

แผนใหม่ของพัลลาดิโน่: ไม่บ้าบิ่นเพรสสูง เลือกรัดกุมเพื่อรับมืออินเตอร์
พัลลาดิโน่เผยกับ DAZN ว่าเขาวางแผนต่างจากหลายปีที่ผ่านมา เพราะรู้ดีว่าถ้าเพรสสูงใส่อินเตอร์ ทีมของซิโมเน่ อินซากี้จะเล่นหลุดออกจากแรงกดดันได้เก่งมาก
เขาจึงเลือกให้อตาลันถอยต่ำลงเล็กน้อย เน้นเกมรับแบบเป็นระบบ และพยายามหาจังหวะสวนกลับ แต่ก็ยอมรับตรงๆ ว่าในครึ่งแรกทีม “ฝืด” ไปหน่อย เกมรุกยังไม่คมพอจะทำร้ายคู่แข่งได้จริงจัง
ครึ่งหลังขยับเกมรุกดีขึ้น แต่ดันเสียประตูในช่วงที่เกมกำลัง 50-50
ช่วงพักครึ่ง พัลลาดิโน่สั่งให้ลูกทีมกล้าเล่นมากขึ้น เคลื่อนบอลสลับฝั่งให้ถี่ขึ้น เพื่อดึงแนวรับอินเตอร์ให้เสียทรง ซึ่งภาพรวมครึ่งหลังดีขึ้นชัดเจน
แต่ความเจ็บปวดคือ พวกเขาเสียประตูในช่วงที่เกมกำลังเท่ากันพอดี ไม่ใช่ช่วงที่โดนบุกหนักจนตั้งรับไม่ไหว นั่นทำให้ความรู้สึก “น่าเสียดาย” มันหนักกว่าเดิมหลายเท่า
โอกาสทองของซามาร์ดซิช…แต่ยิงทิ้งยิงขว้าง จบไม่ลงเอง
อตาลันต้าพยายามแก้เกมด้วยการส่งตัวสดลงมาให้มากที่สุด เปลี่ยนระบบไปใช้หลัง 4 คนด้วย และจังหวะที่เกือบได้เฮก็มาถึงเมื่อ ลาซาร์ ซามาร์ดซิช ได้โอกาสทองจากการแอสซิสต์ของ ชาร์ลส์ เดอ เคเตลาเร่
แต่ซามาร์ดซิชกลับจบสกอร์พลาดแบบไม่น่าเชื่อ กลายเป็นภาพสะท้อนคำพูดของพัลลาดิโน่ที่ว่า เกมกับอินเตอร์ “คุณจะได้โอกาสไม่กี่ครั้ง และต้องเอาให้ลง”

“ผมกอดเขาหลังจบเกม” พัลลาดิโน่ปกป้องฌิมซิตี้ เพราะมันคือความผิดพลาดที่แทบไม่เคยเกิด
แทนที่จะตำหนิลูกทีมต่อหน้าสื่อ พัลลาดิโน่เลือกทำสิ่งที่สะท้อนความเป็นผู้นำทันที เขาเดินไปกอดฌิมซิตี้หลังนกหวีดหมดเวลา พร้อมย้ำว่าความผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้นได้นานๆ ครั้งเท่านั้น เพราะฌิมซิตี้คือหนึ่งในแนวรับที่ไว้ใจได้และมีประสบการณ์มากที่สุดของทีม
เขายอมรับว่า “โกรธไม่ได้” เพราะมันคือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับทุกคนตลอดทั้งฤดูกาล และทีมต้องเดินหน้าต่อโดยไม่ทำลายความมั่นใจของกันและกัน
บทเรียนที่ต้องจำ: เกมใหญ่ต้องคมทั้งรับทั้งรุก ไม่อย่างนั้นโดนลงโทษทันที
พัลลาดิโน่สรุปภาพรวมชัดเจนว่า ทีมของเขาสู้จนจบ แต่สิ่งที่ขาดคือความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย เพราะอินเตอร์เป็นทีมที่เล่นเกมรับได้ดีมาก ดวลตัวต่อตัวแข็ง และไม่เปิดช่องให้ยิงง่ายๆ
ดังนั้นถ้าคุณได้ครึ่งโอกาส ต้องเปลี่ยนให้เป็นประตูให้ได้ ไม่งั้นอีกฝ่ายจะลงโทษด้วยความนิ่งแบบมืออาชีพ…เหมือนที่เกิดขึ้นในเกมนี้
สะดุดทั้งที่กำลังฟอร์มแรง ตารางเริ่มอึดอัดขึ้นทันที
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ถือเป็นการสะดุดของอตาลันต้าในช่วงที่ฟอร์มกำลังดี เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาชนะ 7 จาก 8 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ และยังมีผลงานในยุโรปที่น่าจดจำจากการชนะเชลซีในแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย
ผลที่ตามมาคือคะแนนในตารางเซเรียอาโดนทีมอย่าง ซาสซูโอโล่ และ อูดิเนเซ่ ไล่ตามมาทันที่ 22 แต้ม ทำให้สถานการณ์กลับมาตึงมืออีกครั้ง
เกมถัดไปเดือดกว่าเดิม: โรม่าเตรียมบุก เบร์กาโม่ พร้อม “กาสเปรินี่” คืนถิ่น
และที่ทำให้ไฟลุกยิ่งกว่า คือเกมต่อไปกับ โรม่า จะเป็นเกมเปิดปี 2026 ที่พิเศษสุด เพราะ จาน ปิเอโร่ กาสเปรินี่ จะกลับมาแบร์กาโม่ในฐานะกุนซือโรม่า เพื่อเจอสโมสรเก่าที่เขาเคยสร้างยุคทองไว้

พัลลาดิโน่ย้ำว่าเขาไม่มองเป็นศึกระหว่างตัวเองกับอดีต หรือกับกาสเปรินี่ เพราะอีกฝ่ายคือ “เมนเทอร์” ที่เขาเคารพและขอบคุณเสมอ แต่ตอนนี้อตาลันต้าต้องโฟกัสตัวเองและอนาคต พร้อมทุ่มสุดตัวเพื่อกลับมาคว้าชัย
เกล็ดความรู้ (แบบเป็นข้อๆ)
- เกมระดับท็อปในเซเรียอามักตัดสินกันด้วย “ความผิดพลาดครั้งเดียว” มากกว่าความสวยงามของเกม
- ทีมที่เกมรับแน่นอย่างอินเตอร์จะให้โอกาสยิงไม่กี่ครั้ง การจบสกอร์จึงเป็นตัวชี้ชะตา
- การที่โค้ช “ปกป้องลูกทีมต่อสาธารณะ” ช่วยรักษาความมั่นใจและความเป็นหนึ่งเดียวในห้องแต่งตัว
- การเปลี่ยนระบบเป็นหลัง 4 หรือหลัง 3 ระหว่างเกม มักเกิดจากการต้องเพิ่มความเสี่ยงเพื่อทวงประตูคืนช่วงท้าย
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอลแบบเนื้อหาแน่น ดุดัน อ่านมันส์ และอัปเดตไว อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวเข้มๆ ได้ที่ ฟุตบอลต่างประเทศ GOALSIAM ด้วยค่ะ