ศึกบอลถ้วย โคปปา อิตาเลีย รอบ 16 ทีมสุดท้าย กลายเป็นค่ำคืนสุดระทึกของแฟนบอล นาโปลี เมื่อทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ต้องลากเกมไปถึงการดวลจุดโทษแบบมาราธอน กว่าจะเฉือนผ่าน กายารี ทะยานเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ ก่อนที่เฮดโค้ชอิตาเลียนจะออกมาย้ำชัดว่า “ทีมที่สมควรเข้ารอบมากที่สุด ก็เป็นฝ่ายผ่านไป” แม้จะต้องแลกมาด้วยความลุ้นจนหัวใจแทบวายก็ตาม

นาโปลีฝ่าคำสาปบอลถ้วย ดวลโทษยาวจนแฟนบอลแทบหมดแรง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นาโปลีมักเจอปัญหาในบอลถ้วยภายในประเทศ โดยเฉพาะการหลุดตกรอบตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่เกมนี้พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นว่าจะไม่ยอมซ้ำรอยเดิม

นาโปลีออกนำก่อนจากลูกโหม่งของ ลอเรนโซ่ ลุกก้า ที่กระโดดตัดหน้าแนวรับกายารี โหม่งส่งบอลเสียบตาข่ายอย่างเฉียบขาด ทว่าความสบายใจอยู่ได้ไม่นาน เมื่อจังหวะบอลเด้งเปลี่ยนทางจากการโดนตัวของ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ทำให้ เซบาสเตียโน่ เอสโปซิโต้ หลุดไปยิงตีเสมอให้กายารีอย่างเด็ดขาด

ด้วยกติกาของ โคปปา อิตาเลีย ที่จะ “ไม่มีการต่อเวลาพิเศษ” ในรอบก่อนรองชนะเลิศก่อนถึงรอบรองฯ สกอร์ 1-1 ทำให้ต้องไปตัดสินด้วยการ ดวลจุดโทษ ทันที และยิ่งกว่านั้นการยิงจุดโทษยังลากยาวไปถึงช่วงซัดเดนเดธ ก่อนที่นาโปลีจะเฉือนชนะได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

ดราม่าดวลจุดโทษมาราธอน ผู้รักษาประตูแบกความกดดันสุดขีด

ช่วงดวลเป้ากลายเป็นภาพจำของเกมนี้ โดยทั้งสองฝั่งยิงกันได้อย่างแม่นยำเกินคาด แมตเตีย เฟลิชี พลาดหนึ่งครั้ง ขณะที่ เอลิอา คาปริเล เซฟลูกยิงของ ดาวิด เนเรส ได้แบบสุดสวย ทำให้ความกดดันถาโถมใส่ทั้งสองทีม

ด้าน วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช นายทวารจอมเซฟที่มักถูกยกให้เป็น “จอมดวลจุดโทษ” ในบอลถ้วย คราวนี้ต้องรับบททั้งคนยิงและคนเซฟ เขาสามารถสังหารจุดโทษเป็นประตูให้ทีมได้เองหนึ่งลูก แต่กลับเซฟได้เพียงครั้งเดียวจากการปฏิเสธจุดโทษของ ซิโต้ ลูวุมโบ ก่อนที่ อเลสซานโดร บวนจอร์โน่ จะรับหน้าที่สังหารประตูชัยให้ทีมผ่านเข้ารอบในที่สุด

เกมนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของแท็กติก แต่เป็นการวัด “สภาพจิตใจ” ของนักเตะทั้งสองฝั่งอย่างแท้จริง

คอนเต้ยอมรับเกมอึดอัด แต่ย้ำชัดทีมสมควรเข้ารอบ

หลังจบเกม อันโตนิโอ คอนเต้ ยอมรับตรงไปตรงมาว่า เกมนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนที่หลายคนคาด

กุนซือนาโปลีเปิดใจว่าเป็นหนึ่งในชุดดวลเป้าที่ยาวนานและกดดันที่สุดเกมหนึ่งในเส้นทางคุมทีมของเขา

คอนเต้ชี้ว่า ทั้งสองทีมยิงจุดโทษกันได้ดีมาก ทำให้ผู้รักษาประตูอ่านทางยาก และท้ายที่สุดการผ่านเข้ารอบของนาโปลีคือรางวัลของทีมที่ “ทำได้ดีกว่าตลอดทั้งเกม” แม้จะต้องเสียประตูแบบโชคร้ายจากจังหวะแฉลบก็ตาม

เขายังชมลูกทีมว่าตอบสนองได้ดีหลังจากโดนตีเสมอ และแม้สภาพทีมจะไม่สมบูรณ์ มีผู้เล่นให้เลือกไม่มาก แต่ทุกคนก็แสดงความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบต่อสโมสรอย่างเต็มที่

โรเตชั่นจำเป็นก่อนศึกใหญ่ชนยูเวนตุส

หนึ่งในประเด็นสำคัญจากปากคอนเต้คือการเลือก “โรเตชั่น” ผู้เล่นในเกมนี้ เขายอมรับว่าในซีซั่นนี้เขาไม่ค่อยหมุนเวียนนักเตะมากนัก ระหว่างโปรแกรม กัลโช่ เซเรีย อา และฟุตบอลยุโรป แต่ในเกมถ้วยแบบนี้เขาจำเป็นต้องใช้นักเตะบางรายที่ไม่ค่อยได้ออกสตาร์ต เพื่อทดสอบและเตรียมทีมให้พร้อมในระยะยาว

โดยเฉพาะเมื่อนาโปลีกำลังจะเข้าสู่เกมสำคัญในลีกกับ ยูเวนตุส ซึ่งมีความหมายต่อเส้นทางลุ้นสคูเด็ตโต้ การจัดการพลังงานและสภาพร่างกายลูกทีมจึงเป็นสิ่งที่คอนเต้ให้ความสำคัญอย่างมาก

เขาย้ำว่า ทีมเล่นทุก 3 วัน ไม่อาจหวังให้ “ชุดเดิม” แบกทีมได้ตลอดเวลา และเกมนี้คือบทพิสูจน์ว่าผู้เล่นตัวสอดแทรกหลายคนพร้อมตอบสนองในระดับที่น่าพอใจ

ลุกก้าเรียกความมั่นใจ ต้องใช้โมเมนตัมนี้ต่อยอด

สำหรับ ลอเรนโซ่ ลุกก้า คนยิงประตูให้ทีมในเวลา 90 นาที คอนเต้มองว่าเป็นฟอร์มที่ดีในระดับเดียวกับเพื่อนร่วมทีม แม้ก่อนหน้านี้เขาจะถูกวิจารณ์จากฟอร์มไม่คงเส้นคงวา และเคยโดนใบแดงในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นมาแล้วก็ตาม

คอนเต้ระบุชัดว่า ลุกก้าต้องทำงานหนักต่อไปเพื่อยกระดับตัวเอง และกลายเป็น “ตัวเลือกที่ไว้ใจได้” เมื่อต้องสลับหมุนกับตัวหลักคนอื่นในแนวรุกของนาโปลี เพราะฤดูกาลยาวไกลและทุกตำแหน่งต้องมีคู่แข่งแย่งตัวจริงตลอดเวลา

เส้นทางต่อไปในโคปปา อิตาเลีย: ศึกดวลโคโม่หรือฟิออเรนติน่า

ด้วยชัยชนะสุดระทึกนี้ ส่งผลให้ นาโปลี ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศของ โคปปา อิตาเลีย รอพบผู้ชนะระหว่าง โคโม่ หรือ ฟิออเรนติน่า ซึ่งไม่ว่าจะเจอทีมใด ก็ไม่มีคำว่าง่ายทั้งในแง่แท็กติกและความกดดัน

สำหรับคอนเต้ นี่คือโอกาสสำคัญในการลุ้นแชมป์บอลถ้วยเพิ่มเข้าไปในผลงานกับนาโปลี หลังจากพาทีมต่อยอดจากสคูเด็ตโต้ และรักษามาตรฐานในเวทียุโรปได้อย่างแข็งแกร่ง

เกล็ดความรู้จากเกมนาโปลีดวลกายารีในโคปปา อิตาเลีย

  1. โคปปา อิตาเลียไม่มีต่อเวลาในรอบ 16 ทีม–8 ทีม
    ในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา กฎของโคปปา อิตาเลียกำหนดว่า หากเสมอในเวลา 90 นาทีตั้งแต่รอบ 16 ทีมจนถึงรอบก่อนรองฯ จะตัดเข้าสู่การดวลจุดโทษทันที ทำให้หลายเกมจบแบบกดดันสุดขีดเหมือนนัดนี้
  2. การดวลจุดโทษคือเกมจิตวิทยาเต็มรูปแบบ
    ไม่ใช่แค่ฝีเท้าหรือเทคนิคการยิง แต่สภาพจิตใจทั้งของคนยิงและผู้รักษาประตูสำคัญมาก การมองตา การเว้นจังหวะ การวางบอล ล้วนเป็นรายละเอียดที่ส่งผลต่อผลลัพธ์
  3. โรเตชั่นไม่ใช่แค่คำหรู แต่คือการบริหารทรัพยากรมนุษย์
    การที่คอนเต้เลือกให้ผู้เล่นบางรายออกสตาร์ตในบอลถ้วย คือการกระจายภาระงาน ช่วยลดโอกาสบาดเจ็บ และเปิดโอกาสให้นักเตะสำรองมีความมั่นใจพร้อมถูกดันขึ้นมาช่วยทีมในแมตช์ใหญ่
  4. ฟอร์มบอลถ้วยมีผลต่อบรรยากาศในห้องแต่งตัว
    ชัยชนะในเกมที่ต้องลุ้นยาวอย่างการดวลจุดโทษ สามารถสร้าง “เมนตัมเชิงบวก” ให้ทีมทั้งในลีกและบอลยุโรป เพราะนักเตะจะรู้สึกว่าพวกเขาผ่านสถานการณ์กดดันมาด้วยกันได้
  5. คอนเต้ยังคงเป็นกุนซือสายอินเนอร์ที่ใช้แพสชันขับเคลื่อนทีม
    ไม่ว่าจะคุมทีมไหน แคแร็กเตอร์ของคอนเต้คือความเข้มข้นในรายละเอียดและความโหดในการซ้อม ซึ่งสะท้อนออกมาในเกมแบบนี้ ที่ลูกทีมของเขายังวิ่งไล่และสู้ไม่ถอยจนถึงลูกจุดโทษลูกสุดท้าย

แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งข่าวลึกแท็กติก เบื้องหลังริมเส้น และดราม่าจากลีกใหญ่ยุโรป…อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ฟุตบอลต่างประเทศ GOALSIAM