บาร์ซ่าบุกเซบียาคว้าชัย ดับสถิติหรูเบติสที่ลา การ์ตูฆา
ชัยชนะ 5-3 ของ บาร์เซโลน่า เหนือ เรอัล เบติส ที่สนามเอสตาดิโอ ลา การ์ตูฆา ไม่ได้เป็นแค่สามคะแนนธรรมดาในศึก ลาลีกา แต่คือการแสดงพลังเกมรุกแบบจัดเต็มของทีมของ ฮานซี่ ฟลิค ภายใต้ความกดดันเต็มสูบ หลังเพิ่งแพ้เชลซี และกำลังโดน เรอัล มาดริด กับ บียาร์เรอัล ไล่บี้ในตารางคะแนน
แม้ เบติส จะย้ายมาใช้สนามชั่วคราวระหว่างปรับปรุง “เบนิโต้ บียามาริน” แต่สถิติที่นี่จัดว่าโหด พวกเขายังไม่เคยแพ้ และชนะถึง 3 จาก 4 เกมแรกที่ลงเล่น แถมบาร์ซ่าเองก็ไม่แพ้ที่บ้านเบติสมานานถึง 17 ปี และไม่แพ้ในการเจอกัน 9 นัดหลังสุด ยิ่งทำให้เกมนี้เต็มไปด้วยเดิมพันทั้งเรื่องสถิติและความมั่นใจของทีมเยือน
สุดท้าย บาร์เซโลน่า บุกมายิงห้าลูกใส่ทีมเจ้าถิ่นได้แบบดุดัน พร้อมทิ้งสัญญาณชัดเจนว่า พวกเขายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว
เฟร์ราน “เดอะ ชาร์ค” ขอเครดิตเต็ม ๆ หลังระเบิดฟอร์มคมกริบ
จากปีกธรรมชาติ สู่หัวหอกตัวจบสกอร์
ชื่อของ เฟร์ราน ตอร์เรส เคยถูกแฟนบาร์ซ่าถกเถียงกันมานาน บางคนเชื่อว่าดีพอเป็นตัวจริง บางคนมองว่าเป็นแค่ตัวหมุนเวียน แต่เกมนี้ที่ลา การ์ตูฆา เขาตอบทุกคำถามด้วยผลงานในสนามล้วน ๆ
อย่าลืมว่า เดิมทีเฟร์รานเป็น “ปีกธรรมชาติ” แต่ในยุคของฟลิค เขาถูกขยับเข้ามาเป็นกองหน้าตัวเป้า และเกมนี้เขาแสดงให้เห็นทุกมิติของกองหน้าชั้นดี การสปรินต์สอดหน้า มาร์ค บาร์ตร้า เพื่อโฉบจบสกอร์ลูกแรกคือการอ่านเกมระดับสูง ตามด้วยจังหวะวอลเลย์ที่จบอย่างเฉียบขาด ทั้งหมดเกิดจากความมั่นใจเต็มแม็กซ์
🦈 Ferran Torres today:
— Reshad Rahman (@ReshadFCB) December 6, 2025
• 90 minutes played
• 3 goals
• 79% successful passes
• 100% shot accuracy
• 2 recoveries
➕13 goals this season
➕ 11 La Liga goals pic.twitter.com/tM5pMlc9f0
เมื่อไม่มีเลวานดอฟสกี้…จำเป็นต้องซื้อหน้าเป้าใหม่จริงหรือ?
ที่ผ่านมา เฟร์ราน มักต้องยอมรับบทบาท “ตัวสำรองพระรอง” อยู่หลัง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำให้ฟอร์มขึ้นลงไม่คงเส้นคงวา แต่เมื่อเริ่มได้รับโอกาสต่อเนื่อง และตอบแทนด้วยผลงานแบบนี้ คำถามจึงเริ่มดังขึ้นว่า บาร์ซ่าจะต้องทุ่มเงินซื้อกองหน้าตัวใหม่หลังเลวานดอฟสกี้อำลาทีมจริง ๆ หรือ?
เกมนี้เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า “เดอะ ชาร์ค” ไม่ใช่แค่ฉายาเล่น ๆ แต่เขาพร้อมกัดทุกโอกาสที่ลอยมาในกรอบเขตโทษ
รูนี่ย์ บาร์ดกี้ จับโอกาสไว้แน่น แสดงให้เห็นว่าคู่ควร 11 ตัวจริง
จากม้านั่งสำรอง สู่ฟอร์มที่ใครก็เมินไม่ลง
ก่อนเกมนี้ รูนี่ย์ บาร์ดกี้ ต้องนั่งมองเพื่อนเล่นมาหลายนัด ไม่ได้ลงสนามในทีมชุดใหญ่เลยนับตั้งแต่เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ คลับ บรูช แต่ ฮานซี่ ฟลิค ตัดสินใจใส่ชื่อเขาลงเป็นตัวจริงในเกมใหญ่กับเบติส และนี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ
รูนี่ย์มีส่วนร่วมกับสองประตูของเฟร์ราน ทั้งการเชื่อมเกม การจ่ายบอลทะลุช่อง และการดึงตัวประกบ ก่อนจะปิดจ็อบผลงานส่วนตัวด้วยการซัดประตูสุดสวยของตัวเอง เพิ่มความมั่นใจให้แนวรุกทั้งแผง และสะกดให้แฟนบอลหันมาจำชื่อเขาแบบจริงจัง
ฟลิคยืนยันเอง – รูนี่ย์คืออีกหนึ่งอาวุธเกมรุก
หลังจบเกม ฟลิคออกมายืนยันชัดเจนว่า บาร์ดกี้ จะเป็น “อีกหนึ่งตัวเลือกสำคัญ” ในเกมรุกของทีม
เขายังลองขยับ ลามีน ยามาล มาเล่นตรงกลางในบทบาทหมายเลข 10 และบอกกับนักเตะก่อนเกมว่าพร้อมไหม ซึ่งทั้งรูนี่ย์และลามีนต่างตอบแทนความไว้วางใจด้วยการทำเกมรุกได้อย่างมีชีวิตชีวา ทำให้เกมรุกบาร์ซ่าดูหลากหลายขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า
สำหรับรูนี่ย์ เกมนี้ไม่ใช่แค่การออกสตาร์ทตัวจริง แต่เป็นการประกาศว่า เขาไม่ใช่ “ดาวรุ่งรอวันแจ้งเกิด” อีกต่อไป เขาพร้อมแล้วที่จะเป็นตัวเลือกจริงจังในทีมของฟลิคตลอดฤดูกาลนี้

บาร์ซ่าทั้งมีวินัยและดุดัน เกมรุกไหล เกมรับแน่น (เกือบ 90 นาที)
ฟูลแบ็กบินสูง คุนเด้–บัลเด้ เติมเกมจนเบติสหายใจไม่ทั่วท้อง
สไตล์การเล่นของ เรอัล เบติส ที่เปิดหน้าแลกและกล้าเปิดเกมรุก ทำให้รูปเกมออกมาเข้าทาง บาร์เซโลน่า อย่างจัง โดยเฉพาะการเติมเกมจากริมเส้นของ ฌูลส์ คุนเด้ และ อเลฮานโดร บัลเด้ ที่พุ่งขึ้นสูงเกือบตลอดครึ่งแรก
ทั้งคู่ช่วยดันไลน์เกมรุก ทำให้บาร์ซ่าขึ้นบอลจากหลังไปหน้าได้อย่างรวดเร็ว สร้างสถานการณ์เหนือกว่าทั้งจำนวนคนและพื้นที่ แม้คุนเด้ยังต้องปรับเรื่องการยืนไลน์รับสูงและจังหวะสกัดที่บางทีล้ำหน้าไม่พร้อมกับเพื่อน แต่สิ่งที่เขาให้ทีมในเชิงเกมรุกถือว่าสำคัญและต้องชื่นชม
ลามีนยามาลกลางสนาม เปลี่ยนบาลานซ์เกมให้บาร์ซ่าครองแดนกลาง
การตัดสินใจขยับ ลามีน ยามาล จากริมเส้นเข้ามาตรงกลาง คือหนึ่งในหมากเด็ดของฟลิคในเกมนี้ เพราะช่วยให้บาร์ซ่ามี “เพลย์เมกเกอร์” ที่เชื่อมเกมระหว่างแดนกลางกับแนวรุกได้อย่างไหลลื่น
บาร์เซโลน่า ไม่ได้มีแค่เกมรุกดุดัน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมีวินัยในเกมรับตลอดเกือบทั้งเกม หลังเสียประตูแรกจากจังหวะหลุดสมาธิให้ อันโทนี่ พวกเขาก็กลับมาเล่นอย่างรัดกุม คุมพื้นที่ตรงกลางไม่ให้เบติสตั้งหลักได้ง่าย ๆ
แม้ท้ายเกม เบติส จะฮึดไล่ยิงเพิ่ม จนสกอร์ออกมาใกล้เคียงกว่าภาพรวมของเกม แต่สิ่งที่แฟนบอลได้เห็นคือ บาร์ซ่าชุดนี้มีทั้งมิติการบุกเต็มรูปแบบ และสามารถ “ล็อกเกม” ให้คู่แข่งเล่นยากได้เมื่อจำเป็น
นี่คือฟอร์มที่ต้องเรียกว่าเป็น “สเตทเมนต์” ว่าทีมของฟลิคกำลังเดินมาถูกทาง และพร้อมลุยเกมใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า
The first goal is always special, Roony 🥹#LaLigaHighlights pic.twitter.com/qLtn5zcO8c
— FC Barcelona (@FCBarcelona) December 6, 2025
เกล็ดความรู้จากเกมนี้
- บาร์เซโลน่า ไม่แพ้ เรอัล เบติส ในเกมเยือนลีกมานานกว่า 10 ปี และยังคงสถิติไร้พ่ายต่อไป
- ฟูลแบ็กสมัยใหม่อย่างคุนเด้และบัลเด้ ไม่ได้มีหน้าที่แค่เกมรับ แต่คือหัวใจเริ่มต้นเกมรุกของบาร์ซ่าในหลาย ๆ แมตช์
- การขยับตัวรุกดาวรุ่งอย่างลามีน ยามาล หรือรูนี่ย์ บาร์ดกี้ เข้าตรงกลาง ช่วยเพิ่มมิติการเข้าทำให้บาร์ซ่าดูเดาทางยากกว่ายุคก่อน ๆ
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งยุโรปและไทยลีก อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ฟุตบอลต่างประเทศ GOALSIAM