ภาพรวมเกมช็อกแฟนบอล อตาลันต้าล้มคาเบนเตโกดี้
นี่ไม่ใช่แค่ความพ่ายแพ้ธรรมดา แต่คือคืนที่แฟนบอลของ อตาลันต้า ต้องนั่งกุมขมับ เมื่อทีมรักบุกไปพ่าย เฮลลาส เวโรน่า ทีมบ๊วยที่ยังไม่ชนะใครมาก่อนในฤดูกาลนี้ ถึง 1-3 ในศึก เซเรีย อา
ทั้งที่ก่อนเกม “ลา เดีย” กำลังฟอร์มแรง ชนะมา 3 นัดติด จากทั้งลีก, ฟุตบอลถ้วย และเวทียุโรป แต่กลับมาเสียสามประตูรวดให้ทีมอันดับสุดท้ายของตาราง เป็นผลการแข่งขันที่ทำให้ ราฟฟาเอเล่ พัลลาดิโน่ ถึงกับยอมรับตรง ๆ ว่า “นี่คือฟอร์มที่ไม่อาจยอมรับได้”
เวโรน่ามาได้ประตูจาก ราฟิค เบลกาลี, โจวานเน่ และ อองตวน แบรร์เนเด้ ขณะที่ฝั่งอตาลันต้าได้แค่จุดโทษตีไข่แตกช่วงท้ายเกมจาก จานลูก้า สคามัคก้า ซึ่งไม่เพียงพอจะกู้หน้าในค่ำคืนที่ทุกอย่างผิดพลาดไปหมด

ประตูที่สามดราม่าหนัก พัลลาดิโน่สวน VAR “ชัดขนาดนี้ยังมองไม่เห็น?”
จังหวะโต้กลับ + แฮนด์บอลที่ทำให้เกมพลิก
ประตูที่สามของเวโรน่าคือจุดเปลี่ยนสำคัญ และเป็นชนวนแห่งความไม่พอใจของฝั่งทีมเยือนอย่างเต็มรูปแบบ จังหวะดังกล่าว ลาซาร์ ซามาร์ดซิช กำลังประท้วงว่าบอลไปโดนแขนของ อาร์เมล เบลล่า-ค็อทชัป แต่แทนที่จะได้ฟาวล์ กลับกลายเป็นเวโรน่าใช้จังหวะนั้นสวนกลับเร็ว ก่อนจบด้วยประตูของ แบรร์เนเด้
ทีมงาน VAR เรียกดูภาพช้าอย่างละเอียด ก่อนตัดสินว่า แม้เบลล่า-ค็อทชัปจะพุ่งตัวเอียงเข้าหาบอลจริง แต่ปลายนิ้ว “ไม่เปลี่ยนทิศทางลูก” มากพอ จึงไม่แนะนำให้ผู้ตัดสินลงไปดูข้างสนาม และให้ยืนยันคำตัดสินเดิมบนพื้นหญ้า
พัลลาดิโน่ ให้สัมภาษณ์อย่างไม่อ้อมค้อมว่า
“ผมไม่ค่อยพูดเรื่องผู้ตัดสิน เพราะทุกคนผิดพลาดกันได้ แต่นี่มันชัดเกินกว่าจะเพิกเฉย คุณเห็นได้เลยว่ามีการสัมผัสบอล VAR ถูกสร้างมาเพื่อทำให้เรื่องง่ายขึ้น แต่ตอนนี้กลับทำให้ทุกอย่างยุ่งยากขึ้น พูดกันแต่เรื่องบอลเปลี่ยนทิศหรือไม่ ทั้งที่สิ่งสำคัญคือมันโดนแขนเต็ม ๆ และจังหวะนี้เปลี่ยนเกมทั้งเกม”
เขาย้ำชัดว่าหากจังหวะนี้ถูกจับแฮนด์บอล ประตูที่สามของเวโรน่าจะถูกยกเลิก และอตาลันต้าจะได้จุดโทษมีลุ้นไล่มา 2-1 แทนที่จะโดนหนีห่าง
ครึ่งแรกพังยับ พัลลาดิโน่รับ “ทีมไม่เข้าใจเกมเลยสักนิด”
อ่านเกมผิดตั้งแต่ต้น – แพ้ทั้งแท็กติกและทัศนคติ
แม้จะไม่พอใจคำตัดสิน แต่กุนซืออตาลันต้าก็ไม่โยนความผิดให้ผู้ตัดสินทั้งหมด เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ทีมของเขาออกสตาร์ตเกมนี้ผิดรูปแบบอย่างรุนแรง
“ครึ่งแรกเราย่ำแย่มาก ผมต้องขอโทษแฟนบอล เราไม่เข้าใจเลยว่าควรเล่นเกมแบบไหนกับเวโรน่า”
พัลลาดิโน่อธิบายชัดเจนว่า เขารู้ดีอยู่แล้วว่าเวโรน่าเป็นทีมที่เล่นแบบเข้าปะทะ ดวลตัวต่อตัว และเปิดบอลยาวตรงไปข้างหน้าอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังเป็นทีมที่มีสถิติ “ครองบอลเฉลี่ยน้อยที่สุดในลีก” นั่นหมายความว่า พวกเขาไม่ได้สนใจปั้นบอลช้า ๆ แต่เน้นเล่นเร็ว เน้นไดเรกต์ ปล่อยบอลแนวตั้งเข้าแนวรับคู่แข่งทันที
แต่อตาลันต้ากลับลงไปด้วยทัศนคติที่ “ช้า หน่วง และไม่ปรับตัวตามคู่แข่ง”
“เรารู้ดีว่าเขาจะเล่นเข้ม เล่นดุดัน แต่เราไม่ยอมปรับตัวเองไปตามเกม เขาเน้นบอลยาวเข้าตรงแนวรับ เรากลับปล่อยให้เขาเล่นแบบนั้นได้ง่ายเกินไป”
ผลลัพธ์ก็คือการโดนยิงนำ 3-0 และเมื่อทีมเริ่มตั้งหลักได้ ก็สายเกินกว่าจะกลับเข้าสู่เกมแล้ว

พัลลาดิโน่ยืดอก รับผิดเอง – แต่เตือนลูกทีม “เราจะแพ้แบบนี้อีกไม่ได้”
โค้ชรับเต็ม ๆ ว่าตัวเองส่งสัญญาณผิดไปถึงทีม
หนึ่งในจุดที่น่าสนใจที่สุดของคำให้สัมภาษณ์หลังเกมคือการที่พัลลาดิโน่ ไม่หนีความรับผิดชอบ เขาบอกชัดว่า ตัวเองอาจเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาในเกมนี้
“เราเชื่องช้า มันน่าจะเป็นความผิดของผมด้วย ผมไม่ได้ถ่ายทอดโฟกัสที่ถูกต้องให้ลูกทีม ตอนเราตื่นและเริ่มโต้กลับ มันก็สายไปแล้ว”
เขาย้ำว่า เกมนี้ควรเป็นโอกาสดีในการไต่ขึ้นไปบนตารางคะแนน แต่กลับกลายเป็นการทิ้งสามแต้มสำคัญ เพราะทีม “ไม่พร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ”
ต้องกลับสู่ทีมเวอร์ชัน 3 นัดก่อนหน้าโดยด่วน
พัลลาดิโน่ยอมรับว่า สิ่งที่เขาเห็นในสนาม “ต่างจากอตาลันต้าช่วง 3 นัดหลังสุดอย่างสิ้นเชิง”
“ฟอร์มแบบนี้มันไม่ใช่อตาลันต้าเลย เราต้องเก็บเกมนี้ไว้ในลิ้นชัก แล้วรีบกลับไปเป็นทีมเดิมให้เร็วที่สุด”
เขาย้ำชัดในฐานะผู้นำทีมว่า ไม่สามารถปล่อยให้สภาพจิตใจแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำสองได้อีก
“ผมเป็นผู้นำของทีม ผมยอมรับไม่ได้กับทัศนคติแบบนี้ เราแพ้ได้ แต่ต้องไม่แพ้ด้วยการเล่นแบบนี้ เราต้องมีแนวคิดของผู้ชนะ ไม่ใช่ผู้แพ้”
คำพูดแบบตรง ๆ นี้สะท้อนแคแรกเตอร์ชัดเจนว่า เขาไม่พร้อมปล่อยผ่านลูกทีม เมื่อทีมไม่ได้ล้มเพราะแท็กติกอย่างเดียว แต่ล้มเพราะมาตรฐานของตัวเองตกลงไปด้วย
ก่อนชนเชลซีในเวทียุโรป – เกมนี้คือ “หมัดฮุกเรียกสติ”
อตาลันต้าอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญของฤดูกาล เพราะกำลังจะลงเล่นเกมใหญ่ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า อย่างเชลซี การสะดุดแพ้ทีมบ๊วยในลีกด้วยฟอร์มแบบนี้ ย่อมไม่ใช่การเตรียมตัวที่ใครอยากเห็น
อย่างไรก็ตาม พัลลาดิโน่มองว่า ความพ่ายแพ้แบบเจ็บ ๆ ครั้งนี้อาจกลายเป็น “หมัดฮุก” ปลุกทุกคนให้กลับมาโฟกัส และตระหนักว่า ถ้าขาดความดุดันแค่เปอร์เซ็นต์เดียวในลีกระดับสูง คุณมีสิทธิ์โดนลงโทษทันที
“บางครั้งหมัดหนัก ๆ สักที ก็ทำให้คุณเติบโตได้ เราต้องเอาเกมนี้ไปเป็นบทเรียน และห้ามเล่นแบบนี้อีก”
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดจากปากเขาคือ “เราจะแพ้ได้ แต่ต้องไม่แพ้เพราะทัศนคติผิด” และจากฟอร์ม 3 นัดก่อนหน้าที่ทีมเล่นได้ยอดเยี่ยม ยังมีสัญญาณให้แฟนบอลเชื่อว่าหากตรึงสมาธิกลับมาได้ทันเวลา อตาลันต้ายังพร้อมสู้บนทุกเวที

เกล็ดความรู้จากเกมนี้
- เวโรน่าเป็นหนึ่งในทีมที่ครองบอลเฉลี่ยน้อยที่สุดในลีก แต่ใช้สไตล์บอลไดเรกต์เล่นงานคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความผิดพลาดเล็ก ๆ ในจังหวะรับลูกเซตพีซหรือลูกสอง สามารถเปลี่ยนสมดุลของเกมระดับลีกสูงสุดได้ทันที
- ในฟุตบอลระดับท็อป ความพ่ายแพ้ที่มาจาก “ทัศนคติ” มักเจ็บกว่าพลาดเรื่องแท็กติก เพราะมันสะท้อนถึงมาตรฐานในห้องแต่งตัวทั้งทีม
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งยุโรปและไทยลีก อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ฟุตบอลต่างประเทศ GOALSIAM