ทางเลือกของกุนซือไม่เคยถูกใจทุกคนอยู่แล้ว โดยเฉพาะในวันที่ผลการแข่งขันไม่เข้าข้างอย่างเกมที่ ยูเวนตุส บุกพ่าย นาโปลี 1-2 และชื่อที่ถูกตั้งคำถามมากที่สุดก็คือ เคนาน ยิลดิซ ดาวรุ่งที่ทั้งยิงประตูให้ทีม และโดนเปลี่ยนออกท่ามกลางเสียงวิจารณ์ แต่ สปัลเล็ตติ ออกโรงตอบโต้ชัดทุกประเด็นว่าเขารู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่

ศึกนี้ไม่ใช่แค่เรื่องแพ้–ชนะ แต่มันคือเวทีให้เห็นวิธีคิดของกุนซือระดับท็อปเมื่อต้องจัดการแท็กติก ตัวผู้เล่น และแรงกดดันที่ถาโถมจากทุกทิศ

ฉากหลังเกมพ่ายนาโปลี – จุดเริ่มต้นของคำถามใหญ่

ในเกม กัลโช่ เซเรียอา นัดนี้ ยูเวนตุสต้องเจอกับปัญหาตั้งแต่ก่อนเขี่ยบอล เมื่อ ดูซาน วลาโฮวิช ดาวยิงตัวหลักต้องเข้ารับการผ่าตัดกล้ามเนื้อและพักยาวอย่างน้อย 3 เดือน ทำให้ทีมหมดตัวเลือกกองหน้าเป้าธรรมชาติไปหนึ่งคนทันที

แทนที่สปัลเล็ตติจะเลือกใช้ตัวจบสกอร์อย่าง ลัวส์ โอเพนด้า หรือ โจนาธาน เดวิด ตั้งแต่แรก เขากลับตัดสินใจ “ขยับ” เคนาน ยิลดิซ ไปยืนเป็นหน้าเป้า โดยให้ ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา และ เวสตัน แม็คเคนนี่ ทำเกมสนับสนุนจากด้านหลัง เพื่อใช้ความคล่องตัวสอดแทรกระหว่างแนวรับสามคนของนาโปลี

แผนบนกระดาษดูน่าสนใจ แต่เมื่อเกมจริงเริ่มขึ้น ทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

แผนยิลดิซยืนหน้าเป้า – ไอเดียสวย แต่เงื่อนไขในสนามไม่เอื้อ

หลังจบเกม สปัลเล็ตติอธิบายแท็กติกแบบไม่อ้อมค้อม เขาต้องการให้แนวรุกของยูเวนตุส “เล่นคั่นกลาง” ระหว่างกองหลังสามคนของนาโปลี แล้วเพิ่มมิดฟิลด์อีกหนึ่งคนมาช่วยแก้เพรสซิ่งแบบดวลตัวต่อตัว ซึ่งเป็นจุดเด่นของทีมฝั่งตรงข้าม

แต่ปัญหาคือ ยิลดิซในบทบาทกองหน้าเป้า มักมีตัวประกบติดหลังตลอดเวลา ไม่ได้มีพื้นที่ใช้ทักษะและการเลี้ยงลุยแบบที่ถนัด สปัลเล็ตติเองก็ยอมรับตรงๆ ว่า

  • ทีม “ไม่ดีพอ” ในการใส่บอลให้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่สามารถสร้างสรรค์เกมได้
  • และการใช้เขายืนหน้าเป้า ทำให้ไม่สามารถ “ปล่อยของ” ได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนเล่นด้านข้าง

แม้ในภาพรวมจะไม่เป๊ะตามแผน แต่ ยิลดิซ ก็ยังเป็นคนยิงประตูให้ยูเวนตุสได้ นั่นยิ่งทำให้การถูกเปลี่ยนออกในนาทีที่ 76 กลายเป็นประเด็นร้อนทันที

ทำไมเปลี่ยนยิลดิซออกทั้งที่ยิงได้? สปัลเล็ตติสวนกลับแบบตรงไปตรงมา

เมื่อถูกนักข่าวจี้ถามว่าทำไมถึงเปลี่ยนดาวรุ่งที่กำลังมั่นใจออก สปัลเล็ตติตอบด้วยน้ำเสียงชัดเจนและแฝงแววไม่พอใจเล็กๆ ว่า

  • “เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พวกคุณยังถามผมอยู่ว่าเมื่อไหร่จะให้เคนานพักบ้าง”
  • “วันนี้ผมเลือกส่ง โอเพนด้า นักเตะที่สโมสรจ่ายถึง 45–50 ล้านยูโร เขาก็ต้องได้โอกาสลงเล่นเหมือนกัน”

เขาย้ำว่า ยิลดิซเป็นนักเตะที่ให้ประโยชน์กับทีมได้มาก แต่ถ้า ยูเวนตุส ต้องการ “จังหวะพิเศษ” หรือความเฉียบขาดมากกว่านี้ ดาวรุ่งรายนี้ก็ต้องยกระดับการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น ไม่ใช่โดดเด่นแค่บางจังหวะในเกมเท่านั้น

เดวิดลงมา เปลี่ยนมิติเกมรุก แต่เปิดแผลเกมรับ

ครึ่งหลังเมื่อ โจนาธาน เดวิด ถูกส่งลงสนาม และขยับยิลดิซกลับไปยืนด้านซ้ายในตำแหน่งถนัด เกมรุกของยูเวนตุสดูไหลลื่นและหลากหลายมากขึ้น สปัลเล็ตติเองก็ยอมรับว่า “ทีมเล่นดีขึ้นหลังมีเดวิด”

แต่ทุกการเสริมเกมรุกมีราคา

  • การเติมเกมบุกมากเกินไปทำให้ยูเวนตุส “เสียสมดุล”
  • แผงหลังเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งเล่นงานง่ายขึ้น
  • แนวรับต้องรับมือกับการโต้กลับของนาโปลีในสภาพที่ตัวเองถอยไม่ทัน

สปัลเล็ตติยังเปิดเผยด้วยว่า เอดอน เชโกรว่า ตัวรุกที่อันตรายในพื้นที่สุดท้าย มีอาการเจ็บจากการซ้อมก่อนเกม จึงยังไม่พร้อมลงสนามเต็มที่ และต้องใช้เวลาเรียกความฟิตกลับมา

ปัญหาที่ยูเวนตุสต้องแก้ ไม่ใช่แค่เรื่อง “ใครยิงประตู”

กุนซือชาวอิตาเลียนไม่ได้โยนความผิดให้กองหน้า หรือดาวรุ่งอย่างยิลดิซเพียงคนเดียว เขาย้ำชัดว่า “ยูเวนตุสมีปัญหาตั้งแต่รูปร่างของทีมในสนาม ไม่ใช่แค่จังหวะจบสกอร์”

สิ่งที่ต้องแก้มีหลายระดับ

  • การเคลื่อนที่เชื่อมโยงกันของทั้ง 11 คน ไม่ใช่แค่แนวรุก
  • การวิ่งหาพื้นที่และเปิดทางให้เพื่อนในจังหวะสุดท้าย
  • การบาลานซ์ระหว่างการไล่ยิงประตู กับการไม่เปิดพื้นที่ให้คู่แข่งโต้กลับ

ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นว่า สำหรับสปัลเล็ตติ การจัดตัวไม่ใช่ “หวยเดา” แต่เป็นเรื่องของน้ำหนักแท็กติกที่ต้องตัดสินใจในทุกวินาที

เกล็ดความรู้จากดราม่ายิลดิซ–โอเพนด้า เกมพ่ายนาโปลี

  1. การเปลี่ยนผู้เล่นที่ยิงประตูได้ออก ไม่ได้แปลว่ากุนซือไม่เชื่อใจ แต่อาจสะท้อนว่าทีมต้อง “เปลี่ยนมิติ” ในการเล่นมากกว่าฝากความหวังไว้คนเดียว
  2. ดาวรุ่งอย่าง เคนาน ยิลดิซ แม้จะมีของ แต่การเป็นตัวหลักในทีมใหญ่ ต้องพิสูจน์ทั้ง “ฟอร์ม” และ “ความสม่ำเสมอ” ไปพร้อมกัน
  3. การซื้อกองหน้าค่าตัวระดับ 45–50 ล้านยูโรอย่างโอเพนด้า คือแรงกดดันทางโครงสร้างสโมสร นักเตะแบบนี้ “ต้องได้เล่น” ไม่งั้นคำถามจะย้อนมาที่บอร์ดบริหาร
  4. การขยับตำแหน่งผู้เล่นอย่าง ยิลดิซ ไปยืนหน้าเป้า สะท้อนว่ากุนซือพร้อมเสี่ยงเพื่อหาทางออกใหม่ให้เกมรุก แต่ถ้าเพื่อนร่วมทีมส่งบอลให้ไม่ถึงหรือไม่เข้าทาง แผนสวยบนกระดาษก็พังได้ง่ายๆ
  5. เกมนี้ตอกย้ำว่า ปัญหายูเวนตุสไม่ใช่แค่เรื่อง “ใครจะยิง” แต่มาจากทั้งโครงสร้างแท็กติก การเคลื่อนที่ และสมดุลเกมรุก–รับที่ยังต้องจูนกันอีกไกล

แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งยุโรปและบอลไทยแบบถึงใจ อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ฟุตบอลต่างประเทศ GOALSIAM