การตัดสินใจครั้งใหญ่ของ CBF (สมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล) กำลังเขย่าวงการลูกหนังแดนแซมบ้า เมื่อมีการเปลี่ยนกฎสำคัญเรื่อง “จำนวนแมตช์ที่นักเตะสามารถลงเล่นให้สโมสรหนึ่ง ก่อนย้ายไปอีกทีมในลีกเดียวกัน” จากเดิมแค่ 6 นัด ขยับเป็น 12 นัด แถมยังมาพร้อมการปรับโครงสร้างโควต้า โคปา โด บราซิล และการยืนยันปฏิทินแข่งขันปี 2026 แบบจัดเต็ม

กฎใหม่ย้ายทีมในบราซิลเลียโร่: จาก 6 นัด เป็น 12 นัด

เดิมที นักเตะที่ลงเล่นในศึก บราซิลเลียโร่ ให้กับสโมสรหนึ่งเกิน 6 นัด จะหมดสิทธิ์ย้ายไปเล่นให้ทีมอื่นในลีกเดียวกันในฤดูกาลนั้นทันที แต่ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป (หลังปี 2025) กฎจะถูกขยายให้

  • นักเตะสามารถลงเล่นให้สโมสรต้นสังกัดได้สูงสุด 12 นัด
  • หลังจากนั้นยังสามารถย้ายไปอีกทีมหนึ่งภายในลีกสูงสุดของบราซิลได้ตามกติกาใหม่

การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกอนุมัติในที่ประชุม คณะกรรมการเทคนิคของลีกสูงสุด (Serie A Technical Council) ที่สำนักงานใหญ่ CBF ณ กรุงรีโอ เด จาเนโร ซึ่งถือเป็น “สัญญาณใหม่” ของการจัดระเบียบตลาดซื้อขายนักเตะในประเทศให้ยืดหยุ่นขึ้น

เสียงจากผู้บริหาร CBF: เปลี่ยนกฎทีเดียวกระทบทั้งลีก

เฮลเดอร์ เมลิลโล ผู้อำนวยการบริหารด้านการแข่งขันของ CBF อธิบายทิศทางสำคัญในครั้งนี้ว่า นอกจากเรื่องการปรับโควต้าไปเล่น โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ผ่านเส้นทางลีกและบอลถ้วยแล้ว การเพิ่มลิมิตแมตช์จาก 6 เป็น 12 นัด ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของฟุตบอลบราซิลยุคใหม่

เมลิลโลระบุว่า จุดหลักๆ ของการประชุมคือ

  • ลดจำนวนโควต้าทีมจาก บราซิลเลียโร่ ที่ได้ไปลุยโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส
  • เพิ่มความสำคัญของถ้วย โคปา โด บราซิล ให้กลายเป็นอีกเส้นทางใหญ่สู่เวทียุโรปของอเมริกาใต้
  • และขยายเพดานการแข่งขันของนักเตะก่อนย้ายทีมภายในลีกให้มากขึ้นเป็น 12 นัด

ขณะที่ ฮูลิโอ อาเวลลาร์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันของ CBF เสริมว่า เรื่องการขยายลิมิตแมตช์ของนักเตะ ไม่ได้ดูแค่ระดับลีกสูงสุด แต่ยังยึดโยงกับโมเดลของ เซเรีย บี ที่เคยขยับเพดานจาก 6 นัดเป็น 8 นัด ตั้งแต่ปี 2022 มาแล้ว

ทำไมต้องเพิ่มลิมิตเป็น 12 นัด? มองมุมแท็กติก–ตลาดซื้อขาย

การเพิ่มจาก 6 เป็น 12 นัด ไม่ได้เป็นแค่ตัวเลขสวยๆ แต่สะท้อนแนวคิดใหม่ในด้านกีฬาและการบริหารทีม

  • สโมสรมีเวลาประเมินฟอร์มนักเตะได้นานขึ้น ก่อนตัดสินใจซื้อ–ยืม
  • นักเตะที่ “ไม่ปังกับทีมเดิม” ยังมีโอกาสรีเซ็ตอาชีพในทีมอื่นในลีกเดียวกัน
  • ตลาดซื้อขายรอบกลางฤดูกาล (โดยเฉพาะหน้าร้อนของยุโรป/หน้าหนาวของบราซิล) จะมีตัวเลือกน่าสนใจมากขึ้น

สำหรับแฟนบอล นี่คือจุดเริ่มต้นของยุคที่ “นักเตะในลีกบราซิล” จะเคลื่อนไหวระหว่างสโมสรกันคึกคักกว่าเดิมแน่นอน

ปฏิทินลูกหนังบราซิล 2026: โปรแกรมแน่น มีเบรกบอลโลก

นอกจากเรื่องกฎย้ายทีมแล้ว CBF ยังยืนยัน ปฏิทินแข่งขันปี 2026 อย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยประกาศโครงสร้างคร่าวๆ ในเดือนตุลาคมไปแล้ว

ไฮไลต์สำคัญมีดังนี้

  • สร้าง “ทัวร์นาเมนต์ระดับภูมิภาค” รายการใหม่หลายรายการ
  • ปรับโฉมรูปแบบการแข่งขันของ โคปา โด บราซิล
  • รีดีไซน์โครงสร้างบอลลีกดิวิชั่นล่างให้สมดุลและแข่งขันได้จริงมากขึ้น

ในส่วนของลีกสูงสุด

  • บราซิลเลียโร่ ฤดูกาล 2026 จะเปิดฉากวันที่ 28 มกราคม
  • ก่อนพักเบรกช่วง เวิลด์คัพ จะมีการแข่งขันไปแล้ว 18 นัด
  • หลังเบรก ทีมต่างๆ จะกลับมาลงสนามอีกครั้งในวันที่ 22 กรกฎาคม
  • และเตะต่อเนื่องยาวไปจนถึงวันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งจะเป็นการปิดฉาก 20 เกมสุดท้ายของฤดูกาล

เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ตารางถี่ยิบ แทบไม่มีช่องว่างให้หายใจ ทำให้เรื่องการโรเตชั่น การเสริมทัพ และการบริหารสภาพร่างกายนักเตะ ยิ่งสำคัญกว่าเดิมหลายเท่า

เกล็ดความรู้จากการปรับกฎ CBF ครั้งนี้

  1. ลิมิต 12 นัดช่วยเพิ่มมูลค่านักเตะในตลาด เพราะยังโยกทีมได้แม้ลงเล่นไปพอสมควรแล้ว
  2. การลดโควต้าจากลีกและเพิ่มโควต้าผ่านบอลถ้วย ทำให้ โคปา โด บราซิล กลายเป็นรายการที่ “ต้องใส่เต็ม” ไม่ใช่แค่เวทีโรเตชั่นตัวสำรอง
  3. โมเดลของ เซเรีย บี ที่เคยขยับจาก 6 เป็น 8 นัด คือฐานคิดสำคัญที่ทำให้ CBF กล้าขึ้นลิมิตใหญ่ถึง 12 นัดในลีกสูงสุด
  4. ปฏิทิน 2026 ที่มีเบรกบอลโลกตรงกลาง บีบให้โค้ชต้องวางแผนฟิตเนสและการหมุนเวียนทีมระยะยาวอย่างละเอียด
  5. ในภาพรวม การเปลี่ยนกฎครั้งนี้สะท้อนว่า ฟุตบอลบราซิลกำลังเดินหน้าสู่ “ยุคใหม่” ที่บาลานซ์ระหว่างธุรกิจลูกหนัง กับการแข่งขันในสนามจริงมากขึ้น

แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งข่าวอัปเดตกฎใหม่ ตารางแข่ง และดราม่าตลาดซื้อขายนักเตะ อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ฟุตบอลต่างประเทศ GOALSIAM