ศึกชี้ชะตาพื้นที่ยุโรป ยูเวนตุสบุกเก็บสามแต้มสุดล้ำค่า
นี่ไม่ใช่แค่เกมลีกธรรมดา แต่นี่คือแมตช์ที่ ยูเวนตุส บุกดวลกับ โบโลญญ่า คู่แข่งโดยตรงในการแย่งพื้นที่ฟุตบอลยุโรปในเวที กัลโช่ เซเรียอา โดยตรง สถานการณ์ก่อนแข่ง ทีมของ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ตามหลังโบโลญญ่าอยู่ 2 คะแนน ชัดเจนว่าผลชนะ-แพ้ในเกมนี้ส่งผลโดยตรงต่อหน้าตารางคะแนน
สุดท้ายยูเวนตุสเล่นอย่างรัดกุม ปิดเกมได้ด้วยสกอร์ 1-0 พร้อมแซงขึ้นไปอยู่เหนือโบโลญญ่า กลายเป็นหนึ่งในชัยชนะที่มีน้ำหนักทาง “จิตวิทยา” และ “ตารางคะแนน” ไปพร้อมกัน
สปัลเล็ตติย้ำ นี่คือชัยชนะที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่มานั่งเก้าอี้กุนซือ
หลังจบเกม สปัลเล็ตติให้สัมภาษณ์กับ DAZN Italia แบบไม่อ้อมค้อมว่า เกมนี้คือ “ชัยชนะที่สำคัญที่สุด” ตั้งแต่เข้ามาคุมยูเวนตุส ไม่ใช่เพราะสกอร์ แต่มาจากระดับคุณภาพของคู่แข่งที่ต้องเจอ

เขายกย่องโบโลญญ่าว่าเป็นทีมที่ “มีเอกลักษณ์ มีคุณภาพ และเต็มไปด้วยพลัง” แถมแม้จะเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนยังสร้างความกดดันให้กับยูเวนตุสได้ตลอด นั่นยิ่งทำให้การบุกมาเก็บสามแต้มในเกมนี้มีความหมายมากขึ้นไปอีกในมุมมองของกุนซืออิตาเลียนจอมแท็กติก
สปัลเล็ตติระบุชัดว่า ชัยชนะแบบนี้คือเชื้อไฟสำคัญที่ทำให้ลูกทีมเชื่อมั่นในงานซ้อม และเชื่อในเส้นทางที่ทีมกำลังก่อร่างสร้างตัวใหม่
จุดเปลี่ยนเกม: คาบาลโขกนำ – โอเปนด้าบีบจนคู่แข่งโดนแดง
รูปเกมในครึ่งแรกทั้งสองทีมมีโอกาสใกล้เคียงกัน แต่จุดเปลี่ยนทุกอย่างเกิดขึ้นในช่วงเวลาห่างกันเพียงไม่กี่นาทีในครึ่งหลัง
จังหวะแรกคือประตูสำคัญจากตัวสำรอง ฮวน คาบาล ที่โขกเปลี่ยนทางลูกครอสจาก เคนาน ยิลดิซ ในจังหวะเตะมุม ส่งบอลตุงตาข่ายให้ยูเวนตุสขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่แรงกดดันจะถาโถมใส่เจ้าบ้านต่อเนื่อง
ถัดจากนั้นไม่นาน ความยากของโบโลญญ่าก็เพิ่มขึ้นไปอีกขั้น เมื่อ ทอร์เยิร์น เฮกเกม โดนใบแดงจากการทำฟาวล์ใส่ โลอิส โอเปนด้า ซึ่งหลุดไปในจังหวะอันตราย ทำให้เจ้าบ้านต้องเล่นด้วยผู้เล่น 10 คนในช่วงสำคัญของเกม และเปิดโอกาสให้ยูเวนตุสคอนโทรลจังหวะได้มากขึ้น
สปัลเล็ตติชมแต่ยังดุ – ยูเวนตุส “อยู่ในเกม 90 นาที” แต่ต้องนิ่งกว่านี้
สปัลเล็ตติยอมรับว่าเขาเห็นสัญญาณที่ดีจากฟอร์มการซ้อมตลอดสัปดาห์ และบอกกับผู้บริหารตั้งแต่ก่อนเกมว่า นักเตะเริ่มแสดงพลังที่ดีขึ้นในการตอบสนองต่อแนวทางใหม่ ซึ่งก็ถ่ายทอดออกมาในสนามให้เห็นในแมตช์นี้
เขาเน้นว่า ยูเวนตุส “อยู่ในหัวใจของเกมตลอด 90 นาที” ไล่บู๊ทุกจังหวะ เข้าปะทะในทุกดวลที่โบโลญญ่าพยายามลากไปเล่นแบบตัวต่อตัว และสุดท้ายสามารถยืนระยะได้จนจบเกม
อย่างไรก็ตาม กุนซือมาดเข้มรายนี้ไม่ได้แค่ชมหัวใจผู้เล่น แต่ยังไม่ลืมที่จะ “ดุเชิงสร้างสรรค์” โดยเฉพาะ ฮวน คาบาล ที่แม้จะเป็นฮีโร่ทำประตูชัย แต่สปัลเล็ตติมองว่าแข้งรายนี้ยังต้อง “คุมอารมณ์ให้ดีขึ้น”
เขายกตัวอย่างว่า คาบาลมีคุณภาพสูงทั้งด้านสภาพร่างกายและความเร็ว เหมือนม้าแข่งสายเลือดดี แถมกล้าเล่น เล่นลูกจังหวะสวยๆ อย่างดีดส้นหรือวิ่งเติม แต่สิ่งที่ขาดคือความนิ่งและความแม่นยำในหลายๆ เกมที่ผ่านมา จึงจำเป็นต้อง “เข้ม” กับลูกทีมคนนี้ เพื่อดึงศักยภาพสูงสุดออกมาให้ได้

โอเปนด้า vs โจนาธาน ดาวิด – สองสไตล์ในแดนหน้า มิติใหม่ของเกมรุกยูเวนตุส
อีกประเด็นที่สปัลเล็ตติพูดถึงอย่างชัดเจนคือเรื่องของสองแนวรุกอย่าง โลอิส โอเปนด้า และ โจนาธาน ดาวิด ซึ่งเขามองว่าเป็นกองหน้าที่มีสไตล์แตกต่างกัน และเลือกใช้ให้เหมาะกับชนิดของคู่แข่ง
สปัลเล็ตติอธิบายว่า
- ดาวิด ถูกมองว่าเป็น “กองหน้าตัวสอง” มากกว่าหัวหอกยืนค้ำ เพราะถนัดการลงต่ำมาผสมเกม ต่อบอลกับเพื่อน และเชื่อมแดนกลางกับแดนหน้า
- ส่วนโอเปนด้า คือ “กองหน้าพลังระเบิด” ที่เหมาะกับเกมแบบเจอโบโลญญ่า ซึ่งปล่อยให้มีพื้นที่ด้านหลังแนวรับ พอเห็นช่องเมื่อไหร่ เขาสามารถกระชากสปีดวิ่งชนเข้าหาคู่แข่งแบบเต็มกำลังได้ทันที
แม้โอเปนด้าจะมีจังหวะพลาดโอกาสแบบน่าเสียดายอยู่บ้าง แต่สปัลเล็ตติยืนยันว่าเขาพอใจกับความพยายาม การวิ่งไล่บีบเกม และการสร้างปัญหาให้กองหลังโบโลญญ่าตลอดช่วงที่อยู่ในสนาม
ยูเวนตุสขยับขึ้นที่ 5 – เรือแชมเปียนส์ลีกเริ่มกลับมาอยู่ในราง
สามแต้มจากเกมนี้ทำให้ ยูเวนตุส แซงหน้าโบโลญญ่าขึ้นไปรั้งอันดับ 5 ของตารางชั่วคราว รอลุ้นผลคู่ระหว่างโรมาที่จะเปิดบ้านพบโคโม่ในวันถัดไป ซึ่งมีผลโดยตรงต่อรูปแบบการแข่งขันแย่งพื้นที่ยุโรปในช่วงโค้งสำคัญของฤดูกาล
ที่สำคัญ ก่อนหน้านี้ยูเวนตุสเพิ่งเก็บชัยชนะในเกมยุโรปด้วยการอัด พาฟอส 2-0 ในกลางสัปดาห์ ถือเป็นการ “กู้หน้า” บนเวที แชมเปียนส์ลีก และเพิ่มความเชื่อมั่นของทีมให้กลับมามีทิศทางที่ดีอีกครั้ง
ข่าวดีในเกมนี้คือการคัมแบ็กของ เกลสัน เบรเมอร์ กองหลังตัวหลักที่หายหน้าจากทีมไปร่วมสองเดือน กลับมาลงสนามช่วยแนวรับได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ข่าวร้ายก็ตามมาติดๆ เมื่อ เติน คู๊ปไมเนอร์ส โดนใบเหลือง และจะติดโทษแบนหมดสิทธิ์ลงเจอโรมาในเกมต่อไป
เกมหน้าไม่เพียงสำคัญในแง่คะแนนเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกบททดสอบว่า ทีมของสปัลเล็ตติจะรักษาโมเมนตัมเชิงบวกจากเกมเฉือนโบโลญญ่าไปต่อได้มากแค่ไหน
สรุปภาพรวม: ชัยชนะที่ได้ทั้งสามแต้มและความเชื่อมั่น
หากดูแค่สกอร์ 1-0 อาจเหมือนเป็นชนะทั่วไป แต่ในสายตาของสปัลเล็ตติและแฟนบอลม้าลาย นี่คือชัยชนะแบบ “ยกระดับ” ทั้งเรื่องแท็กติก, หัวจิตหัวใจ และความเชื่อมั่นของทีม
ยูเวนตุสแสดงให้เห็นว่า สามารถยืนระยะในเกมยาก บุกชนะคู่แข่งที่มีระบบชัดเจนอย่างโบโลญญ่า แก้เกมได้ถูกจังหวะ ใช้ตัวสำรองอย่างคาบาลและโอเปนด้าเปลี่ยนโฉมหน้าเกม และที่สำคัญคือ “ไม่หลุดโฟกัส” ในช่วงท้ายแมตช์ ซึ่งเคยเป็นจุดเปราะของพวกเขาในบางช่วงที่ผ่านมา
สปัลเล็ตติเองก็ส่งสารชัดเจนว่า เขาพอใจ แต่ไม่ได้ปล่อยผ่านข้อผิดพลาด และจะยัง “เข้ม” กับลูกทีมต่อไป เพราะเป้าหมายของยูเวนตุสไม่ได้จบแค่การแซงโบโลญญ่าขึ้นมา แต่คือการทวงบัลลังก์และกลับไปยืนแถวหน้าของยุโรปอย่างเต็มตัว

เกล็ดความรู้เล็กๆ จากเกมนี้
- ชัยชนะเหนือโบโลญญ่าทำให้ภาพการแข่งขันแย่งพื้นที่ยุโรปใน กัลโช่ เซเรียอา ทวีความเดือด ยูเวนตุสขยับตัวเองกลับมาอยู่ในโซนลุ้นตั๋วอย่างจริงจัง
- รูปแบบการใช้กองหน้า 2 โปรไฟล์อย่าง โอเปนด้า และ โจนาธาน ดาวิด เป็นตัวอย่างของการปรับแท็กติกตามสไตล์คู่แข่งที่เห็นผลในสนาม
- การกลับมาของ เบรเมอร์ คือจุดสำคัญในระยะยาว เพราะช่วยเพิ่มความแน่นในแนวรับ ขณะที่การขาด คู๊ปไมเนอร์ส ในเกมหน้าจะเป็นอีกโจทย์ใหญ่ให้สปัลเล็ตติแก้เกมกลางสนาม
แฟนบอลที่อยากเกาะติดทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ตั้งแต่ข่าวลึกในแคมป์ ยูเวนตุส, วิเคราะห์แท็กติกกัลโช่ ไปจนถึงความเคลื่อนไหวตลาดนักเตะ อย่าลืมติดตามข่าวมันส์ๆ ได้ที่ ฟุตบอลต่างประเทศ GOALSIAM นะคะ