แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆ สำหรับ พลังกาญจน์ เอฟซี ทีมน้องใหม่แห่งศึก ไทยลีก 1 (T1) ฤดูกาล 2025/26 ที่เดินหน้าเสริมทัพอย่างหนักเพื่อให้พร้อมที่สุดกับภารกิจบนลีกสูงสุดของเมืองไทย ล่าสุดปิดดีลสุดเร้าใจ คว้าตัว พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา แบ็คซ้ายจอมเก๋าดีกรีทีมชาติไทยจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มาร่วมทัพเรียบร้อยแบบไม่มีเงื่อนไขให้แฟนบอลต้องลุ้นยืดเยื้อ
นี่คือการเติมพลังในแนวรับที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับทัพ ม้าเหล็ก เพราะ “เจ้าบาส” วัย 32 ปี ไม่ได้เป็นแค่นักเตะมากประสบการณ์ แต่เขาคือหนึ่งในฟูลแบ็คสายบุกที่ครบเครื่องที่สุดในไทยลีกยุคปัจจุบัน และยังเป็นคนที่มีหัวใจของผู้ชนะอย่างแท้จริง หลังจากอยู่กับ แข้งเทพ มาตั้งแต่ปี 2019 ลงเล่นให้ทีมไปถึง 191 นัด รวมทุกรายการ ฝากผลงานยิง 6 ประตู กับ 14 แอสซิสต์ สถิติเหล่านี้การันตีชัดถึงศักยภาพที่ยังไม่โรยรา
เส้นทางลูกหนังของ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ผ่านการค้าแข้งกับสโมสรใหญ่ระดับแถวหน้าของประเทศ เริ่มต้นแจ้งเกิดกับ บีอีซี เทโร ศาสน ก่อนจะย้ายไปสร้างชื่อกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด และมาเป็นตัวหลักของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาคือหนึ่งในกำลังสำคัญที่พาแบงค็อกผงาดคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ 2023/24 และ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2023 ได้อย่างยิ่งใหญ่
ด้านผลงานในนามทีมชาติไทย “เจ้าบาส” เองก็ไม่น้อยหน้า เพราะเขาติดธงตั้งแต่ระดับ U19, U23 จนก้าวขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2013 ลงสนามไปแล้ว 36 นัด พร้อมมีชื่อบนสกอร์บอร์ด 1 ประตู และอีก 1 แอสซิสต์ แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของผู้เล่นที่ไม่ใช่เพียงแค่เล่นเกมรับได้ดี แต่ยังเติมเกมรุกได้อันตรายไม่แพ้แนวรุกอาชีพ
ในแง่ของเกียรติยศส่วนตัว พีระพัฒน์เป็นนักเตะที่คว้าแชมป์กับทุกสโมสรที่เขาร่วมทัพมา ไล่ตั้งแต่ ลีก คัพ 2014 กับเทโร, ไทยลีก 2016, ลีก คัพ 2016, 2017, และ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2017 กับเมืองทอง ก่อนมาสานต่อความสำเร็จกับแบงค็อกในซีซั่นล่าสุด บ่งบอกชัดว่าเขาไม่ใช่นักเตะธรรมดา แต่คือผู้เล่นที่ยกระดับทีมให้เป็นแชมป์ได้
การเข้ามาของเจ้าบาส ไม่เพียงช่วยเพิ่มความแน่นในแนวรับของพลังกาญจน์เท่านั้น แต่ยังเพิ่มภาวะผู้นำ ความเก๋า และสปิริตของผู้ชนะให้กับทีมที่กำลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในลีกสูงสุดครั้งแรกของสโมสร หากมองในมุมแท็คติก การมีแบ็คซ้ายที่เติมเกมได้ดุดันอย่างเขาจะทำให้เกมรุกของทีมมีมิติมากขึ้นและสามารถต่อกรกับบรรดาทีมใหญ่ในลีกได้แบบไม่มีเกรงกลัว
การเซ็นสัญญาครั้งนี้คือการประกาศศักดาของ พลังกาญจน์ เอฟซี ว่าพวกเขาไม่ได้ขึ้นมา T1 เพื่อแค่เรียนรู้ แต่คือการขึ้นมาท้าชนเพื่อยืนหยัดในลีกสูงสุดให้ได้ในระยะยาว
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวทุกดีลเดือดในตลาดนักเตะไทยลีก และบทวิเคราะห์ที่เจาะลึกกว่าที่ใด ได้ทุกวันที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM
