ถึงคราวแยกย้ายกันเดินบนเส้นทางลูกหนัง เมื่อ “สยาม แยปป์” ปีกลูกครึ่งไทย-อังกฤษ วัย 21 ปี ต้องอำลาสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ หลังหมดสัญญากับทีม และไม่ได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่ ท่ามกลางเสียงเสียดายจากแฟนบอลที่ติดตามการพัฒนาของเจ้าหนูรายนี้มาตั้งแต่ก้าวแรกในเมืองไทย

ปราสาทสายฟ้า” เพิ่งประกาศอย่างชัดเจนผ่านแถลงการณ์ว่าได้แยกทางกับ สยาม แยปป์ พร้อมกล่าวขอบคุณสำหรับความมุ่งมั่น ทุ่มเท และความตั้งใจที่เจ้าตัวได้มอบให้กับสโมสรตลอดระยะเวลาที่อยู่ใต้ชายคาของบุรีรัมย์ โดยข้อความจากสโมสรระบุว่า
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขอขอบคุณ สยาม แยปป์ สำหรับความทุ่มเทตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ขอให้โชคดีกับเส้นทางในอนาคต

สยาม แยปป์ เพิ่งกลับมาจากการถูกยืมตัวไปเล่นกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ตลอดฤดูกาล 2024/25 และได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องรวม 16 นัด ทำไป 2 ประตู และแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีในเกมรุก ความเร็ว ความคล่องตัว และความกล้าเลี้ยงที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในตัวรุกน่าสนใจของไทยลีก อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล เขากลับไม่ได้รับโอกาสต่อสัญญาในถิ่น ช้าง อารีนา และตัดสินใจอำลาสโมสรในที่สุด

สำหรับประวัติของ สยาม แยปป์ ถือว่าไม่ธรรมดาเลย เขาเกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2547 ปัจจุบันมีส่วนสูง 181 เซนติเมตร สามารถเล่นได้ทั้ง ปีกซ้าย และ ปีกขวา ด้วยเทคนิคเฉพาะตัวที่โดดเด่นตั้งแต่วัยเยาว์ เขาเคยไปร่วมฝึกซ้อมกับทีมชั้นนำในต่างประเทศมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ครูไซโร (บราซิล) และ สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) ซึ่งทั้งสองสโมสรต่างประทับใจฝีเท้าของเจ้าตัว แต่ติดข้อจำกัดตาม กฎฟีฟ่าว่าด้วยเรื่องการเซ็นสัญญานักเตะเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำให้ในช่วงเวลานั้นเขาไม่สามารถลงนามในสัญญาอาชีพกับทีมใดได้

หลังจากนั้นเส้นทางของเขายังน่าจับตามอง เมื่อเขาได้เข้าร่วมโครงการ Bayern Munich World Squad ที่คัดเลือกนักเตะเยาวชนฝีเท้าดีจากทั่วโลก เพื่อฝึกซ้อมกับสโมสร บาเยิร์น มิวนิค รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ซึ่ง สยาม แยปป์ ได้รับเลือกและมีโอกาสฝึกซ้อมในระบบของทีมยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมันถึง 2 ปีเต็ม นับเป็นประสบการณ์ที่หาค่ามิได้สำหรับนักเตะวัยเพียง 19 ปีในขณะนั้น

การแยกทางกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ครั้งนี้ จึงไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่คือจุดเริ่มต้นของบทใหม่ในชีวิตของ สยาม แยปป์ นักเตะที่ยังมีศักยภาพล้นเหลือ และกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่เขาอาจกลายเป็นตัวหลักในทีมใดทีมหนึ่ง หากได้รับโอกาสที่เหมาะสมจากสโมสรใหม่

GOALSIAM ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับดาวรุ่งลูกครึ่งไทย-อังกฤษรายนี้ ขอให้เขาเดินหน้าต่อบนเส้นทางลูกหนังด้วยความมุ่งมั่น และหวังว่าเราจะได้เห็นชื่อของเขากลับมาสร้างความฮือฮาในไทยลีกอีกครั้งในเร็วๆ นี้

อย่าพลาดทุกความเคลื่อนไหวของนักเตะดาวรุ่ง และตลาดซื้อขายนักเตะไทยลีก ติดตามได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM