บทสรุปศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 51
ศึก คิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 จบลงที่จังหวัดกาญจนบุรีพร้อมเรื่องราวเบื้องหลังมากมายที่ถูกเปิดเผยโดย นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี หรือที่แฟนบอลรู้จักในชื่อ “หมอหวัด” ซึ่งออกมาเล่าถึงทุกแง่มุมการจัดงานในครั้งนี้ ผ่านโพสต์ยาวบนโซเชียลมีเดียส่วนตัว ตั้งแต่ขั้นตอนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพไปจนถึงการรับมือกับอุปสรรคที่หลายฝ่ายไม่เคยรู้มาก่อน
เจ้าภาพที่ไม่ได้วางแผนไว้ แต่ทำได้สำเร็จ
นพ.ประวัติ ยอมรับตรงไปตรงมาว่า จังหวัดกาญจนบุรีไม่ได้มีการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพมาก่อน ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความบังเอิญเมื่อเห็นสมาคมฟุตบอลฯ ประกาศรับสมัครจังหวัดที่สนใจ เขาเพียงแค่ลองเสนอตัวและคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด จนท้ายที่สุดได้รับเลือกเหนือคู่แข่งอย่างสงขลาและเชียงใหม่ แม้จะมีข้อจำกัดมากมาย แต่ความได้เปรียบคือแนวคิดของสมาคมที่อยากให้จังหวัดใหม่ๆ ได้มีโอกาสสร้างประสบการณ์
ฝ่าดราม่า “ไม่พร้อม” สู่ความภูมิใจ
หนึ่งในเสียงวิจารณ์ที่ดังตลอดช่วงแรกคือการจัดการที่ไม่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นสนามซ้อม สนามแข่งขัน ความจุอัฒจันทร์ ห้องแต่งตัว หรือแม้แต่พื้นสนามหญ้าที่ไม่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตามทีมงาน อบจ. กาญจนบุรี พยายามทำงานอย่างหนัก และใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนปรับปรุงทุกจุด จนวันแข่งขันจริงทุกอย่างออกมาดีเกินคาด ได้รับคำชื่นชมจากแฟนบอลและผู้มาเยือน
ทีมเวิร์คและความมืออาชีพคือหัวใจ
“หมอหวัด” ย้ำว่าการทำงานในครั้งนี้เป็นบททดสอบใหญ่ที่ อบจ. ไม่สามารถทำเพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยเครือข่ายจากหลายภาคส่วนเข้ามาช่วยเหลือ ตั้งแต่ฝ่ายก่อสร้าง ทีมช่าง เทศบาล โรงแรม จนถึงฝ่ายรักษาความปลอดภัย ทุกฝ่ายทำงานประสานกันอย่างมืออาชีพตามไทม์ไลน์ที่ถูกกำหนดไว้ ถือเป็นบทเรียนสำคัญของจังหวัด
อุปสรรคและการกลั่นแกล้งที่ต้องอดทน
หนึ่งในเรื่องที่ถูกเปิดเผยและไม่เคยบอกต่อสาธารณะคือ การถูก “กลั่นแกล้ง” โดยมีผู้ไม่หวังดีตัดสายไฟเครื่องปั๊มน้ำสนามหญ้าหลายครั้ง ทำให้หญ้าตายไปกว่า 200 ตารางเมตร ทีมงานต้องเร่งแก้ไขตลอดเวลาแม้กระทั่งก่อนแข่งเพียง 2 วัน รวมถึงเหตุการณ์มือดีปิดวาล์วน้ำในวันแข่งขัน แต่สุดท้ายก็สามารถแก้ปัญหาได้ทัน
ฝนตก ฟีฟ่าเดย์ และโชคชะตา
อีกหนึ่งโจทย์ใหญ่คือการจัดแข่งขันในช่วงฤดูฝนตรงกับฟีฟ่าเดย์ ซึ่งเสี่ยงต่อสภาพอากาศทุกจังหวัด “หมอหวัด” ยอมรับว่าต้องอาศัยดวงควบคู่กับการเตรียมพร้อมเต็มที่ และสุดท้ายกาญจนบุรีก็รอดจากฝนตกหนักมาได้
ผลงานทีมชาติและการมองไปข้างหน้า
แม้ ทีมชาติไทย จะไม่สามารถป้องกันแชมป์ได้ แต่เจ้าภาพมองว่าฟุตบอลรายการนี้ยังคงเปี่ยมด้วยเสน่ห์ นักเตะทุกคนเล่นอย่างเต็มที่และมอบความสุขให้แฟนบอลทั่วประเทศ นพ.ประวัติยังเผยว่าแม้จะเหนื่อยแต่ภูมิใจ และพร้อมส่งต่อ “พิมพ์เขียว” ให้จังหวัดอื่นๆ นำไปใช้หากต้องการจัดในอนาคต
สิ่งที่กาญจนบุรีได้รับ
นอกจากภาพลักษณ์ใหม่ของจังหวัดแล้ว คิงส์ คัพ ยังสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน เกิดสนามฟุตบอลใหม่หลายแห่ง รวมถึงการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถือเป็นประโยชน์ที่ยากจะประเมินค่าได้
เกร็ดหน้ารู้เกี่ยวกับ : คิงส์ คัพ
- คิงส์ คัพ จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2511 และเป็นถ้วยพระราชทานที่มีเกียรติสูงสุดในไทย
- หลายทีมชาติระดับโลกเคยเข้าร่วม เช่น สวีเดน เดนมาร์ก และเกาหลีใต้
- การแข่งขันช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับนักเตะไทยหลายรุ่น เช่น ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน และธีรศิลป์ แดงดา
- รายการนี้ยังเป็นเวทีทดลองระบบทีมก่อนศึกคัดบอลโลกและเอเชียน คัพ
ขอบคุณคลิปจาก ช้างศึก – ฟุตบอลทีมชาติไทย
ศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 อาจไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกด้าน แต่สิ่งที่กาญจนบุรีได้กลับมาคือความภูมิใจ และบทเรียนครั้งสำคัญที่ต่อยอดไปสู่อนาคต ติดตามทุกเรื่องราวเข้มข้นแบบนี้ได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM
