เหตุการณ์เดือดท้ายเกม
ศึก คิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอิรัก กลายเป็นที่พูดถึงอย่างร้อนแรงในโลกโซเชียล ไม่ใช่เพียงเพราะผลการแข่งขันที่ไทยพ่ายไป 0-1 จากประตูของ โมฮานัด อาลี แต่ยังมีเหตุการณ์ดราม่าที่ทำให้แฟนบอลเดือดดาลไปตามๆ กัน นั่นคือจังหวะปะทะรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายเกม เมื่อโมฮานัด อาลี กองหน้าหมายเลข 10 ของอิรัก พุ่งเข้าสกัดใส่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ อย่างน่าเกลียดและเสี่ยงอันตราย
ผลกระทบต่อ “ชนาธิป”
การฟาวล์ดังกล่าวทำให้ “เจ ชนาธิป” ไม่สามารถเล่นต่อได้และต้องถูกเปลี่ยนตัวออกทันที ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนร่วมทีมและเสียงโห่จากแฟนบอลที่เข้ามาชมในสนาม บรรยากาศช่วงเวลานั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียด การปะทะถึงขั้นทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนเล็กน้อย ก่อนที่ผู้ตัดสินจะควักใบแดงไล่ โมฮานัด อาลี ออกจากสนามทันที
เสียงสะท้อนจากแฟนบอล
หลังจบเกม เหตุการณ์ดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ แฟนบอลจำนวนมากมองว่าจังหวะนี้ไม่ใช่การเล่นบอลตามปกติ แต่เป็นการเจตนาทำร้ายคู่แข่งโดยตรง ซึ่งไม่สมควรเกิดขึ้นในเกมระดับนานาชาติ หลายคนออกมาเรียกร้องให้มีการพิจารณาลงโทษเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
มุมมองต่อเกมกีฬา
แม้การแข่งขันฟุตบอลจะเต็มไปด้วยความเข้มข้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สปิริตและน้ำใจนักกีฬา จังหวะที่ชนาธิปโดนเข้าสกัดครั้งนี้ ถือเป็นตัวอย่างที่ไม่ควรถูกยกย่องในวงการกีฬา และยังสะท้อนถึงปัญหาที่ฟีฟ่าควรจับตามองเพื่อป้องกันอันตรายต่อผู้เล่นในอนาคต

เกร็ดหน้ารู้เกี่ยวกับ : ใบแดงในฟุตบอล
- ใบแดงในเกมฟุตบอลเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นทำฟาวล์รุนแรง ใช้ความรุนแรง หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
- หากโดนใบแดง ผู้เล่นจะถูกไล่ออกจากสนามทันที และทีมจะเหลือผู้เล่นน้อยกว่าคู่แข่ง
- ในหลายกรณี ผู้เล่นที่โดนใบแดงอาจถูกแบนเพิ่มจากการพิจารณาโทษย้อนหลัง
- การปกป้องนักเตะจากการเข้าสกัดอันตรายเป็นสิ่งที่องค์กรลูกหนังทั่วโลกให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
ขอบคุณคลิปจาก BG Sports
แฟนบอลชาวไทยต่างหวังให้ “ชนาธิป” ฟื้นตัวกลับมาช่วยทีมได้เร็วที่สุด และหวังว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต ติดตามทุกความเคลื่อนไหวและเรื่องราวเข้มข้นได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM