สรุปภาพรวมคดีเชิงลึก

คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท มีมติลงโทษผู้ตัดสินจากเกม BYD DOLPHIN LEAGUE 3 ฤดูกาล 2025/26 คู่ระหว่าง สมุทรสงคราม ซิตี้ พบ นนทบุรี ยูไนเต็ด หลังตรวจสอบคำร้องเรียนของฝั่ง “อีกาทอง” กรณีจุดโทษนาทีที่ 10 ที่ถูกมองว่า “ไม่เข้าหลักฟาวล์” ส่งผลให้ผู้ตัดสิน ยุทธพงศ์ ริยะสาร ถูกสั่งพักหน้าที่ 6 สัปดาห์ ยืนยันมาตรฐานการแข่งขันและความรับผิดชอบของคณะตัดสิน

เหตุการณ์ที่เป็นข้อร้องเรียน: นาทีที่ 10 จุดเปลี่ยนเกม

รายละเอียดคำร้องชี้ว่า ในกรอบเขตโทษ น.10 ราชันย์ กันจินะ (นนทบุรี) ใช้ลำตัวบังบอลตามจังหวะปกติของเกมเพื่อกัน กุลวัต หัสถาพันธ์ (สมุทรสงคราม) ไม่ให้เข้าถึงบอล ทว่าผู้ตัดสินกลับมองเป็นการฟาวล์และชี้ จุดโทษ ให้เจ้าบ้าน ฝั่งผู้ถูกร้องยืนยันว่าเป็นเพียงการ “ชิงพื้นที่-ชิงจังหวะ” ตามกติกา ไม่ควรเป็นโทษ

ผลการพิจารณา: ผิดพลาดจริง จึงต้องแบน

หลังทบทวนคลิปและรายงานเหตุการณ์ คณะวินัยฯ ฟันธงว่า “การให้จุดโทษครั้งนี้เป็นการตัดสินที่ ผิดพลาด” เนื่องจากองค์ประกอบของฟาวล์ไม่ชัดเจนพอ ไม่พบพฤติกรรมผลัก-ดึง-เกี่ยวที่เกินการใช้ลำตัวตามปกติ จึงมีคำสั่ง พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ กับผู้ตัดสินผู้รับผิดชอบเกมดังกล่าว เพื่อเป็นบรรทัดฐานและยกระดับมาตรฐานการตัดสินใน ไทยลีก 3

เหตุใดจังหวะนี้ไม่เข้าหลัก “ฟาวล์ในกรอบ”

ตามหลักกติกา การใช้ ลำตัวบังบอล (Shielding) ถือว่า “ถูกต้อง” หากผู้เล่นครอบครองตำแหน่งได้ก่อนและไม่ได้ใช้แรงผลัก/เหนี่ยวรั้งอย่างผิดกติกา จังหวะที่ถูกต้องมักประกอบด้วย

  • ผู้เล่นยืนระหว่างคู่แข่งกับบอลอย่างชัดเจน
  • ไม่มีการใช้มือ/แขนผลักอย่างเห็นได้ชัด
  • ไม่มีการเกี่ยวขาหรือเล่นอันตราย
    เมื่อองค์ประกอบเหล่านี้ครบ การชี้โทษจำเป็นต้องมี “การกระทำเกินกว่าใช้ลำตัว” อย่างเด่นชัด จึงจะเป็น จุดโทษ ได้

แง่มุมแท็กติก: ป้องกันในกรอบต้อง “สะอาดและนิ่ง”

แนวรับในกรอบเขตโทษต้องเล่นให้ สะอาด (Clean Defending) ลดการยื่นมือ-แขนที่เสี่ยงตีความผิด และควบคุมก้าวเท้าไม่ให้พาไปชนด้านหลัง การ “ชิงพื้นที่ก่อน” คือหัวใจ—ถ้ายืนถูกก่อน โอกาสเสียฟาวล์จะต่ำลง ขณะเดียวกันแนวรุกต้อง “เปลี่ยนสปีด” และ “ล็อกไลน์วิ่ง” ให้คู่แข่งตัดสินใจลำบากเพื่อปั่นแรงกดดันในกรอบ

ผลสะเทือนต่อภาพรวมการแข่งขัน

คำตัดสินครั้งนี้ส่งสัญญาณชัดว่า ฟุตบอลอาชีพระบบ BYD DOLPHIN LEAGUE 3 ให้ความสำคัญกับความยุติธรรมและความโปร่งใส การลงโทษผู้ตัดสินที่พลาดคือกลไกหนึ่งในการยกระดับคุณภาพเกมและความเชื่อมั่นของสโมสร-แฟนบอล ขณะเดียวกันยังเป็น “บทเรียน” เชิงวิชาชีพให้ทีมผู้ตัดสินทบทวนมาตรฐานการอ่านเกมในจังหวะชี้ขาด

สรุปมุมมองเชิงสถาบัน

การตัดสินลงโทษ 6 สัปดาห์ สะท้อนการทำงานที่ เด็ดขาด โปร่งใส และรับผิดชอบ ของคณะวินัยฯ เพื่อคงเสถียรภาพด้านกติกาในลีก หากรักษามาตรฐานแบบนี้ต่อเนื่อง คุณภาพเกมและความไว้วางใจต่อระบบการแข่งขันใน ไทยลีก 3 จะยิ่งแน่นแฟ้น

เกล็ดความรู้

  1. การบังบอลด้วยลำตัว (Shielding) ถูกกติกา หากผู้เล่นยืนตำแหน่งได้ก่อนและไม่ใช้มือ/แขนผลัก
  2. ฟาวล์ในกรอบต้องมีองค์ประกอบเกินกว่า “ชิงพื้นที่”—เช่น เหนี่ยว ดึง เกี่ยว หรือผลักชัดเจน
  3. ผู้ตัดสินถูกพักหน้าที่ไม่ใช่ “ลงโทษบุคคล” อย่างเดียว แต่เป็นการ “ยกระดับคุณภาพ” เชิงระบบ
  4. การประท้วงคำตัดสินจำเป็นต้องมี “หลักฐานภาพเคลื่อนไหว” และรายงานเหตุการณ์ที่ครบถ้วน
  5. เกมระดับอาชีพให้ความสำคัญกับจังหวะชี้ขาดในกรอบเป็นพิเศษ เพราะส่งผลโดยตรงต่อผลการแข่งขัน

ขอบคุณรูปภาพจาก FA Thailand / Nonthaburi United 

ติดตามข่าวสาร ประเด็นร้อนหลังเกม และวิเคราะห์การทำหน้าที่ผู้ตัดสินในฟุตบอลไทยแบบเข้มข้นได้ทุกวันที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM

Categorized in:

ฟุตบอลไทย,