12 ปีแห่งการรอคอยของฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย
หลายคนอาจลืมไปแล้วว่า ครั้งสุดท้ายที่ ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย สัมผัสเหรียญทองซีเกมส์ คือเมื่อไหร่ คำตอบคือยาวนานถึง “12 ปีเต็ม” นับจากวันประวัติศาสตร์ใน ซีเกมส์ 2013 ที่เมียนมาเป็นเจ้าภาพ ซึ่งคือครั้งสุดท้ายที่ทัพ ชบาแก้ว ก้าวขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุด พร้อมหอบเหรียญทองกลับมาฝากคนไทยทั้งประเทศ
วันนี้เราจะพาย้อนกลับไปดูว่า เส้นทางสู่เหรียญทองในครั้งนั้นเริ่มต้นจากตรงไหน ใครคือฟันเฟืองสำคัญ และอะไรคือหัวใจที่ทำให้ทีมชุดนั้นแข็งแกร่งจนคว้าแชมป์ ก่อนโยงมาสู่ความหวังครั้งใหม่ใน ซีเกมส์ 2025 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
จุดเริ่มต้นยุคโค้ชจุ่น – จากเอเชียนคัพ 2010 สู่การสร้างรากฐาน
เบื้องหลังเหรียญทองซีเกมส์ 2013 ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เริ่มปูทางมาตั้งแต่ปี 2010 เมื่อ ดร.จตุพร ประมลบาล (โค้ชจุ่น) เข้ามารับงานคุมทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เพื่อลุยศึกเอเชียนคัพ 2010 รอบสุดท้ายที่ประเทศจีน
ตอนนั้นโค้ชจุ่นมีเวลาเตรียมทีมเพียงราว 1 เดือน ต้องพาลูกทีมลงเล่นในกลุ่มที่มี “ญี่ปุ่น” มหาอำนาจลูกหนังเอเชียเป็นด่านหิน แม้ผลการแข่งขันจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 0-4 แต่สิ่งที่เปลี่ยนแนวคิดทั้งทีมคือ “เราสามารถพาบอลบุกเข้าไปยิงญี่ปุ่นได้ถึง 4 ครั้ง”
สำหรับฟุตบอลหญิงไทยในเวลานั้น การได้โอกาสโจมตีญี่ปุ่นในเกมระดับทวีปถือเป็นเรื่องแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมันกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความเชื่อว่า “นักเตะไทยสู้ได้” ถ้าวางระบบดีพอ
23 แข้งลุยเอเชียนคัพ 2010 – แกนสำคัญก่อนสู่ยุคทอง
รายชื่อ 23 ผู้เล่นที่โค้ชจุ่นใช้งานในเอเชียนคัพ 2010 มีทั้งรุ่นพี่ตัวหลักและดาวรุ่งที่ต่อมากลายเป็นเสาหลักของทีมชาติไทย ได้แก่
- วราภรณ์ บุญสิงห์
- ดารัตน์ ช่างปลูก
- ทวีพร ผลสุวรรณ
- ดวงนภา ศรีตะลา
- ขวัญฤทัย คุณูปถัมถ์
- พิกุล เขื่อนเพ็ชร
- วจี เกิดสมบูรณ์
- จันทร์เพ็ญ สีเสริม
- วารุณี เพชรวิเศษ
- สุนิสา สร้างไธสง
- กาญจนา สังข์เงิน
- ชิดตะวัน ชาวงษ์
- พิสมัย สอนไสย์
- สุกัญญา เพ็งเต็ม
- วรัญญา ไชยขันตรี
- อนุศรา หมายเจริญ
- พรรนิภา กมลรัตน์
- ตรีรัชฎา บุญปลอด
- วิลัยพร บุตรด้วง
- ธิดารัตน์ วิวาสุขุ
- สุกัญญา ช.เจริญยิ่ง
- นิสา ร่มเย็น
- พุ่มพวง เงินดี
ทีมชุดนี้คือพื้นฐานสำคัญที่ต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในซีเกมส์ 2013 และหลายคนยังคงมีบทบาทต่อเนื่องในทีมชาติหญิงไทยอีกหลายปี
แพ้ญี่ปุ่นวันนี้ เพื่อสร้างทีมที่ไม่กลัวใครในวันหน้า
ญี่ปุ่นชุดที่ไทยแพ้ 0-4 ในเอเชียนคัพ 2010 จบด้วยอันดับ 3 ของทวีป ก่อนจะก้าวไปคว้าแชมป์ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2011 ที่เยอรมนีในปีถัดมา นั่นหมายความว่า ชบาแก้วชุดนั้นกำลังต่อกรอยู่กับ “ทีมอันดับท็อปของโลก” แบบเต็มๆ
แม้ผลสกอร์จะไม่เป็นใจ แต่โค้ชจุ่นมองว่าเกมนั้นคือจุดเปลี่ยนของทัศนคติทั้งทีม จากเดิมที่ฟุตบอลหญิงไทยมักจะเล่นแบบตั้งรับลึก แทบไม่เคยพาบอลไปถึงแดนคู่แข่งเมื่อเจอทีมระดับมหาอำนาจ แต่หลังจากนั้นนักเตะไทยเริ่มเชื่อว่า “เราทำได้” ถ้ากล้าจะเล่น กล้าที่จะบุก
นี่คือจุดประกายที่ค่อยๆ หลอมรวมเป็นความเชื่อมั่น ก่อนจะกลายเป็นพลังสำคัญในเวทีซีเกมส์ 2013
จากความผิดหวังที่ลาว สู่การล้างแค้นในเมียนมา
ย้อนกลับไปก่อนซีเกมส์ 2013 ทัพชบาแก้วเคยเจ็บช้ำมาแล้วในซีเกมส์ 2009 ที่ สปป.ลาว เป็นเจ้าภาพ ทีมชาติไทยหญิงต้องร่วงไปหยิบแค่เหรียญเงิน หลังแพ้เวียดนามในการดวลจุดโทษ 0-3 ทั้งที่มีโอกาสลุ้นแชมป์
จากนั้นในซีเกมส์ 2011 ที่อินโดนีเซีย ไม่มีการแข่งขันฟุตบอลหญิง ทำให้โอกาสแก้ตัวถูกเลื่อนออกไป จนกระทั่ง ซีเกมส์ 2013 ที่เมียนมา กลายเป็นเวทีที่สาวไทยตั้งใจอย่างแรงกล้าว่า “ครั้งนี้ต้องเอาทองกลับบ้านให้ได้”
และนี่คือจุดที่โค้ชจุ่นถูกเรียกกลับมารับหน้าที่เดิมอีกครั้ง
โค้ชจุ่นกลับมาล่าเหรียญทอง – แผนสร้างทีมจากหัวใจ
ช่วงเดือนสิงหาคม 2013 ก่อนซีเกมส์ราว 4 เดือน โค้ชจุ่นได้รับการทาบทามให้กลับมาคุมทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยอีกครั้ง โดยในตอนนั้นเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับนักเตะ เพราะคุมทีมชุดเดิมมาแล้วจากศึกเอเชียนคัพ
เขามองว่า “หัวใจสำคัญ” ของการพาทีมคว้าเหรียญทอง ไม่ได้อยู่แค่แท็กติก แต่คือการทำให้ผู้เล่น “รวมใจเป็นหนึ่งเดียว” และรู้ว่า ทุกนัดที่ลงสนามไม่ใช่แค่เล่นเพื่อชื่อของตัวเอง แต่คือการเล่น เพื่อประเทศไทยและแฟนบอลไทยทั้งประเทศ
20 แข้งชุดประวัติศาสตร์ – รายชื่อชบาแก้วเหรียญทองซีเกมส์ 2013
รายชื่อ 20 ผู้เล่นชุดคว้าแชมป์เหรียญทองซีเกมส์ 2013 มีดังนี้
- วราภรณ์ บุญสิงห์
- ดารัตน์ ช่างปลูก
- ณัฐกานต์ ชินวงษ์
- ดวงนภา ศรีตะลา
- ขวัญฤทัย คุณูปถัมถ์
- พิกุล เขื่อนเพ็ชร
- จันทร์เพ็ญ สีเสริม
- วารุณี เพชรวิเศษ
- สุนิสา สร้างไธสง
- อินอร พันธ์ชา
- ขวัญฤดี แสงจันทร์
- อนุศรา หมายเจริญ
- ธนีกานต์ แดงดา
- วิลัยพร บุตรด้วง
- กาญจนา สังข์เงิน
- สุกัญญา ช.เจริญยิ่ง
- นิสา ร่มเย็น
- รัตติกาล ทองสมบัติ
- อลิสา รักษ์พินิจ
- สุภาภรณ์ แก้วแบน
หลายคนในลิสต์นี้กลายเป็น “ตำนานมีชีวิต” ของทีมชาติหญิงไทย เพราะไม่เพียงมีส่วนกับเหรียญทองซีเกมส์ แต่ยังมีบทบาทในทัวร์นาเมนต์ระดับเอเชียและระดับโลกในเวลาต่อมา
ซ้อมโหดสามมื้อ – เคล็ดลับสร้างร่างและใจเหล็กของชบาแก้ว
โค้ชจุ่นเล่าว่า ทีมชุดซีเกมส์ 2013 ซ้อมกัน “โหดมาก” ในมาตรฐานฟุตบอลหญิงฝั่งเอเชีย เพราะจัดเต็มถึงวันละ 3 มื้อ เช้า – กลางวัน – เย็น
ในทีมสตาฟฟ์ตอนนั้น ยังมี โค้ชมิ่ม – ธิดารัตน์ วิวาสุขุ อดีตนักเตะทีมชาติที่แขวนสตั๊ดแล้วผันตัวมาช่วยงานข้างสนาม ทำให้ทีมมีทั้งมุมมองจากโค้ช และประสบการณ์ตรงของคนที่เคยอยู่ในสนามจริง
หัวใจของการซ้อมคือ “ความเข้าใจร่วมกัน” โค้ชต้องเข้าใจนักเตะ นักเตะต้องพร้อมเปิดใจเรียนรู้ และยอมทบทวนรายละเอียดแท็กติกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทุกคนเล่นได้อย่างเป็นระบบเดียวกันทั้งทีม
ผลลัพธ์คือทีมที่ทั้งฟิต ทั้งแข็งแกร่ง และ “เชื่อในกันและกัน” อย่างสูงสุด จนนำไปสู่เหรียญทองประวัติศาสตร์เมื่อ 12 ปีก่อน
จากแชมป์ในอดีต สู่ความหวังซีเกมส์ 2025 ในบ้านตัวเอง
เวลาผ่านไป 12 ปี ฟุตบอลหญิงไทยกำลังก้าวสู่ความท้าทายครั้งใหม่ในเวที ซีเกมส์ 2025 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และนี่คือโอกาสทองที่จะ “ทวงเหรียญทองกลับมาบ้าน”
จากมุมมองของโค้ชจุ่นในฐานะอดีตกุนซือชุดแชมป์ เขาเชื่อมั่นว่า ทีมชุดปัจจุบันที่นำโดย ดร.หนึ่งฤทัย สระทองเวียน เตรียมทีมมาอย่างต่อเนื่อง มีทั้งความสดของน้องๆ รุ่นใหม่ ผสมกับประสบการณ์ของรุ่นพี่ที่อยู่ในระบบทีมชาติมานาน
เขาย้ำชัดว่า เหรียญทองซีเกมส์ไม่ใช่แค่ถ้วยรางวัล แต่คือ “ความภาคภูมิใจของแฟนบอลไทยทั้งประเทศ” และเมื่อเรามีโอกาสได้เล่นในบ้านตัวเอง แนวคิดเดียวที่ควรมีคือ
“เล่นบ้านเรา ไม่เอาได้ไง”
ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องช่วยกันส่งแรงใจให้ทัพชบาแก้ว สานต่อเส้นทางจากแชมป์ปี 2013 สู่การลุ้นเหรียญทองอีกครั้งในปี 2025
เกล็ดความรู้บอลหญิงไทย & ซีเกมส์ ที่แฟนบอลควรรู้
- ฟุตบอลหญิงไทยเคยพลาดแชมป์ซีเกมส์ 2009 ที่ลาว ด้วยการแพ้เวียดนามในการดวลจุดโทษ ทั้งที่เล่นได้ดีตลอดทัวร์นาเมนต์
- ซีเกมส์ 2011 ที่อินโดนีเซีย ไม่มีการแข่งขันฟุตบอลหญิง ทำให้ทัพชบาแก้วต้องรอถึงปี 2013 กว่าจะได้โอกาสล่าเหรียญทองอีกครั้ง
- หลายแข้งชุดเหรียญทอง 2013 เช่น กาญจนา สังข์เงิน, สุนิสา สร้างไธสง, ธนีกานต์ แดงดา และรัตติกาล ทองสมบัติ กลายเป็นคีย์แมนของทีมชาติในยุคต่อๆ มา
- ญี่ปุ่นชุดที่ชบาแก้วแพ้ 0-4 ในเอเชียนคัพ 2010 คือทีมเดียวกับที่คว้าแชมป์โลก 2011 แสดงให้เห็นว่าบอลหญิงไทยต่อกรกับระดับโลกได้ในบางช่วงของเกม
- การซ้อมวันละ 3 มื้อในทีมชุดซีเกมส์ 2013 ถูกพูดถึงในแคมป์ว่าเป็น “ค่ายโหด” แต่ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมแข็งแกร่งทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ
โปรแกรมชบาแก้วล่าเหรียญทองซีเกมส์ 2025
🗓 วันที่ 4 ธันวาคม 2568
🇮🇩 อินโดนีเซีย พบ ทีมชาติไทย 🇹🇭
⏰ เวลา 18.30 น.
🏟️ ชลบุรี สเตเดียม
🗓 วันที่ 10 ธันวาคม 2568
🇹🇭 ทีมชาติไทย พบ สิงคโปร์ 🇸🇬
⏰ เวลา 18.30 น.
🏟️ ชลบุรี สเตเดียม
โดยการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะฟาดแข้งกันที่ ชลบุรี สเตเดียม ในวันที่ 14 และ 17 ธันวาคม 2568 ตามลำดับ แฟนบอลไทยต้องช่วยกันลุ้นว่า จะได้เห็นประวัติศาสตร์เหรียญทองซีเกมส์ของชบาแก้วเกิดขึ้นอีกครั้งหรือไม่
ขอบคุณรูปภาพจาก Thai Women’s Football
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล…อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM
