บรรยากาศเกมเดือดที่บุรีรัมย์ สเตเดียม

ศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก อีลิท 2025/26 รอบลีกสเตจ โซนตะวันออก เดินทางมาถึงนัดที่ 6 และที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ระอุไปด้วยดราม่า เมื่อ “ปราสาทสายฟ้า” เปิดรัง บุรีรัมย์ สเตเดียม เสมอกับ กังวอน เอฟซี จากเกาหลีใต้ไปแบบสุดมัน 2-2 ในเกมที่ทั้งสองทีมใส่กันเต็มอัตราศึกตั้งแต่นาทีแรกจนจบเกม

ผลเสมอในบ้านนัดนี้ทำให้สถานการณ์บนตารางคะแนนของตัวแทนจากไทยยังคงมีลุ้นในกลุ่มท็อปโซน โดยบุรีรัมย์ เก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนน จากการลงสนาม 6 นัด รั้งอันดับ 7 ของตารางลีกสเตจโซนตะวันออก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สะท้อนชัดว่าทีมของมาร์ค แจ็คสัน ไม่ใช่ทีมที่ใครจะมองข้ามได้ง่ายๆ บนเวทีเอเชีย

มาร์ค แจ็คสัน เปิดใจ – ภูมิใจลูกทีมสู้ตามแผนจนสุดทาง

หัวหน้าผู้ฝึกสอนอย่าง มาร์ค แจ็คสัน ออกมาเปิดใจหลังเกมด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยทั้งความภูมิใจและความเสียดายปะปนกันไป

“วันนี้ผมภูมิใจนักเตะทุกคนมากๆ ทุกคนเล่นได้ตามหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่แค่ 11 ตัวจริงในสนามเท่านั้น แต่รวมถึงนักเตะที่ไม่ได้ลงสนามด้วย เพราะตั้งแต่ช่วงวางแผน เราพูดถึง ‘ทั้งทีม’ เสมอ ทุกคนมีส่วนร่วมในผลงานนี้” กุนซือชาวอังกฤษกล่าวย้ำถึงสปิริตในห้องแต่งตัว

แจ็คสันมองว่า แม้ทีมจะถูกกังวอนยิงนำก่อน แต่บุรีรัมย์ยังคงยึดมั่นในแผนการเล่น ไม่เสียระบบ ไม่เสียสมาธิ และตอบโต้กลับได้อย่างมีวินัยจนกลับมาคุมเกมหลายช่วงของการแข่งขัน

“ผมคิดว่าวันนี้เราทำผลงานกันได้ดีมากๆ เราถูกนำก่อน แต่ทีมยังเล่นตามแผนที่เตรียมกันมา และจากภาพรวมทั้งเกม ผมมองว่าเราสมควรเป็นผู้ชนะด้วยซ้ำ” เขาย้ำอย่างชัดเจนถึงมาตรฐานฟอร์มการเล่นของลูกทีม

ดราม่าจุดโทษ – มุมมองกุนซือบุรีรัมย์ต่อจังหวะปัญหา

หนึ่งในประเด็นร้อนของเกมนี้ คือจังหวะ จุดโทษ ที่ทำให้แฟนบอลตั้งคำถามกันทั้งสนาม มาร์ค แจ็คสัน ไม่พลาดที่จะพูดถึงมุมมองของตัวเองในจังหวะดังกล่าว

เขายอมรับแบบตรงไปตรงมาว่า “ผิดหวัง” กับการตัดสินในช็อตนี้ พร้อมชูประเด็นเรื่องความปลอดภัยนักเตะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

“ส่วนในจังหวะจุดโทษ ผมผิดหวังกับจังหวะนี้ ความปลอดภัยของนักเตะถือเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่หลังจากที่ได้ดูวิดีโอ ผมคิดว่า บิสโซลี ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายคู่แข่งเลย จังหวะนั้นเป็นโมเมนตัมของการเล่นบอลแบบเต็มสปีด ลูกนี้ไม่สมควรเป็นจุดโทษด้วยซ้ำ” กุนซือบุรีรัมย์วิเคราะห์แบบตรงไปตรงมา

ประโยคนี้ไม่ใช่เพียงการปกป้องลูกทีม แต่ยังสื่อถึงมาตรฐานที่เขาคาดหวังจากการตัดสินในเกมระดับสโมสรเอเชีย ซึ่งทุกการเป่า มีผลต่อรูปเกม, แท็กติก และความรู้สึกของทั้งสองทีมอย่างเลี่ยงไม่ได้

ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา รับรางวัล MOM แต่ใจอยากได้มากกว่าแค่ 1 แต้ม

ในฝั่งนักเตะ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่ระเบิดฟอร์มเด่นจนคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำแมตช์ (Man of the Match) ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทีทั้งดีใจและเสียดาย

“ผมต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทุกคน เพราะทุกคนช่วยกันตั้งแต่ตอนฝึกซ้อมจนถึงวันนี้ เราทำผลงานออกมาได้ดีจริงๆ เหมือนอย่างที่โค้ชบอก เราควรเป็นฝ่ายชนะมากกว่า ถือว่าโชคไม่ดีที่เก็บได้แค่ 1 คะแนน” เจ้แบงค์กล่าวแบบไม่อ้อมค้อม

คำพูดของศุภณัฏฐ์สะท้อนภาพบรรยากาศในทีมได้ชัดเจน – นักเตะไม่ได้มองแค่ฟอร์มสวย แต่ทุกคนต้องการผลลัพธ์ที่เป็น “สามแต้ม” เท่านั้น โดยเฉพาะในเกมเหย้าบนเวทีใหญ่ที่เต็มไปด้วยความคาดหวังจากแฟนบอล

ขอบคุณทุกแรงเชียร์ – พลังจากสแตนด์ถึงหน้าจอ

แม้ผลการแข่งขันจะไม่เป็นไปตามที่หวัง แต่ศุภณัฏฐ์ยืนยันว่า “เสียงเชียร์” ยังเป็นเชื้อเพลิงสำคัญที่ทำให้ทีมสู้จนวินาทีสุดท้าย

“ขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจเราในวันนี้ ทั้งที่เข้ามาเชียร์ในสนาม หรือแม้แต่เชียร์กันอยู่ที่ทางบ้าน ขอบคุณมากๆ ครับ อยากให้แฟนบอลส่งกำลังใจให้พวกเราแบบนี้กันต่อไป” เขากล่าวทิ้งท้ายด้วยความรู้สึกจากใจนักเตะถึงแฟนบอลปราสาทสายฟ้า

ในมุมของสโมสร ยิ่งเกมใหญ่ในศึกเอเชียแบบนี้ ยิ่งตอกย้ำว่าบุรีรัมย์ไม่ได้ลงเล่นเพื่อเมืองใดเมืองหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นตัวแทนหน้าตาฟุตบอลไทยทั้งประเทศด้วย

โปรแกรมต่อไป – บุรีรัมย์เปิดช้างอารีนารอถล่มการท่าเรือ

หลังเสร็จศึกเอเชีย โปรแกรมในประเทศก็รออยู่แบบไม่ให้ได้พักหายใจยาว โดยคิวถัดไปของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือการเปิดรังทำศึกบิ๊กแมตช์กับ การท่าเรือ เอฟซี ในศึก บีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีกหนึ่ง นัดที่ 15

  • วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2568
  • เวลาแข่งขัน: 18.30 น.
  • สนาม: ช้าง อารีนา
  • ถ่ายทอดสด: AIS

เกมนี้ไม่ใช่แค่ศึกระหว่างสองทีมใหญ่ของไทยลีกเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่บุรีรัมย์จะกลับมาปลดล็อกเก็บสามแต้มในบ้านต่อหน้าแฟนบอลตัวเองหลังเสร็จภารกิจในเอเชีย และเป็นอีกเวทีให้ทุกคนจับตาฟอร์มของนักเตะที่กำลังมั่นใจอย่างศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ

เกล็ดความรู้จากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-2 กังวอน เอฟซี

  1. นี่คือเกมนัดที่ 6 ของรอบลีกสเตจ โซนตะวันออก ในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก อีลิท 2025/26 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยืนระยะแข่งขันกับทีมระดับท็อปของเอเชียอย่างต่อเนื่อง
  2. ผลเสมอ 2-2 ทำให้บุรีรัมย์ขยับไปที่ 8 คะแนน จาก 6 นัด รั้งอันดับ 7 ของตาราง ซึ่งยังเป็นกลุ่มครึ่งบนและมีลุ้นขยับได้อีกหากรักษามาตรฐานการเล่นแบบเกมนี้
  3. มาร์ค แจ็คสัน แสดงให้เห็นชัดว่าทีมของเขายึดระบบ “ทีมเวิร์ค” เป็นหลัก โดยให้เครดิตทั้งตัวจริง, ตัวสำรอง และนักเตะที่ยังไม่ได้ลงสนามในเกมนี้
  4. จังหวะจุดโทษที่เป็นประเด็น สะท้อนให้เห็นว่าฟุตบอลสมัยใหม่ไม่ได้มีแค่เรื่องแท็กติก แต่การตัดสินของผู้ตัดสินก็เป็นส่วนหนึ่งของสมการผลการแข่งขันที่ทุกทีมต้องรับมือ
  5. ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเกม แต่จากคำให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่า “หนึ่งคะแนน” ยังไม่ใช่สิ่งที่เจ้าตัวยอมรับได้ง่ายๆ เพราะมาตรฐานในหัวของนักเตะระดับทีมชาติไทยคือ “ต้องการชัยชนะเสมอ”

ขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก BURIRAM UNITED

แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งไทยลีก, เวทีเอเชีย และลีกใหญ่ยุโรป อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM

Categorized in:

ฟุตบอลไทย,