เปิดทางยุคใหม่ กระทิงเพลิงดันโค้ชบอยคุมทัพเลกสอง
สโมสร บางกอก เอฟซี เดินหมากสำคัญกลางฤดูกาล ประกาศแต่งตั้ง ศุภชัย คมศิลป์ หรือที่คอลูกหนังคุ้นชื่อกันดีในนาม โค้ชบอย เข้ามานั่งแท่น เฮดโค้ชคนใหม่ พร้อมลุยศึก ไทยลีก 2 ฤดูกาล 2025/26 ในช่วงเลกสองอย่างเป็นทางการ ภายใต้โจทย์ใหญ่ “พาทีมหนีโซนสุ่มเสี่ยงตกชั้น และดึงความมั่นใจของนักเตะกลับมาให้เร็วที่สุด”
การเปลี่ยนแม่ทัพครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่อโค้ช แต่คือการรีเซ็ตบรรยากาศทั้งทีม ห้องแต่งตัว และสภาพจิตใจของนักเตะ หลังเลกแรกจบลงด้วยผลงานที่ไม่เป็นไปตามเป้าและทำให้ บางกอก เอฟซี ต้องติดหล่มในพื้นที่อันตรายของตารางคะแนน
โปรไฟล์โค้ชบอย ดีกรีแน่นผ่านงานใหญ่ทั้ง T1 และ T2
เส้นทางลูกหนังสายโค้ชของศุภชัย คมศิลป์
โค้ชวัย 45 รายนี้ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการลูกหนังไทย เขาผ่านการทำงานในสโมสรระดับหัวตารางมาแล้วหลายทีม
- เคยเป็นผู้ช่วยโค้ช บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ชุดคว้าแชมป์ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2020/21
- ขยับขึ้นไปรับงานคุมทัพ ราชประชา เอฟซี ในศึกลีกรองฤดูกาล 2021/22 เก็บประสบการณ์การเป็นเฮดโค้ชเต็มตัว
- ตามมาด้วยบทบาทผู้ช่วยโค้ชที่ เชียงใหม่ เอฟซี ฤดูกาล 2022/23 ก่อนจะกลับไปช่วยงาน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อีกครั้งในฤดูกาลเดียวกัน
- จากนั้นรับงานใหญ่คุม จันทบุรี เอฟซี ลุย T2 ฤดูกาล 2024/25 ก่อนจะหวนกลับสู่ทัพ “เดอะ แรบบิท” ในฐานะรักษาการหัวหน้าผู้ฝึกสอนในฤดูกาล 2025/26
ดีกรีของโค้ชบอยจึงไม่ใช่แค่ “เคยผ่านไทยลีก” แต่คือคนที่เห็นทั้งมุมมองทีมลุ้นแชมป์และทีมที่ต้องสู้เพื่อเป้าหมายเล็กใหญ่ต่างกัน ซึ่งทั้งหมดถูกย่อส่วนมาเป็นประสบการณ์ตรงในการรับงาน บางกอก เอฟซี ครั้งนี้

ภารกิจกู้วิกฤต บางกอก เอฟซี หนีโซนตกชั้นในเลกสอง
ผลงานเลกแรก และโจทย์หินที่รออยู่
โค้ชบอยมองภาพรวมชัดเจนว่า เลกแรกของ บางกอก เอฟซี “ผลงานไม่ดี” และทีมกำลังยืนอยู่ในพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงตกชั้น นั่นหมายความว่า ทุกคะแนนในเลกสองคือเดิมพันสำคัญ ไม่ใช่แค่เรื่องอันดับ แต่คืออนาคตของสโมสรในระดับลีกรอง
เขายอมรับตรงๆ ว่าโจทย์แรกของการเข้ามารับงานครั้งนี้ คือ
- ต้องเรียกความมั่นใจของนักเตะกลับมาให้ได้
- เปลี่ยนบรรยากาศให้ทีมเชื่อว่าตัวเอง “ดีพอ” ที่จะเอาตัวรอด
- ใช้ผลการแข่งขันที่ดีเป็นตัวจุดประกายให้ฟอร์มการเล่นไหลลื่นขึ้นเรื่อยๆ
โค้ชบอยมองว่า ถ้าทีมเริ่มต้นเก็บผลการแข่งขันเชิงบวกได้ต่อเนื่อง ความมั่นใจจะค่อยๆ ทบขึ้นมาเอง และนั่นคือหัวใจของการหนีโซนแดงในเลกสองครั้งนี้
โค้ชบอยเปิดใจ: โอกาสใหม่ ท้าทายใหญ่ในเมืองกรุง
รู้สึกเป็นเกียรติ พร้อมลุยเต็มสูบ
หลังเซ็นสัญญารับตำแหน่ง เฮดโค้ชคนใหม่ของบางกอก เอฟซี โค้ชบอยเปิดใจอย่างชัดเจนว่า นี่คือทั้ง “โอกาสที่ดี” และ “ความท้าทายครั้งใหญ่” ในเส้นทางอาชีพของเขา
เขาระบุว่า ผู้บริหารสโมสรติดต่อเข้ามาอย่างจริงจัง ให้ความเชื่อมั่นและพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจไม่ยากในการตอบรับงานคุมทัพ “กระทิงเพลิง” และพร้อมใช้ประสบการณ์จากหลายสโมสรที่ผ่านมือมา ต่อยอดให้ทีมกลับมายืนได้อย่างแข็งแรงอีกครั้ง
ในมุมมองโค้ชบอย การทำทีมที่กำลังลุ้นหนีตกชั้นต้องละเอียดกว่าปกติ ทั้งเรื่อง
- การจัดการสภาพจิตใจนักเตะ
- การวางแท็กติกที่สมดุลระหว่างเกมรุก-เกมรับ
- การบริหารร่างกายให้พร้อมในทุกสัปดาห์
เขาย้ำว่า หากทุกอย่างเข้าที่ ผลงานในสนามจะเป็นตัวตอบแทนให้แฟนบอลเห็นเอง
พลังแฟนบอลกระทิงเพลิง ตัวแปรสำคัญในการพลิกสถานการณ์
ความหวังและคำฝากถึงกองเชียร์บางกอก เอฟซี
โค้ชบอยยกให้ “แฟนบอล” เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยผลักดันทีมอย่างมีนัยสำคัญ เขาชี้ชัดว่า เสียงเชียร์บนอัฒจันทร์สามารถยกระดับ เพอร์ฟอร์แมนซ์ ของนักเตะได้จริง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทีมกำลังกดดัน หรือเจอสถานการณ์ไม่เข้าทางในเกม
เขาฝากถึงแฟนบอล บางกอก เอฟซี ว่า
- อยากให้เข้ามาชมและเชียร์กันให้แน่นสนาม
- ทุกเสียงเชียร์คือแรงผลักดันให้ทีมต่อสู้จนจบ 90 นาที
- ตัวเขาและนักเตะทุกคนจะพยายาม “สร้างสรรค์ผลงานให้ดีที่สุด” เพื่อตอบแทนทุกกำลังใจในทุกๆ เกม
นี่คือคำสัญญาจากเฮดโค้ชคนใหม่ ที่รู้ดีว่าการจะพาทีมหลุดจากวิกฤตได้ ต้องเดินไปพร้อมกับแฟนบอล ไม่ใช่แค่สู้ในสนามกันลำพัง

เกล็ดความรู้: ทำไมการเปลี่ยนเฮดโค้ชกลางซีซั่นถึงสำคัญ?
- การเปลี่ยนโค้ชกลางฤดูกาลมักถูกใช้เป็น “ช็อกทรีตเมนต์” เพื่อเขย่าบรรยากาศและสร้างแรงกระตุ้นใหม่ทั้งทีม
- เฮดโค้ชคนใหม่มักนำทั้งแท็กติกและมาตรฐานวินัยแบบใหม่เข้ามา ทำให้นักเตะต้องรีเซ็ตตัวเองและพิสูจน์ฝีเท้าอีกครั้ง
- สำหรับทีมที่ลุ้นหนีตกชั้น การเปลี่ยนโค้ชสามารถเปลี่ยนโมเมนตัมได้จริง หากผลการแข่งขันแรกๆ ภายใต้กุนซือคนใหม่ออกมาในทางบวก
ขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก Bangkok FC
ใครที่อยากตามทุกก้าวของ บางกอก เอฟซี, ข่าวการเปลี่ยนแปลงของสโมสรในไทยลีก 2 และอัปเดตวงการลูกหนังทั้งในและนอกประเทศแบบจัดเต็ม อย่าลืมติดตามทุกความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM นะคะ