เดอะ แรบบิท ขยับก่อนใคร เสริมแบ็คขวาใหม่จากเจลีก
ขยับแรงตั้งแต่เปิดตลาด! ทัพ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เดอะ แรบบิท จัดการเปิดตัว ริคุ มัตสึดะ แบ็คขวาชาวญี่ปุ่นจาก วิสเซล โกเบ เข้ามาเสริมแกร่งแนวรับ เตรียมลุยศึก BYD SEALION 6 LEAGUE 1 ฤดูกาล 2025/26 ในช่วงเลกสองอย่างเป็นทางการ เรียกได้ว่าเป็นดีลที่สะท้อนชัดเจนว่าทีมไม่ได้มาเล่น ๆ แต่ตั้งใจไล่ล่าความสำเร็จต่อเนื่องในเส้นทางแชมป์
การดึงฟูลแบ็คสไตล์ญี่ปุ่นเข้ามาในจังหวะที่ลีกกำลังเข้มข้น ถือเป็นการขยับตัวเชิงยุทธศาสตร์ของบีจี ปทุม ทั้งในแง่แท็คติกและการแข่งขันกับทีมลุ้นพื้นที่หัวตาราง
โปรไฟล์ ริคุ มัตสึดะ แบ็คขวามดงานสไตล์ญี่ปุ่น
ริคุ มัตสึดะ ไม่ได้เป็นแค่ฟูลแบ็คธรรมดา แต่เป็นแนวรับที่ขึ้นชื่อเรื่องความขยัน การเล่นมีวินัย และสไตล์มดงานที่วิ่งขึ้นลงริมเส้นไม่มีหยุด เขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังอาชีพกับ เอฟซี โตเกียว ในปี 2014 ก่อนจะย้ายไปแจ้งเกิดจริงจังกับ เซเรโซ่ โอซาก้า ตั้งแต่ปี 2016 ที่ญี่ปุ่นเขาเป็นที่รู้จักในฐานะแบ็คที่เล่นบอลฉลาด อ่านเกมดี และมีประสบการณ์ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเจ้าตัวถูกส่งไปเก็บประสบการณ์กับ วองโฟเร่ โคฟุ ช่วงปี 2023 จากนั้นย้ายไปร่วมทัพ กัมบะ โอซาก้า ในปี 2024 ก่อนจะได้เซ็นสัญญากับ วิสเซล โกเบ ทีมแถวหน้าของ เจลีก เมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งหลักฐานว่าศักยภาพของมัตสึดะ ได้รับการยอมรับในระดับท็อปของวงการฟุตบอลญี่ปุ่นแล้ว ก่อนจะเลือกออกเดินทางบทใหม่ในไทยลีกกับบีจี ปทุม
เสียงจากเจ้าตัว: ดีลแรกนอกญี่ปุ่น ความท้าทายใหม่ในไทยลีก
ริคุ มัตสึดะ เปิดใจถึงการย้ายมาเล่นในประเทศไทยครั้งแรกว่า นี่เป็นก้าวสำคัญในชีวิตนักฟุตบอลของเขา
เขายอมรับว่ารู้สึก “ดีใจมาก ๆ” ที่ได้ย้ายมาร่วมทีมบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เพราะนี่คือครั้งแรกที่ออกมาค้าแข้งนอกประเทศญี่ปุ่น พร้อมย้ำว่าจะพยายามปรับตัวให้เร็วที่สุด ทั้งเรื่องสภาพแวดล้อม ฟุตบอลสไตล์ไทย และการเล่นร่วมกับเพื่อนใหม่ในทีม
เป้าหมายของเขาชัดเจน – คือการช่วยให้บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเลกสอง ทั้งในเชิงผลงานและมาตรฐานเกมรับริมเส้น เพื่อพาทีมไล่ล่าชัยชนะต่อเนื่องในช่วงโค้งสำคัญของฤดูกาล

ทำไม บีจี ปทุม ถึงเลือก ริคุ มัตสึดะ?
การเลือกเสริมตำแหน่งแบ็คขวาในช่วงเลกสองสะท้อนว่า บีจี ปทุม มองภาพรวมทีมอย่างละเอียด จุดเด่นของมัตสึดะคือ
- แท็คติกวินัยดี เล่นตามระบบได้เป๊ะ
- เติมเกมรุกได้ตลอด 90 นาที ไม่กลัวการเล่นเพรสซิ่ง
- เล่นเกมรับแบบไม่หลุดสมาธิ และอ่านจังหวะยืนตำแหน่งได้แข็งแรง
- ผ่านประสบการณ์กับสโมสรระดับสูงในญี่ปุ่นมาแล้วหลายทีม
ทั้งหมดนี้ทำให้เขาดูเป็นตัวเลือกระยะยาวมากกว่าการแก้ขัดชั่วคราว บวกกับการที่บีจี ปทุม มักมีดีลเชื่อมโยงกับแข้งจากลีกญี่ปุ่นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ภาพของทีมเริ่มชัดเจนว่า เดอะ แรบบิทต้องการผสมผสานวัฒนธรรมฟุตบอลแบบระเบียบวินัยของญี่ปุ่นเข้ากับสไตล์เกมบุกของไทยลีก
เส้นทางลูกหนัง: จากเอฟซี โตเกียว สู่เดอะ แรบบิท
หากไล่เรียงเส้นทางของริคุ มัตสึดะ จะเห็นชัดว่าเขาค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นมาอย่างมั่นคง
- ปี 2014: เริ่มอาชีพกับ เอฟซี โตเกียว
- ปี 2016: ย้ายร่วมทัพ เซเรโซ่ โอซาก้า สร้างชื่อในระดับลีกสูงสุดของญี่ปุ่น
- ปี 2023: ไปเก็บเลเวลแบบยืมตัวกับ วองโฟเร่ โคฟุ
- ปี 2024: ร่วมทีม กัมบะ โอซาก้า สโมสรใหญ่ที่มีฐานแฟนบอลเหนียวแน่น
- ปี 2025: เซ็นสัญญากับ วิสเซล โกเบ ทีมชั้นนำที่มีสตาร์ดังผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาเสริมทัพ
- ปลายปี 2025/26: เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในไทยลีก
จากเส้นทางนี้จะเห็นว่า มัตสึดะผ่านหลายระบบการเล่น หลายห้องแต่งตัว หลายรูปแบบแท็คติก สิ่งเหล่านี้คือทุนสำคัญที่จะช่วยให้เขาปรับตัวในไทยลีกได้เร็วขึ้น และกลายเป็นชิ้นส่วนสำคัญในเกมรับของเดอะ แรบบิท
บีจี ปทุม กับภาพรวมเกมรับในเลกสอง
สำหรับแฟนเดอะ แรบบิท การเข้ามาของริคุ ไม่ได้หมายถึงแค่ “มีแบ็คขวาเพิ่ม” แต่คือการเพิ่มตัวเลือกในระบบที่สามารถดันวิงแบ็ค เติมเกมรุกจากริมเส้น และเพิ่มคุณภาพการตั้งเกมจากแดนหลัง
ด้วยโปรแกรมในเลกสองที่ยังมีทั้งเกมหนักกับทีมลุ้นแชมป์ และแมตช์กดดันในบ้าน การมีแนวรับที่เชื่อใจได้ทั้งในจังหวะป้องกันและเติมเกมรุก จะช่วยให้โค้ชมีตัวเลือกยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดแท็คติกทั้งแบบบุกเต็มสูบและเพลย์เซฟตามสถานการณ์
สรุป: ดีลที่มากกว่าการเซ็นแบ็คขวา
ดีลของ ริคุ มัตสึดะ กับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด จึงไม่ใช่แค่การเซ็นสัญญาแบ็คขวาเพิ่มหนึ่งคน แต่คือการส่งสัญญาณชัดเจนว่า เดอะ แรบบิท จริงจังกับการยกระดับทีมในเลกสอง ทั้งในมุมแท็คติก ประสบการณ์ และมาตรฐานเกมรับ
หากเขาปรับตัวกับฟุตบอลไทยได้เร็ว พัฒนาความเข้าใจร่วมกับเพื่อนร่วมทีม และโชว์ฟอร์มได้ตามที่หลายคนคาดหวัง ริคุมีโอกาสกลายเป็นหนึ่งในคีย์แมนริมเส้น ที่ช่วยให้บีจี ปทุม เดินหน้าลุ้นเป้าหมายใหญ่ของฤดูกาลนี้ได้อย่างแข็งแรงยิ่งขึ้น
เกล็ดความรู้
- นักเตะญี่ปุ่นมักได้รับความสนใจจากทีมไทยลีก เพราะมีจุดเด่นด้านวินัย การซ้อมหนัก และเข้าใจแท็คติกเชิงลึก ทำให้ปรับตัวเข้ากับระบบทีมได้ง่าย
- แบ็คขวายุคใหม่ไม่ได้เป็นแค่ “กองหลังริมเส้น” แต่ต้องรับบทวิงแบ็ค คอยเติมเกมรุก เปิดบอล ทำทาง และบางครั้งต้องเข้ามาช่วยสร้างเกมจากแดนกลางด้วย
- ดีลยืมตัวหรือซื้อขาดจากสโมสรในญี่ปุ่น มักเป็นเวย์ที่คุ้มค่า เพราะนักเตะผ่านระบบเยาวชนมาตรฐานสูง ทำให้โค้ชในไทยสามารถนำไปต่อยอดได้ทันที
ขอบคุณรูปภาพจาก BG Pathum United
แฟนบอลที่ไม่อยากพลาดทุกดีลโหด ทุกข่าวเดือด และทุกจังหวะมันส์ของตลาดนักเตะ ทั้งไทยลีกและลีกชั้นนำทั่วโลก อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวแบบจัดเต็มได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM