สมาคมฯ เคลียร์จ่ายงวดสอง ไทยลีก 1-2 ก่อนจบเลกแรก
“สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ” นำโดย “มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ” เดินเกมสำคัญด้านบริหารจัดการทันเวลาก่อนปิดเลกแรก ฤดูกาล 2025/26 ด้วยการอนุมัติและโอน เงินสนับสนุนสโมสร งวดที่สองให้กับทีมสมาชิกใน ไทยลีก 1 และ ไทยลีก 2 เรียบร้อยแล้ว เงินก้อนนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาษ แต่คือ “ออกซิเจน” ของสโมสรทั้งในแง่ค่าใช้จ่ายทีมชุดใหญ่ การเดินทาง ทีมสตาฟฟ์ และงานหลังบ้านทั้งหมดที่ต้องวิ่งไปพร้อมผลงานในสนาม
การโอนให้ทันก่อนจบเลกแรก ยังช่วยให้หลายสโมสรวางแผนเสริมทัพ หรือจัดการค่าใช้จ่ายระยะสั้นได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะทีมที่กำลังลุ้นหนีตกชั้นหรือเบียดพื้นที่หัวตาราง ที่ต้องการความเสถียรทั้งในห้องแต่งตัวและบัญชีธนาคารพอ ๆ กัน
ไทยลีก 1 ได้เพิ่มเป็นสโมสรละ 15 ล้านบาท ฤดูกาลนี้
ฤดูกาล 2025/26 สโมสรใน ไทยลีก 1 ได้รับข่าวดีตั้งแต่เปิดซีซั่น เมื่อวงเงินสนับสนุนถูก “อัปเกรด” จากเดิมฤดูกาล 2024/25 ที่สโมสรละ 10,000,000 บาท เพิ่มขึ้นเป็น สโมสรละ 15,000,000 บาท เต็มฤดูกาล ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดว่า ลีกสูงสุดของไทยกำลังเดินหน้าในทิศทางที่อยากให้สโมสรมีฐานการเงินมั่นคงขึ้น
การเพิ่ม 5 ล้านบาทต่อสโมสรต่อฤดูกาล ไม่ได้ช่วยแค่ทีมใหญ่ แต่ทีมขนาดกลางและเล็กก็ได้หายใจคล่องขึ้น ทั้งเรื่องค่าเหนื่อย, ฟิตเนส, อะคาเดมี และการพัฒนาสนามซ้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่มักถูกมองข้ามเมื่อสโมสรต้องรัดเข็มขัด

งวดที่สองของไทยลีก 1: ทีมละ 3.75 ล้าน รวม 60 ล้าน
ในการจ่ายงวดที่สองครั้งนี้ สโมสรจาก ไทยลีก 1 ทั้ง 16 ทีม ได้เงินสนับสนุนเพิ่มทีมละ 3,750,000 บาท รวมทั้งลีกเป็นเงิน 60,000,000 บาท ตัวเลขนี้อาจดูเฉย ๆ บนกระดาษ แต่สำหรับฝ่ายบริหารสโมสร นี่คือเงินที่ช่วยปิดรูรั่วสำคัญ ทั้งค่าเดินทางเหย้า–เยือน, โบนัสนักเตะ, ค่าใช้จ่ายทีมงานเบื้องหลัง ไปจนถึงค่าใช้จ่ายด้านการตลาดของสโมสรเอง
เงินงวดที่สองที่โอนก่อนจบเลกแรก ยังช่วยให้บอร์ดแต่ละทีมสามารถวางแผนเรื่องเสริมทัพในตลาดรอบต่อไปได้ดีขึ้น ว่าจะกล้าเสริมแค่ไหน ต้องปล่อยใครออก หรือจะยอมขยับเพดานค่าเหนื่อยเพื่อเก็บคีย์แมนของทีมเอาไว้
ไทยลีก 2 รับเพิ่มสโมสรละ 4 ล้าน – งวดสองทีมละ 1 ล้าน
ไม่ใช่แค่ลีกสูงสุดที่ได้อัปเกรด ไทยลีก 2 ฤดูกาล 2025/26 ก็ได้รับการเพิ่มวงเงินเช่นกัน จากเดิมฤดูกาล 2024/25 ที่สโมสรละ 3,000,000 บาท ขยับมาเป็น สโมสรละ 4,000,000 บาท ในซีซั่นนี้
สำหรับงวดที่สองครั้งนี้ สโมสรจากไทยลีก 2 ทั้ง 18 ทีม ได้รับเงินสนับสนุนทีมละ 1,000,000 บาท รวมเป็น 18,000,000 บาท แม้ตัวเลขต่อทีมจะไม่สูงเท่าไทยลีก 1 แต่สำหรับระดับลีกรองที่ต้องทั้งลุ้นเลื่อนชั้นและแบกรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกปี เงินก้อนนี้ถือว่าสำคัญมากในการรักษาเสถียรภาพของทีม
ยอดรวมงวดสองทะลุ 78 ล้าน กระจายสู่ 34 สโมสร
เมื่อรวมตัวเลขเงินสนับสนุนของ ไทยลีก 1 และ ไทยลีก 2 ในงวดที่สอง จะได้ยอดรวมทั้งสิ้น 78,000,000 บาท แบ่งเป็น
- ไทยลีก 1: 16 ทีม × 3,750,000 บาท = 60,000,000 บาท
- ไทยลีก 2: 18 ทีม × 1,000,000 บาท = 18,000,000 บาท
นี่คือเงินที่ถูกกระจายลงสู่ 34 สโมสรทั่วประเทศ ซึ่งหมายถึงเม็ดเงินที่ไหลไปสู่เศรษฐกิจฟุตบอลไทยในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นนักเตะ, สตาฟฟ์โค้ช, เจ้าหน้าที่สโมสร, แม่ค้าในสนาม หรือแม้แต่ธุรกิจรอบ ๆ สโมสรในท้องถิ่น
ไทยลีก 3 ก็มีส่วน – อนุมัติงวดที่สองแล้ว 25%
ในฝั่งของ ไทยลีก 3 สโมสรสมาชิกก็ไม่ได้ถูกลืม แม้จะไม่ได้ระบุยอดรวมเป็นตัวเลขใหญ่เหมือนไทยลีก 1-2 แต่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยืนยันว่ามีการอนุมัติจ่ายเงินสนับสนุนงวดที่สองเช่นกัน ในอัตรา 25% ของวงเงินที่กำหนดให้สโมสร (เฉพาะทีมที่ “ไม่ติดข้อพิพาท”) เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568
การใส่เงื่อนไข “ไม่ติดข้อพิพาท” สะท้อนให้เห็นว่า สมาคมฯ ต้องการใช้กลไกเงินสนับสนุนเป็นหนึ่งในเครื่องมือกระตุ้นให้สโมสรมีระเบียบ ทั้งเรื่องสัญญานักเตะ, ภาษี, หรือข้อพิพาททางกฎหมายที่ค้างคาอยู่

เกล็ดความรู้: เงินสนับสนุนสโมสรกับอนาคตฟุตบอลไทย
- สร้างเสถียรภาพการเงินสโมสร – ลดความเสี่ยงจากการต้องพึ่งเจ้าของทีมเพียงคนเดียว ทำให้โครงสร้างการเงินกระจายตัวมากขึ้น
- ช่วยรักษาดาวรุ่งและแกนหลัก – สโมสรมีโอกาสต่อสัญญา หรือเพิ่มค่าเหนื่อยให้ตัวสำคัญ ไม่ต้องรีบขายออกทุกครั้งที่โดนยื่นข้อเสนอ
- พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก – เงินส่วนหนึ่งสามารถโยกไปลงทุนสนามซ้อม, ฟิตเนส, ทีมแพทย์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของฟุตบอลสมัยใหม่
- ยกระดับภาพรวมของลีก – เมื่อทุกทีมมีทรัพยากรใกล้เคียงขึ้น การแข่งขันในสนามจะสูสีมากขึ้น เกมดูสนุก แฟนบอลก็พร้อมสนับสนุนยาว ๆ
- ลดปัญหาค้างค่าแรง – เมื่อมีเงินสนับสนุนเข้าระบบตามกำหนด สโมสรที่บริหารอย่างมีวินัยมีโอกาสลดปัญหา “ค่าเหนื่อยค้าง” ที่เคยเป็นดราม่าประจำวงการ
สรุป: เม็ดเงิน 78 ล้านที่มากกว่าแค่ตัวเลขบนกระดาษ
การจ่ายเงินสนับสนุนงวดที่สองให้กับสโมสรในไทยลีก 1, ไทยลีก 2 และต่อเนื่องไปถึงไทยลีก 3 ไม่ใช่แค่ข่าวด้านตัวเลข แต่มันสะท้อนว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กำลังเดินเกมให้ “โครงสร้าง” ของลีกแข็งแรงพอ ๆ กับ “ผลงานในสนาม”
สโมสรที่บริหารดี ย่อมใช้เงินก้อนนี้เติมเต็มจุดอ่อนของทีม ทั้งในแง่ขุมกำลังและระบบจัดการเบื้องหลัง ส่วนแฟนบอลก็มีสิทธิ์หวังเห็นลีกไทยเดินหน้าแบบมืออาชีพมากขึ้น เกมมันส์ขึ้น แข้งไทยพัฒนาเร็วขึ้น และสโมสรมีพื้นฐานที่มั่นคงกว่าเดิม
ขอบคุณรูปภาพจาก Madam Pang – มาดามแป้ง – นวลพรรณ ล่ำซำ
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของวงการลูกหนังไทย ตั้งแต่ข่าวในสนามไปจนถึงเกมหลังฉากของสโมสร อย่าลืมติดตามข่าวอัปเดตมันส์ ๆ ได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM