ดีลหวนคืนถิ่น “กว่างโซ้งมหาภัย”
ตลาดเลกสองฤดูกาล 2025/26 ของ BYD SEALION 6 LEAGUE 1 เริ่มร้อนระอุทันที เมื่อ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ตัดสินใจปล่อยตัวหัวหอกร่างโย่งอย่าง จอร์แดน เอ็มมาวิเว ย้ายกลับไปร่วมทัพ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ดีลนี้ไม่ใช่แค่การเคลื่อนไหวธรรมดา แต่สะท้อนภาพการปรับจูนแนวรุกของทั้งสองสโมสรในช่วงโค้งสำคัญของซีซั่น
ฝั่ง “เดอะ แรบบิท” เลือกเปิดทางให้นักเตะที่มีศักยภาพสูง แต่อาจยังไม่ลงล็อกกับแผนในปัจจุบัน ขณะที่ “กว่างโซ้งมหาภัย” รีบฉวยโอกาสดึงดาวยิงที่คุ้นเคยกับระบบเดิมกลับมาช่วยเติมความดุดันในพื้นที่สุดท้าย ท่ามกลางความคาดหวังของแฟนบอลว่าจะได้เห็นเอ็มมาวิเวกลับมา “ปล่อยของ” แบบเต็มแม็กซ์อีกครั้ง
โปรไฟล์และเส้นทาง จอร์แดน เอ็มมาวิเว
จอร์แดน เอ็มมาวิเว หัวหอกร่างสูงวัย 24 ปี จัดเป็นแนวรุกสารพัดประโยชน์ที่ถูกใช้งานได้หลายตำแหน่งในพื้นที่สุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นกองหน้าตัวเป้า ตัวรุกริมเส้น หรือแม้แต่ยืนเป็นหน้าต่ำเชื่อมเกม
ฤดูกาล 2025/26 เขาย้ายจาก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มาร่วมทัพ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ด้วยความคาดหวังว่าจะเพิ่มมิติในเกมรุก ทั้งลูกกลางอากาศ การพักบอล และการเล่นประสานกับตัวรุกต่างชาติ แต่ด้วยการแข่งขันแย่งตำแหน่งที่สูง และการปรับตัวกับระบบใหม่ ทำให้เขาไม่ได้ระเบิดฟอร์มได้ตามศักยภาพที่หลายคนเชื่อว่าเขามี
อย่างไรก็ตาม การที่สโมสรยักษ์ใหญ่อย่างเชียงรายตัดสินใจดึงกลับไปอีกครั้ง สะท้อนชัดว่าเอ็มมาวิเวยังถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนสำคัญ” ที่จะต่อจิ๊กซอว์เกมรุกของทีมให้สมบูรณ์มากขึ้นในเลกสอง
ผลงานกับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2025/26
ในสีเสื้อ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2025/26 จอร์แดน เอ็มมาวิเว ลงสนามในทุกรายการรวม 13 นัด และทำได้ 1 ประตู ตัวเลขอาจไม่ได้หวือหวา แต่ต้องไม่ลืมว่า หลายนัดเขาถูกส่งลงในบทบาทที่ต้องทำงานเพื่อทีมมากกว่าการเป็นเพชฌฆาตจังหวะสุดท้าย
หน้าที่ของเอ็มมาวิเวในบางเกมคือ การถ่างแนวรับ การดึงตัวประกบ เพื่อเปิดพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีมอย่างแนวรุกต่างชาติและมิดฟิลด์ตัวทะลุช่องมีช่องว่างเล่นมากขึ้น รวมถึงช่วยไล่เพรสในแดนบน ซึ่งเป็นงานที่ไม่ค่อยได้ขึ้นหน้าข่าว แต่โค้ชและเพื่อนร่วมทีมมองเห็นชัดในสนาม
สุดท้าย แม้ผลงานด้านสถิติตัวเลขจะยังไม่เปรี้ยงอย่างที่หลายคนคาดหวัง แต่ประสบการณ์ที่ได้จากการเล่นให้ทีมลุ้นหัวตาราง และการเจอกับเกมใหญ่ต่อเนื่อง จะติดตัวเขาไปเต็ม ๆ ก่อนกลับไปพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งที่เชียงราย
ย้อนฟอร์มเก่ากับเชียงราย: 17 นัด 6 ประตู 1 แอสซิสต์
ก่อนหน้านี้ในฤดูกาล 2024/25 เลกสอง จอร์แดน เอ็มมาวิเว เคยสวมเสื้อ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มาแล้วครั้งหนึ่ง และถือเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เขาแจ้งเกิดเต็มตัวในสายตาแฟนบอลไทยลีก
สถิติระบุชัด เขาลงเล่นให้เชียงรายการ 17 นัด ซัดไป 6 ประตู พร้อมทำอีก 1 แอสซิสต์ ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าเขาไม่ใช่แค่ตัวสูงโย่งคอยโหม่งอย่างเดียว แต่ยังมีส่วนร่วมกับเกมบุก ทั้งการวิ่งทำทาง การพักบอลเชื่อมกับมิดฟิลด์ และการปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งในกรอบเขตโทษ
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่พอมีโอกาส สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด จะรีบปิดดีลดึงเขากลับมาร่วมงานอีกรอบในเลกสองของซีซั่น 2025/26
แท็กติกที่คาดว่าจะใช้: ทำไมเชียงรายถึงต้องการเอ็มมาวิเวกลับมา
การกลับมาของเอ็มมาวิเว น่าจะช่วยเติมเต็มในหลายด้านให้กับแนวรุกเชียงราย
- เพิ่มอาวุธในลูกกลางอากาศ ทั้งจังหวะครอสจากด้านข้างและลูกตั้งเตะ
- ช่วยพักบอล และเชื่อมเกมสำหรับการเล่นโต้กลับเร็วหรือการบุกแบบไดเร็กต์สไตล์
- เป็นตัวเลือกในกรอบเขตโทษเวลาทีมต้องการ “ห้อยหอกรอบอล” ในช่วงท้ายเกม
- ยืนได้ทั้งกองหน้าตัวเป้าและตัวรุกด้านข้าง ทำให้โค้ชปรับเปลี่ยนแผนได้หลากหลายมากขึ้น
ในสถานการณ์ที่เลกสองมักเป็นช่วง “ตัดสินชะตาฤดูกาล” การมีหัวหอกที่รู้จักทีมและเพื่อนร่วมทีมอยู่แล้ว ย่อมประหยัดเวลาในการปรับตัว และพร้อมใช้งานได้ไวกว่าเริ่มจากศูนย์กับนักเตะต่างชาติรายใหม่
มุมมองต่อบีจี ปทุม: ปรับสมดุลทีมมากกว่าปล่อยของทิ้ง
ฝั่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เอง การปล่อยเอ็มมาวิเวออกจากทีมในเลกสอง ไม่ได้หมายความว่าพวกเขามองว่านักเตะรายนี้ไม่ดีพอ แต่สะท้อนว่าทีมกำลัง “รีบาลานซ์” ขุมกำลังให้เหมาะกับรูปแบบการเล่น ณ เวลานี้
การลดตัวเลือกในบางตำแหน่ง อาจเปิดพื้นที่ให้กับแข้งต่างชาติหรือไทยรายอื่น ๆ ที่กำลังฟอร์มดี หรือกำลังจะถูกดึงเข้ามาเสริมทัพในตลาดรอบนี้ เพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายใหญ่ทั้งในลีกและบอลถ้วย ที่แต่ละแต้มและแต่ละเกมเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ
สรุป: ดีลที่ทุกฝ่ายมีอะไรให้พิสูจน์
ดีลนี้จึงไม่ใช่แค่การ “ย้ายทีมธรรมดา” แต่คือจุดเริ่มต้นของบทใหม่ทั้งสำหรับนักเตะและสองสโมสร
- สำหรับ จอร์แดน เอ็มมาวิเว นี่คือโอกาสพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้มีดีแค่ช่วงฟอร์มฮอตปีที่แล้ว แต่สามารถยืนระยะเป็นตัวหลักในไทยลีกได้
- สำหรับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด คือการย้ำชัดว่าพวกเขาต้องการกลับมาเป็นทีมลุ้นพื้นที่บนตาราง และต้องการตัวจบสกอร์ที่รู้ทางบอลไทย
- สำหรับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นี่คือการขยับหมากสำคัญในตลาดนักเตะ เพื่อจัดทีมให้ลงตัวที่สุดในช่วงเลกสองที่เดิมพันสูงกว่าครึ่งแรกของฤดูกาล
แฟนบอลไทยลีกจับตาดูให้ดี เลกสองนี้ชื่อของเอ็มมาวิเวมีโอกาสถูกพูดถึงอีกครั้ง ไม่ว่าจะในฐานะ “ของเก่าคุณภาพ” ของเชียงราย หรือในฐานะคนที่พิสูจน์ให้เห็นว่า การกลับบ้านครั้งนี้ ไม่ได้กลับมาเพื่อเป็นเพียงตัวเลือก แต่กลับมาเพื่อเป็น “ตัวหลัก” จริง ๆ
เกล็ดความรู้
- ดีลย้ายทีมในเลกสองของไทยลีก มักมีผลอย่างมากต่อฟอร์มปลายฤดูกาล เพราะเป็นการแก้จุดอ่อนแบบเฉพาะจุดของแต่ละสโมสร
- นักเตะต่างชาติที่เคยเล่นในไทยมาก่อน มักปรับตัวได้เร็วกว่านักเตะต่างชาติที่ย้ายมาใหม่ เนื่องจากคุ้นเคยกับสภาพอากาศ แนวการเล่น และสไตล์ของคู่แข่งในลีก
- การย้ายกลับทีมเก่า (รีเทิร์น) มักช่วยลดระยะเวลา “ปรับตัวในห้องแต่งตัว” เพราะทั้งโค้ช สตาฟฟ์ และเพื่อนร่วมทีมรู้จักคาแรกเตอร์ของนักเตะอยู่แล้ว
ขอบคุณรูปภาพจาก BG Pathum United
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะตลาดซื้อขาย ข่าวโยกย้าย และความเคลื่อนไหวเดือด ๆ ของไทยลีก อย่าลืมติดตามทุกประเด็นมันส์ ๆ ได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM
