ปราสาทสายฟ้าขยับแล้ว! ดันเด็กอคาเดมีขึ้นทีมชุดใหญ่รับเลกสอง
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ไทยลีก 10 สมัย เดินหน้าสร้างอนาคตแบบไม่ต้องพึ่งใคร ด้วยการเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกให้กับ 2 ดาวรุ่งพี่น้องฝาแฝดจากทีมอคาเดมี เข้าสู่ทีมชุดใหญ่ในเลกสอง ฤดูกาล 2025/26 เป็นการประกาศชัดว่า “ปราสาทสายฟ้า” ไม่ได้เก่งแค่ซื้อแข้งดัง แต่ยังจริงจังกับการผลิตนักเตะของตัวเองขึ้นมาเป็นกำลังหลักในอนาคต
การให้สัญญาอาชีพกับนักเตะวัยเพียง 16 ปี ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะนี่คือการรับรองคุณภาพ การมองเห็นศักยภาพ และการวางเส้นทางพัฒนาที่เป็นระบบ ตั้งแต่ระดับเยาวชนไปจนถึงฟุตบอลอาชีพเต็มตัว
ดาวรุ่งฝาแฝดเจยาคม: เซ็นฉบับแรกในวัย 16 ปี เติมความหวังแนวรุก
สองพี่น้องฝาแฝดที่บุรีรัมย์เลือกดันขึ้นมา คือ “เคน” ภานุวิชญ์ เจยาคม และ “คุณ” ภานุพงศ์ เจยาคม ซึ่งทั้งคู่เป็นกองหน้าวัย 16 ปีเหมือนกัน และถูกจับตามองในฐานะกลุ่มนักเตะรุ่นใหม่ที่มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นอนาคตของสโมสร
การมี “ฝาแฝด” ในตำแหน่งเดียวกันอย่างกองหน้า ยังเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากในแง่แท็กติก เพราะมักมีความเข้าใจเกมร่วมกันสูง เคมีดี และเรียนรู้กันเร็ว ซึ่งถ้าพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง ก็อาจกลายเป็นอาวุธเฉพาะตัวของทีมได้ในระยะยาว

“เคน” ภานุวิชญ์ เจยาคม: ดีกรี MVP โครงการ Bundesliga Dream ได้บินไปซ้อมกับเอาก์สบวร์ก
คนแรกคือ “เคน” ภานุวิชญ์ เจยาคม กองหน้าวัย 16 ปี ที่มีผลงานเด่นชัดจากการคว้ารางวัล MVP ในโครงการ “BDMS Presents Bundesliga Dream เตะ ล่า ฝัน 2024” ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักเตะเยาวชนไทยได้สัมผัสมาตรฐานฟุตบอลระดับยุโรป
และไม่ใช่แค่รับรางวัลแล้วจบ เพราะภานุวิชญ์ยังได้โอกาสเดินทางไปฝึกซ้อมกับสโมสร เอาก์สบวร์ก (FC Augsburg) ในประเทศเยอรมนี นี่คือประสบการณ์ที่สำคัญมากสำหรับนักเตะเยาวชน เพราะการได้ฝึกในสภาพแวดล้อมฟุตบอลเยอรมันจะช่วยยกระดับทั้งเรื่องความเข้มข้น การเคลื่อนที่ การตัดสินใจ และวินัยในการซ้อมแบบมืออาชีพ
“คุณ” ภานุพงศ์ เจยาคม: ทำสถิติฝาแฝดอายุน้อยที่สุดในลีกเยาวชน U21
รายที่สองคือ “คุณ” ภานุพงศ์ เจยาคม กองหน้าวัย 16 ปี ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับภานุวิชญ์ ด้วยการเป็น “คู่ฝาแฝดที่อายุน้อยที่สุด” ที่ได้ลงสนามในศึก PEA U21 Youngster League โดยมีอายุเพียง 16 ปี 4 เดือน 5 วัน
สถิตินี้สะท้อนอย่างหนึ่งชัดเจน—ทั้งสองคนไม่ได้แค่มีพรสวรรค์ แต่มีความพร้อมในระดับที่สโมสรกล้าโยนลงไปเผชิญเกมจริงตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะการลงเล่นในลีก U21 ต้องเจอคู่แข่งที่อายุมากกว่า แข็งกว่า และมีประสบการณ์มากกว่า ซึ่งถ้าเด็ก 16 อยู่ได้ แปลว่ามีของจริงและมีศักยภาพในการพัฒนาต่อ
เคยติดทีมชาติไทย U17: การันตีคุณภาพระดับแคมป์ชาติ
อีกหนึ่งรายละเอียดที่สำคัญคือ ทั้ง ภานุวิชญ์ และ ภานุพงศ์ เคยถูกเรียกเข้าแคมป์เก็บตัวกับ ทีมชาติไทย U17 มาแล้ว นี่คือสัญญาณยืนยันว่าไม่ได้ถูกมองเห็นแค่ในระดับสโมสร แต่ยังอยู่ในเรดาร์ของระบบทีมชาติด้วย
การได้เข้าแคมป์ทีมชาติในช่วงวัยนี้ช่วยให้นักเตะได้เรียนรู้มาตรฐานที่สูงขึ้น ทั้งเรื่องวินัย โภชนาการ การซ้อมที่มีเป้าหมาย และการเล่นภายใต้ระบบแท็กติกที่ชัดเจน ซึ่งทั้งหมดส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตสู่ฟุตบอลอาชีพ

สรุป
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก 10 สมัย เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกให้กับ 2 กองหน้าดาวรุ่งพี่น้องฝาแฝดจากทีมอคาเดมี ได้แก่ “เคน” ภานุวิชญ์ เจยาคม เจ้าของรางวัล MVP จากโครงการ Bundesliga Dream และเคยไปฝึกกับ FC Augsburg ที่เยอรมนี รวมถึง “คุณ” ภานุพงศ์ เจยาคม ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์เป็นคู่ฝาแฝดอายุน้อยที่สุดได้ลงเล่นใน PEA U21 Youngster League ด้วยวัย 16 ปี 4 เดือน 5 วัน ทั้งสองยังเคยติดแคมป์ทีมชาติไทย U17 มาแล้ว การดันเด็กขึ้นทีมชุดใหญ่ในเลกสองฤดูกาล 2025/26 ครั้งนี้ คือการตอกย้ำว่าปราสาทสายฟ้ากำลังสร้างอนาคตด้วยมือของตัวเองอย่างจริงจัง
เกล็ดความรู้
- สัญญาอาชีพฉบับแรกคือ “จุดเปลี่ยน” ของนักเตะเยาวชน เพราะเป็นการเข้าสู่ระบบการฝึกและความรับผิดชอบแบบมืออาชีพเต็มรูปแบบ
- การได้ไปฝึกซ้อมที่ยุโรปช่วยให้นักเตะเรียนรู้เรื่องความเร็วของเกม การตัดสินใจ และวินัย ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนา
- การลงเล่นลีก U21 ตั้งแต่อายุ 16 ปี ต้องเจอคู่แข่งที่โตและแข็งกว่า จึงเป็นตัวชี้วัดความพร้อมและศักยภาพได้ดี
- การติดแคมป์ทีมชาติ U17 ทำให้นักเตะได้ซึมซับมาตรฐานสูงขึ้น ทั้งเรื่องแท็กติก การดูแลร่างกาย และการเล่นเป็นทีม
ขอบคุณรูปภาพจาก Buriram United Academy
แฟนบอลที่อยากตามทุกความเคลื่อนไหวของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดาวรุ่งไทย และข่าวฟุตบอลเข้มๆ แบบถึงเครื่อง อย่าลืมติดตามความมันส์ทั้งหมดได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM ด้วยค่ะ