การลุ้นจ่าฝูงของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้ไม่ได้สะดุดเพราะคู่แข่งเท่านั้น แต่สะดุดเพราะ “ตัวเอง” แบบเต็มๆ หลังสถิติชี้ชัดว่าพวกเขาคือทีมที่ทำแต้มหล่นจากสถานการณ์ที่เคยนำคู่แข่งมากที่สุดในซีซั่นนี้ถึง 11 คะแนน หากเก็บได้ครบ วันนี้สาลิกาดงอาจนั่งหัวโต๊ะบนตาราง พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว

นิวคาสเซิ่ล ทีมที่นำได้…แต่ปิดเกมไม่ลง

ตัวเลข 11 แต้มที่หล่นหาย ไม่ได้เกิดจากการเล่นแย่ตลอดทั้งเกม แต่เกิดในแมตช์ที่ “เคยนำอยู่แล้ว” ก่อนจะปล่อยให้คู่แข่งฮึดกลับมาแบ่งแต้ม หรือแซงชนะ ซึ่งสะท้อนปัญหาเรื่องการ “ปิดเกม” อย่างชัดเจน

ในฤดูกาลนี้ นิวคาสเซิ่ลเคยมีช่วงเวลาคุมเกมได้เหนือกว่า สกอร์นำหน้า แต่ไม่สามารถรักษาความได้เปรียบจนจบ 90 นาที กลายเป็นทีมที่แฟนบอลต้องลุ้นไม่ใช่แค่ว่าจะยิงได้ไหม แต่ต้องลุ้นต่อว่า “จะรักษาสกอร์ได้หรือเปล่า”

นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องของโชค แต่มันคือสัญญาณว่าโครงสร้างเกมรับ การจัดการจังหวะท้ายเกม และสมาธิในช่วงเวลาสำคัญยังมีรูโหว่

เกมเดือดกับสเปอร์ส ตัวอย่างสดๆ ของแต้มที่หล่น

เกมล่าสุดที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค คือภาพสะท้อนปัญหานี้ได้อย่างคมชัด นิวคาสเซิ่ลออกนำ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ถึงสองครั้ง แต่กลับเอาชัยชนะไว้ไม่ได้

  • เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 สร้างโมเมนตัมและเสียงเชียร์กระหึ่ม
  • จากนั้นแม้จะโดนกดดัน สาลิกาดงยังตอบโต้และยิงนำ 2-1 ได้อีกครั้ง
  • ทว่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+5 กลับมาโดนลูกจักรยานอากาศสุดสวยของ คริสเตียน โรเมโร่ ตีเสมอ 2-2 ตัดแต้มสำคัญทิ้งไปต่อหน้ากองเชียร์ตัวเอง

จบเกมด้วยผลเสมอ ทั้งที่รูปเกมและจังหวะสำคัญทำให้แฟนเจ้าบ้านมีสิทธิ์หวังถึงสามแต้มมากกว่าแต้มเดียวอย่างน่าเสียดาย

11 แต้มที่หายไป = จ่าฝูงที่ไม่เคยได้สัมผัส

ตัวเลขสำคัญที่ถูกพูดถึงคือ “11 คะแนน” – แต้มที่นิวคาสเซิ่ลทำหล่นจากเกมที่เคยนำอยู่ก่อนแล้ว และในจำนวนนี้รวมถึงเกมแพ้ อาร์เซน่อล 1-2 ด้วย

ลองคิดเล่นๆ แบบตรงไปตรงมา

  • หากนิวคาสเซิ่ล “รักษาสกอร์ได้ทุกแมตช์ที่เคยนำ” พวกเขาจะมีเพิ่มอีก 11 แต้ม รวมเป็น 30 คะแนน
  • 30 แต้ม คือระดับคะแนนที่ปัจจุบันทีมอย่าง อาร์เซน่อล ใช้ยึดตำแหน่งหัวตารางอยู่ และหากสาลิกาดงไม่ทำแต้มหล่น ทีมปืนใหญ่อาจมีแต้มลดลงจากเกมที่ผลลัพธ์เปลี่ยนไป

พูดง่ายๆ คือ ถ้าไม่ทิ้งแต้มจากสถานการณ์ที่ควรปิดจ๊อบได้ นิวคาสเซิ่ลมีโอกาสเป็น “จ่าฝูง” ของพรีเมียร์ลีกแบบเต็มภาคภูมิไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับต้องยอมรับความจริงว่า พวกเขายังยืนอยู่ในกลุ่มลุ้นพื้นที่ยุโรป มากกว่าจะได้พูดถึงคำว่าแชมป์อย่างจริงจัง

สถานการณ์ปัจจุบันบนตาราง และแรงกดดันในถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค

จากผลงานล่าสุด ทำให้ตอนนี้นิวคาสเซิ่ลเก็บได้ 19 คะแนน จากการลงสนาม 14 นัด สถิติดูเหมือนอยู่ในโซนกลางค่อนไปทางบน แต่เมื่อมองในมุมของทีมที่มีศักยภาพลุ้นหัวตาราง บวกกับฟอร์มการเล่นที่กดคู่แข่งได้ แต่ “เก็บงานไม่จบ” ตัวเลขนี้จึงยิ่งเน้นให้เห็นว่าพวกเขาทิ้งโอกาสทองไปมากแค่ไหน

บรรยากาศในสโมสรจึงเริ่มผสมระหว่างความเสียดายกับความกดดัน เพราะทุกคนรู้ว่าทีมชุดนี้ “ดีพอจะไปได้ไกลกว่าอันดับและแต้มปัจจุบัน”

เอ็ดดี้ ฮาว ยอมรับตรงๆ ต้องรีบแก้นิสัยปล่อยเกมหลุดมือ

เอ็ดดี้ ฮาว ผู้จัดการทีมของนิวคาสเซิ่ลไม่ได้ปฏิเสธปัญหา เขายอมรับตรงๆ ว่าทีมต้องกลับมาโฟกัสเรื่องการรักษาสกอร์และการบริหารเกมให้ดีกว่าเดิม

กุนซือสาลิกาดงชี้ว่า บางครั้งฟุตบอลก็มีวัฏจักร – ช่วงหนึ่งเคยเป็นทีมที่ “ปิดเกมเยี่ยม” โดยเฉพาะเกมเยือนที่เคยเอาตัวรอดจากสถานการณ์กดดันได้ดี แต่ช่วงหลังกลับกลายเป็น “ทีมที่นำแล้วแฟนกลัวโดนตีเสมอ”

สิ่งที่ฮาวย้ำคือ

  • ทีมต้องกลับไปเน้นรายละเอียดในช่วงท้ายเกม
  • ต้องบริหารจังหวะให้ดี ไม่ปล่อยให้คู่แข่งตั้งลำกดดันต่อเนื่อง
  • ต้องดึงมาตรฐานเดิมที่เคยรักษาสกอร์ได้ดีกลับมาให้เร็วที่สุด

เพราะในลีกที่ทุกแต้มมีความหมายอย่างพรีเมียร์ลีก การปล่อยหลุดทีละ 2 แต้มจากสถานการณ์ที่ควรเก็บ 3 แต้ม อาจเป็นตัวแปรที่ทำให้หลุดทั้งเป้าหมายท็อปโฟร์ หรือแม้แต่โอกาสลุ้นแชมป์ในระยะยาว

เกล็ดความรู้จากเคสนิวคาสเซิ่ลทำแต้มหล่น

  1. การ “ทำแต้มหล่นจากเกมที่เคยนํา” มักบอกถึงปัญหาเรื่องสมาธิและการตัดสินใจช่วงท้ายเกม มากกว่าปัญหาด้านคุณภาพนักเตะแบบตรงๆ
  2. ทีมที่มีสไตล์บุกดุดัน มักเสี่ยงเสียประตูในจังหวะโต้กลับเสมอ หากไม่รู้จักคุมจังหวะหลังนำสกอร์ – นิวคาสเซิ่ลกำลังเผชิญโจทย์นี้อย่างชัดเจน
  3. แต้มที่หายไปในเดือนนี้ อาจกลายเป็น “ความเสียใจ” ตอนจบฤดูกาล เมื่อกลับมามองตารางคะแนนแล้วพบว่าความต่างระหว่างความสำเร็จกับความผิดหวังมีแค่ไม่กี่คะแนน
  4. การรักษาสกอร์ไม่ใช่แค่หน้าที่แนวรับหรือผู้รักษาประตู แต่มาจากทั้งทีม – ตั้งแต่กองหน้า การเพรสซิ่งแดนบน ไปจนถึงการคอนโทรลบอลของกองกลาง
  5. แฟนบอลมักจำ “เกมที่โดนตีเสมอช่วงทดเจ็บ” ได้ชัดเจนกว่าชัยชนะสกอร์สวยๆ นี่คือบาดแผลที่ทั้งทีมต้องใช้ฟอร์มในอนาคตเยียวยาให้ได้

แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ทั้งข่าวดราม่าเรื่องแต้มหล่น แท็กติก การลุ้นพื้นที่ยุโรป และศึกแย่งจ่าฝูงจากลีกใหญ่ยุโรป…อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ พรีเมียร์ลีก GOALSIAM