คุนญ่ากับความฝันในโรงละครแห่งความฝัน
มาเตอุส คุนญ่า ไม่ได้ย้ายมาใส่เสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แค่เพื่อเป็นนักเตะคนหนึ่งในทีม แต่เขามาพร้อมความตั้งใจจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพา “ปีศาจแดง” กลับไปยืนในจุดที่สโมสรสมควรอยู่ นั่นคือทีมลุ้นแชมป์ทุกรายการใหญ่ ทั้งในประเทศและเวทียุโรป
ดาวยิงบราซิลเลียนเปิดใจอย่างตรงไปตรงมาว่า การได้มาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในอาชีพ และเป็นเวทีที่เขาอยากพิสูจน์ตัวเองให้แฟนบอลทั่วโลกยอมรับ ไม่ใช่แค่ในฐานะกองหน้าฝีเท้าดี แต่เป็นผู้นำแนวรุกที่สามารถผลักดันทีมให้บินสูงได้จริง
คุนญ่ามองว่าการสวมเสื้อหมายเลขของ ยูไนเต็ด ไม่ใช่เรื่องภาพลักษณ์ แต่มันคือ “ความรับผิดชอบ” ที่ต้องตอบแทนด้วยผลงาน การวิ่งไม่มีหมด และทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้แม้ในช่วงเวลาที่ทีมกำลังเป๋

แมนยูยุคอโมริม – โปรเจ็กต์สร้างทีมล่าแชมป์ระยะยาว
ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม ทิศทางของ ยูไนเต็ด ชัดเจนขึ้นว่าไม่ใช่แค่ “สร้างใหม่ไปวัน ๆ” แต่คือการวางโครงสร้างเพื่อให้ทีมกลับไปยืนในกลุ่มลุ้นแชมป์อย่างยั่งยืนในระยะยาว
ซัมเมอร์ที่ผ่านมา ยูไนเต็ดเดินเกมเสริมทัพอย่างจริงจัง ทั้งการดึง คุนญ่า, ไบรอัน เอ็มเบอโม่, เบนยามิน เชชโก้ และ เซนเน่อ ลัมเมนส์ เข้ามาเติมความดุดันในแดนหน้าและเพิ่มมิติให้เกมบุก รูปแบบของทีมจึงเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่เคยพึ่งแค่ไม่กี่คน กลายเป็นแนวรุกที่หมุนเวียนได้ มีตัวสลับขึ้นมาแบกรับภาระยิงประตู
อโมริมคือโค้ชที่เน้นความกดดันสูง การวิ่งไล่เพรสตั้งแต่แดนหน้า การเชื่อมเกมเร็ว และวินัยแท็กติกเข้มข้น ซึ่งเหมาะกับสไตล์ของคุนญ่าอย่างยิ่ง ทำให้กองหน้าชาวบราซิลรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในระบบที่ช่วยดึงศักยภาพออกมาได้เต็มที่
คุนญ่าพูดชัด – แมนยูต้องคิดใหญ่ระดับแชมป์เท่านั้น
สิ่งที่สะท้อนตัวตนของคุนญ่าได้ชัดที่สุด คือคำให้สัมภาษณ์ที่บอกว่า เขาไม่ได้โฟกัสเรื่อง “อิทธิพล” หรือคำชมเท่ากับความรู้สึกว่าทีมยัง “ไปได้ไกลกว่านี้”
คุนญ่ารู้ดีว่าการเล่นให้ ยูไนเต็ด ไม่ใช่ทีมที่พอใจแค่ “ท็อปโฟร์” หรือ “ทำผลงานดีขึ้นจากปีก่อน” แต่คือสโมสรที่ควรตั้งเป้าหมายในการลุ้นแชมป์ลีก และถ้วยใหญ่ทุกรายการอยู่เสมอ เขาเชื่อว่าด้วยขุมกำลังชุดนี้ และทิศทางการทำทีมที่ชัดเจน หากทุกคนเดินไปในเส้นทางเดียวกัน ทีมมีศักยภาพมากพอจะกลับมาท้าทายความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง
กองหน้าบราซิลเลียนยอมรับตรง ๆ ว่า เขายังทำได้มากกว่านี้ เขายังไม่พอใจกับผลงานตัวเอง และความรู้สึกแบบนี้เองที่ผลักดันให้เขาไม่หยุดพัฒนา ทั้งในสนามซ้อมและในเกมจริง
การเปลี่ยนความรู้สึกในห้องแต่งตัว – จากความกังวลสู่ความเชื่อมั่น
สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ฟอร์มในสนาม แต่คือ “บรรยากาศในทีม” คุนญ่าเล่าว่า ตอนนี้เขารับรู้ถึงทัศนคติใหม่ในห้องแต่งตัวของ ยูไนเต็ด ทั้งจากเพื่อนร่วมทีมและสโมสร ทุกคนเริ่มมีความรู้สึกตรงกันว่า “เราทำได้มากกว่านี้” ไม่ใช่แค่เล่นให้จบฤดูกาลไปที
ความเชื่อมั่นนี้ไม่ได้เกิดจากคำพูดสวยหรู แต่เกิดจากการทำงานหนัก ซ้อมเข้ม รายละเอียดแท็กติกที่อโมริมจัดให้แบบไม่ปล่อยผ่าน และเกมแล้วเกมเล่าที่ทีมเริ่มแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสู้ได้กับทุกทีม ไม่ว่าคู่แข่งจะใหญ่แค่ไหน
คุนญ่าจึงมองว่าการได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กต์นี้คือ “ความภูมิใจ” ไม่ใช่เพียงเพราะได้ใส่เสื้อใหญ่ แต่เพราะเขาเชื่อว่าตัวเองกำลังช่วยขับเคลื่อนสโมสรให้กลับไปอยู่ในตำแหน่งที่คู่ควร

เกล็ดความรู้: ทำไมทัศนคติถึงสำคัญต่อทีมลุ้นแชมป์
- สโมสรระดับหัวแถวไม่มองแค่ “ฟอร์มวันนี้” แต่ให้ความสำคัญกับ ทัศนคติและมาตรฐานในการซ้อม แทบทุกวัน เพราะสิ่งนี้สะท้อนว่าจะรักษาระดับผลงานได้ยาวแค่ไหน
- นักเตะที่ย้ายมาทีมใหญ่แล้วพูดถึง “แชมป์” ตั้งแต่วันแรก ไม่ได้หมายความว่าคุยโวเสมอไป แต่มักสะท้อนว่าเขามองตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ไม่ใช่แค่มาเก็บประสบการณ์
- การสร้างทีมสู่ความสำเร็จต้องใช้ทั้งการเสริมผู้เล่นใหม่ และการเปลี่ยน “มุมมองในห้องแต่งตัว” จากความกลัวความผิดพลาดเป็นความเชื่อมั่นว่าทีมสามารถก้าวขึ้นไปท้าทายทุกถ้วยได้
- โปรเจ็กต์ระยะยาวที่มีโค้ชสไตล์ชัด ระบบชัด และนักเตะที่เชื่อในแนวทางเดียวกัน มักสร้างพลังบางอย่างให้ทีมเติบโตเร็วกว่าที่ตัวเลขในตารางคะแนนบอกในช่วงแรก
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล ไม่ว่าจะข่าวตลาดนักเตะ แท็กติกใหม่ หรือทัศนคติของสตาร์ดัง อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ พรีเมียร์ลีก GOALSIAM