บรรยากาศมาคุหลังเกม ฟิออเรนติน่า พ่าย AEK เอเธนส์ คาบ้าน
ค่ำคืนที่ควรเป็นเกมคืนความมั่นใจ กลับกลายเป็นอีกหนึ่งบาดแผลของ ฟิออเรนติน่า เมื่อเปิดรัง อาร์เตมิโอ ฟรังคี่ พ่าย AEK เอเธนส์ 0-1 ในศึกยุโรป ท่ามกลางฟอร์มหล่นอย่างต่อเนื่องทั้งใน กัลโช่ เซเรียอา และเวทียุโรป
ก่อนหน้านี้ “วิโอล่า” แม้จะออกสตาร์ตใน คอนเฟอเรนซ์ลีก ได้ดีด้วยการเก็บชัย 2 นัดรวด แต่ตั้งแต่แยกทางกับ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ ทุกอย่างเหมือนถอยหลังลงเหว แพ้ทั้ง ไมนซ์ และ AEK เอเธนส์ แบบต่อเนื่อง ขณะที่ในลีกยังไม่ชนะใครเลยในซีซันนี้ ความกดดันจึงถาโถมทั้งนักเตะและสตาฟฟ์แบบเต็ม ๆ
ทว่าเรื่องร้อนสุดหลังเกมกลับไม่ใช่แค่สกอร์ แต่มันคือ “ระเบิดอารมณ์” จากปากของดาวยิงตัวเก๋าอย่าง เอดิน เชโก้ ที่หันไปส่งสารตรงถึงแฟนบอลทีมตัวเองอย่างดุเดือด
เชโก้อัดตรง ๆ ถึงแฟนวิโอล่า – “จะด่าได้ แต่ขอเชียร์ระหว่างเกม”
หลังเกมจบ เชโก้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออิตาลีด้วยน้ำเสียงที่ทั้งผิดหวังทั้งไม่พอใจ เขายอมรับว่าทีมเล่นต่ำกว่ามาตรฐาน แต่ก็ไม่ลืมส่งข้อความสำคัญไปถึงแฟนบอลในสนาม

เขาเล่าว่า ทีมซ้อมมาดี แผนของโค้ชถูกเตรียมอย่างละเอียด เกมครึ่งแรกยังดูโอเค แถมมีจังหวะยิงเข้าแต่โดนจับล้ำหน้า ก่อนจะมาโดนลงโทษหลังเสียประตูให้ทีมเยือน จนทุกอย่างเริ่มติดขัดและยากขึ้นเรื่อย ๆ
จุดที่ทำให้กองหน้าจอมเก๋าทนไม่ไหวคือ บรรยากาศในสนามที่เขายืนยันว่า “ไม่เป็นมิตร” กับนักเตะตัวเองเอาเสียเลย
“คุณจะบอกว่าเราห่วย จะบอกว่าเราไม่คู่ควรกับเสื้อตัวนี้ก็ได้ ผมไม่ว่าอะไร” เชโก้ระบาย
“แต่ถ้าเรากำลังเล่นอยู่ในบ้าน เราต้องการ แฟนบอล ช่วยดันเรา ไม่ใช่โห่ทุกครั้งที่จ่ายบอลพลาด”
เชโก้ย้ำชัดว่า ถ้าจะโห่ จะด่า ให้อัดเต็มที่หลังจบ 90 นาทีไปแล้ว แต่ระหว่างเกม ทีมต้องการพลังบวกจากอัฒจันทร์ ไม่ใช่เสียงกดดันที่ถาโถมลงมาใส่เพื่อนร่วมทีมทุกครั้งที่สัมผัสบอลพลาดแม้แค่จังหวะเดียว
ทีมไม่ฟอร์ม – แฟนไม่อารมณ์ เชโก้ชี้นี่คือวงจรอันตราย
ในมุมของหัวหอกประสบการณ์สูงอย่างเชโก้ เขาไม่ได้ปฏิเสธความจริงว่า ฟิออเรนติน่า เล่นไม่ดีพอ เขาบอกเองตรง ๆ ว่า
- ทีมไม่สามารถต่อบอลกันให้ไหลลื่นได้เลย
- จะให้ต่อบอลกันสวย ๆ สองสามจังหวะติดยังยาก
- จากทีมที่ควรเล่นเนียนกว่านี้ กลับกลายเป็นเล่นกันแบบเกร็ง ๆ
แต่สิ่งที่เขาสะท้อนคือ เมื่อทุกครั้งที่มีการจ่ายพลาดแล้วเสียงโห่ดังลงมา นักเตะที่พลาดจะเกิดอาการไม่กล้าเล่นทันที
เขาอธิบายชัดมากว่า
- พอโดนโห่ นักเตะจะเริ่ม “กลัวผิด”
- จากเดิมที่กล้าจ่ายเสี่ยง กล้าสร้างจังหวะ กลับเลือกเล่นง่าย ไม่กล้ารับบอล หรือหนีบอล
- ผลคือเกมรุกฝืดกว่าเดิม ทุกอย่างยิ่งดูเละ และแฟนก็ยิ่งไม่พอใจ เป็นลูปแย่ ๆ ที่วนไม่จบ
เชโก้จึงย้ำว่า ทีมต้องการ “แรงสนับสนุนจากบนสแตนด์” มากกว่าพลังลบที่ทำให้บรรยากาศในบ้านกลายเป็นสนามของทีมเยือนแทน

โค้ชวานโอลลิงประสบการณ์เชโก้-เด เคอา มาช่วยแบกความกดดัน
เปาโล วานโอลลี เฮดโค้ชฟิออเรนติน่า เลือกส่ง เชโก้ และ ดาบิด เด เคอา ลงเป็นตัวจริงก็เพราะต้องการใช้ประสบการณ์ระดับสูงของทั้งคู่มารับมือแรงกดดันทั้งจากผลการแข่งขันและบรรยากาศบนอัฒจันทร์
ในเกมที่ทีมกำลังเล่นด้วยความมั่นใจต่ำ การมีแข้งที่เคยผ่านเวทีใหญ่ระดับยุโรปมาแล้วช่วยประคองรุ่นน้องถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่แม้จะมีสองตัวเก๋าลงสนาม ฟอร์มโดยรวมของทีมก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากอาการเล่นผิด ๆ ถูก ๆ ต่อบอลไม่ได้นาน วนกลับไปติดกับดักเดิมคือเล่นไปกลัวไป
เชโก้ในฐานะรุ่นใหญ่ จึงไม่ใช่แค่รับบทกองหน้าในสนาม แต่ยังกลายเป็น “กระบอกเสียง” ให้ทั้งห้องแต่งตัว ส่งสารไปถึงแฟนบอลแบบไม่อ้อมค้อมว่า ทีมต้องการทุกคนเดินไปในทิศทางเดียวกัน
สนามสร้างใหม่ – บรรยากาศแปลก ขวัญกำลังใจหายไปครึ่ง
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกมนี้ดูหม่นเป็นพิเศษ คือสภาพ สตาดิโอ อาร์เตมิโอ ฟรังคี่ ที่กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงและรื้อถอนบางส่วน
- อัฒจันทร์หลายโซนถูกปิดหรือถูกรื้อ ทำให้สเตเดียมโล่งผิดปกติ
- จำนวนผู้ชมในเกมนี้อยู่ราว ๆ 9,000 คน เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับศักยภาพของสนาม
- เสียงเชียร์จึงไม่อัดแน่นเป็นกำแพงเสียงเหมือนเกมใหญ่ในอดีต แต่กลับกัน แฟนทีมเยือนจากกรีซยังดังกลบได้ในหลายช่วง
เชโก้ยอมรับว่า “สถานการณ์สนามที่แปลก ๆ” มีผลต่อความรู้สึกของผู้เล่นในบ้าน แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังยืนยันว่าทุกคนในสโมสร – โดยเฉพาะแฟนบอล – ต้องช่วยกันดึงพลังบวกกลับมา ไม่อย่างนั้นบรรยากาศลบจะยิ่งวนซ้ำและถ่วงทีมให้ดิ่งลงเรื่อย ๆ
สรุป: เชโก้ไม่หนีความจริง แต่ขอให้แฟนสู้ไปด้วยกัน
ทั้งหมดที่ เชโก้ พูดออกมาไม่ใช่การปัดความผิดหรือตั้งแง่กับแฟนบอล เขายอมรับเต็ม ๆ ว่า
- ทีมเล่นไม่ดี
- ผลงานไม่สมระดับตราสโมสร
- เสียงวิจารณ์เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ในมุมของคนที่ลงไปวิ่งในสนาม เขาเรียกร้องแค่สิ่งเดียวคือ
“ในระหว่างเกม เราต้องการแรงเชียร์ ไม่ใช่แรงกดดัน”
ฟุตบอลไม่ใช่เรื่องของ 11 คนในสนามเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของทั้งทีม สตาฟฟ์ แฟนบอล และบรรยากาศรอบสโมสรทั้งหมด ถ้าในวันที่ฟอร์มหลุดทุกอย่างพังพร้อมกัน ทั้งในและนอกสนาม การจะดึงทีมกลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นก็ยิ่งยากขึ้นหลายเท่า

เกล็ดความรู้จากดราม่า ฟิออเรนติน่า – AEK เอเธนส์
- สโมสรที่กำลังปรับปรุงสนามใหญ่ มักเจอปัญหาบรรยากาศเชียร์หาย เพราะจำนวนผู้ชมลดลงและเสียงไม่หนาแน่นเหมือนเดิม
- นักเตะรุ่นใหญ่เช่น เชโก้ และ เด เคอา มักถูกเลือกใช้งานในเกมกดดัน ไม่ใช่แค่ฝีเท้า แต่เพราะมีประสบการณ์รับมือเสียงโห่ เสียงวิจารณ์ได้ดีกว่ารุ่นน้อง
- ทีมที่ผลงานตกไม่ใช่แค่ปัญหาแท็กติกหรือโค้ชอย่างเดียว แต่บรรยากาศในสนามและท่าทีของแฟนบอลก็มีผลต่อ “ความกล้าเล่น” และการตัดสินใจของนักเตะแบบตรง ๆ
- การโห่ระหว่างเกม ส่งผลทางจิตวิทยากับผู้เล่นมากกว่าที่คิด ทำให้หลายคนเลือกเล่นแบบเซฟ ไม่กล้าเสี่ยง กลายเป็นทำให้เกมรุกตันหนักกว่าเดิม
- ลีกยุโรปหลายทีมเคยผ่านสถานการณ์คล้ายกันมาแล้ว และพอแฟนบอลกลับมาสนับสนุนเต็มที่ ทีมก็สามารถกลับมามีฟอร์มที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
แฟนลูกหนังที่อยากตามทุกดราม่า ทุกมุมมองของโลกฟุตบอลยุโรป ทั้งในสนามและบนอัฒจันทร์ ติดตามเรื่องราวจัดเต็มแบบนี้ได้ตลอดที่ ฟุตบอลต่างประเทศ GOALSIAM