ลำพูน วอริเออร์ ทีมลูกหนังจากเมืองรถม้า ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 14 บนตารางฟุตบอล T1 ฤดูกาล 2025/26 หลังจบเลกแรก ตัดสินใจเขย่าทีมครั้งใหญ่ด้วยการแต่งตั้ง เดนนิส อมาโต้ กุนซือสายทำทีมเล็กให้หนีตาย มาเป็น เฮดโค้ชคนใหม่ สำหรับลุยศึกเลกสองอย่างเป็นทางการ นี่คือสัญญาณชัดเจนว่า “กระทิงทอง” ไม่คิดยอมแพ้ต่อชะตากรรม และพร้อมเปิดหน้าสู้เพื่ออยู่รอดบนลีกสูงสุดให้ได้
ลำพูน วอริเออร์ กับจุดเปลี่ยนสำคัญในเลกสอง
สถานการณ์ของ ลำพูน วอริเออร์ หลังจบเลกแรกไม่ได้สวยหรูเท่าไหร่ การอยู่ในอันดับ 14 ทำให้ทีมต้องมองลงไปด้านล่างของตารางมากกว่ามองขึ้นข้างบน และเมื่อโซนตกชั้นเริ่มใกล้เข้ามา การเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งกุนซือจึงกลายเป็น “หมากจำเป็น”
การดึงโค้ชต่างชาติอย่าง อมาโต้ เข้ามารับงานช่วงเลกสอง เท่ากับว่าบอร์ดบริหารพยายามหา “ตัวเลือกที่มีประสบการณ์ตรง” ทั้งในแง่การทำทีมในเมืองไทย และการรับมือกับแรงกดดันในลีกที่ไม่มีเกมไหนง่ายในทุกสัปดาห์
เขาไม่ได้มาเพื่อสร้างทีมในระยะยาวอย่างเดียว แต่ถูกวางบทบาทให้เป็นคนพาทีม “เอาตัวรอดให้ได้ก่อน” แล้วค่อยว่ากันต่อว่าฤดูกาลหน้า ลำพูน จะยืนอยู่ตรงจุดไหนบนแผนที่ ไทยลีก
โปรไฟล์ เดนนิส อมาโต้ โค้ชสายแกร่งจากเมืองเบียร์
เดนนิส อมาโต้ กุนซือชาวเยอรมัน วัย 45 ปี ไม่ใช่ชื่อใหม่สำหรับวงการฟุตบอลไทย เพราะเขาเคยผ่านงานสำคัญมาแล้วหลายสถานี และแทบทุกทีมที่เขาคุม ล้วนมีคำว่า “พาทีมทะยานจาก T2” พ่วงอยู่ด้วย
- เคยคุม ชัยนาท ฮอร์นบิล คว้าแชมป์ T2 ฤดูกาล 2017
- พา เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ซิวรองแชมป์ T2 ฤดูกาล 2020/21
- นำ สุโขทัย เอฟซี คว้ารองแชมป์ T2 ฤดูกาล 2021/22
การผ่านศึก T2 มาหลายสนาม ทำให้ อมาโต้ เป็นโค้ชที่เข้าใจดีว่าทีมที่ไม่ได้เป็นบิ๊กเนม จะต้องเล่นอย่างไรให้มีความสมดุลระหว่าง “ความกล้าได้กล้าเสีย” กับ “ความรัดกุม”
จากสปอร์ตไทย-บาวาเรีย สู่เก้าอี้เฮดโค้ช T1
ก่อนจะเติบโตเป็นเฮดโค้ชเต็มตัว เดนนิส อมาโต้ เริ่มต้นเส้นทางสายโค้ชในประเทศไทยกับบริษัท สปอร์ตไทย-บาวาเรีย ทำหน้าที่คัดเลือกเยาวชนไทยที่มีแวว ส่งไปฝึกฟุตบอลกับสโมสร บาเยิร์น มิวนิค หนึ่งในทีมระดับมหาอำนาจของยุโรป
ทีมเยาวชนที่เขาดูแลในสมัยนั้นสามารถคว้าอันดับ 3 ในการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนที่มีสโมสรจาก ออสเตรีย, เยอรมัน, ญี่ปุ่น, จีน และสหรัฐอเมริกา เข้าร่วม เป็นผลงานที่สะท้อนให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีดีแค่การคุมทีมระดับอาชีพ แต่ยังมีสายตาและแนวคิดด้านการพัฒนาเยาวชนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งที่ ลำพูน วอริเออร์ สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ เพราะการอยู่รอดบนลีกสูงสุด ไม่ใช่แค่เรื่องการซื้อดาวดัง แต่คือการปั้นนักเตะที่ “ใช้งานได้ทันที” ให้ขึ้นมาช่วยทีมในช่วงเวลาอันคับขันด้วย
ภารกิจใหญ่ของอมาโต้: พาลำพูนหนีหลุมอันตราย
เมื่อรับงานกลางซีซั่น สิ่งแรกที่ อมาโต้ ต้องทำคือ “อ่านสภาพทีมให้ขาด” ว่า ลำพูน ตอนนี้มีอะไรดี มีอะไรหายไป และจุดไหนคือบาดแผลใหญ่ในสนาม
การยืนในโซนท้ายตารางหมายความว่า ทีมอาจขาดความต่อเนื่องในเรื่องแท็กติก เสียประตูง่ายในช่วงสำคัญ หรือปิดเกมไม่ได้แม้จะมีโอกาส ซึ่งทั้งหมดคือโจทย์ที่เฮดโค้ชชาวเยอรมันต้องเร่งแก้
ในแง่เมนทัล เกมเลกสองทุกแมตช์จะไม่ใช่แค่เกมลีกธรรมดา แต่คือ “เกมตัดสินอนาคตสโมสร” เพราะเพียงพลาดต่อเนื่องไม่กี่นัด ทุกอย่างอาจดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นระบบเกมรับที่เหนียวแน่น การเปลี่ยนจังหวะรุกให้มีพิษ และมาตรฐานของนักเตะตัวหลักจึงสำคัญสุดๆ
บอร์ดลำพูนส่งสัญญาณ “สู้เต็มข้อ ไม่คิดยอมตกชั้น”
การตัดสินใจเปลี่ยนกุนซือไม่เคยเป็นเรื่องเล็กสำหรับสโมสรใดทั้งนั้น แต่สำหรับ ลำพูน วอริเออร์ ครั้งนี้คือการส่งสัญญาณไปถึงแฟนบอลว่า “ทีมยังไม่ยอมแพ้”
การเลือกโค้ชที่ผ่านงานในไทยมาหลายระดับ แปลว่าบอร์ดอยากได้คนที่เข้าใจพื้นฐานนักเตะไทย สภาพสนาม สไตล์คู่แข่ง และแรงกดดันจากแฟนบอลในลีกนี้อยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวมาก
นี่คือการเดิมพันที่ทุกฝ่ายต้องร่วมรับผิดชอบ ทั้งผู้บริหาร สตาฟฟ์ นักเตะ และแฟนบอล เพราะหาก อมาโต้ สามารถพาทีมหนีโซนอันตรายได้สำเร็จ เรื่องนี้อาจกลายเป็นหนึ่งใน “เคสศึกษาคลาสสิก” ของทีมเล็กที่พลิกสถานการณ์ใน ไทยลีก ก็เป็นได้
เกล็ดความรู้สั้นๆ เกี่ยวกับเดนนิส อมาโต้ และลำพูน วอริเออร์
- อมาโต้ ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในโค้ชต่างชาติที่ “รู้ทางบอลไทย” ดีที่สุดคนหนึ่ง จากประสบการณ์ทั้ง T1 และ T2
- ลำพูน วอริเออร์ เป็นหนึ่งในสโมสรที่มีฐานแฟนบอลเหนียวแน่นในภาคเหนือ หากทีมผลงานดี เสียงเชียร์ในบ้านคืออาวุธใหญ่ทันที
- การเปลี่ยนกุนซือในช่วงเลกสอง มักถูกใช้เป็น “ไม้ตายสุดท้าย” ของหลายทีมที่ต้องการสร้างแรงกระตุ้นแบบเร่งด่วน
ขอบคุณรูปภาพจาก Lamphun Warriors
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของ ไทยลีก, ข่าวการเปลี่ยนแปลงกุนซือ และเบื้องลึกเบื้องหลังวงการลูกหนังไทย อย่าลืมติดตามทุกความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ฟุตบอลไทย GOALSIAM นะคะ
